ไขข้อข้องใจ "Certified Translation" ที่ใช้ในต่างประเทศ คืออะไร?
เมื่อต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นในต่างประเทศ คุณมักจะเจอกับคำว่า "Certified Translation" หรือ "คำแปลที่ได้รับการรับรอง" แต่คำๆ นี้มีความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ การเข้าใจความหมายที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณเตรียมเอกสารได้ไม่ผิดพลาด ไม่เสียเวลา และไม่เสียเงินโดยใช่เหตุ บทความนี้จะอธิบายให้คุณเข้าใจอย่างชัดเจน
การรับรองคำแปลในบริบทของ "ประเทศไทย"
สำหรับในประเทศไทย เมื่อพูดถึงการรับรองคำแปล โดยทั่วไปจะหมายถึง 2 รูปแบบหลัก:
- การประทับตรารับรองของบริษัทแปล: คือการที่บริษัทแปลที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ประทับตรารับรองบนเอกสารฉบับแปล เพื่อยืนยันว่าเอกสารนั้นได้รับการแปลโดยบริษัทอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปสำหรับหน่วยงานราชการไทยส่วนใหญ่
- การรับรองนิติกรณ์เอกสารโดยกรมการกงสุล: นี่คือการรับรองขั้นสูงสุดของไทย โดยเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลจะทำการรับรองลายมือชื่อและตราประทับของเจ้าหน้าที่รัฐผู้ออกเอกสารต้นฉบับ (เช่น นายอำเภอ) ไม่ใช่การรับรองความถูกต้องของเนื้อหาคำแปล แต่เป็นการยืนยันความถูกต้องของเอกสารราชการไทยเพื่อให้สามารถนำไปใช้อ้างอิงทางกฎหมายในต่างประเทศได้
"Certified Translation" ใน "สหรัฐอเมริกา"
ในสหรัฐอเมริกา ความหมายของ "Certified Translation" จะแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ (USCIS) ไม่ได้กำหนดให้ต้องมีการรับรองจากหน่วยงานรัฐใดๆ แต่กำหนดว่าเอกสารแปลทุกฉบับจะต้องแนบ **ใบรับรองจากผู้แปล (Certification by Translator)**
ใบรับรองนี้คือเอกสารที่ผู้แปลหรือบริษัทแปลออกให้เอง โดยมีข้อความสำคัญที่ระบุว่า:
- ผู้แปลมีความสามารถในการแปลจากภาษาต้นทาง (เช่น ภาษาไทย) เป็นภาษาอังกฤษ
- คำแปลนั้นถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ (complete and accurate)
นอกจากนี้ ในใบรับรองจะต้องระบุชื่อเต็ม, ลายมือชื่อ, ข้อมูลติดต่อของผู้แปล, และวันที่ที่ทำการแปลอย่างชัดเจน นี่คือมาตรฐานที่ NYCplus.online เชี่ยวชาญและให้บริการสำหรับลูกค้าที่ยื่นวีซ่าอเมริกาทุกประเภท
"Certified Translation" ใน "สหราชอาณาจักร"
สำหรับสหราชอาณาจักร (UK) ข้อกำหนดมีความคล้ายคลึงกับของสหรัฐอเมริกา โดยหน่วยงาน UK Visas and Immigration (UKVI) หรือ Home Office กำหนดว่าเอกสารแปลจะต้องมีคำยืนยันจากผู้แปลหรือบริษัทแปลว่า "เป็นคำแปลที่ถูกต้องของเอกสารต้นฉบับ" (a true and accurate translation of the original document)
ใบรับรองจะต้องระบุวันที่แปล, ชื่อเต็มและข้อมูลการติดต่อของผู้แปลหรือบริษัทแปลเช่นกัน แม้ใน UK จะมีสถาบันวิชาชีพสำหรับนักแปล (เช่น ITI หรือ CIOL) แต่การรับรองโดยบริษัทแปลที่น่าเชื่อถือก็เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปสำหรับวีซ่าส่วนใหญ่
สรุป: แล้วฉันต้องใช้การรับรองแบบไหน?
คำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ **"ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของประเทศและหน่วยงานที่คุณจะยื่นเอกสาร"** ไม่มีคำตอบเดียวที่ใช้ได้กับทุกกรณี
| ประเทศ/ภูมิภาค | รูปแบบการรับรองที่ต้องการโดยทั่วไป |
|---|---|
| ประเทศไทย (สำหรับใช้ในไทย) | ประทับตรารับรองโดยบริษัทแปล |
| สหรัฐอเมริกา | ใบรับรองจากผู้แปล (Certification by Translator) |
| สหราชอาณาจักร | ใบรับรองจากผู้แปล/บริษัทแปล (Certified Translation) |
| ออสเตรเลีย | การรับรองโดยนักแปล NAATI เท่านั้น |
| จีน, เวียดนาม, อิตาลี, ฯลฯ | แปล + รับรองกงสุลไทย + รับรองโดยสถานทูตของประเทศนั้นๆ |
ไม่แน่ใจว่าต้องใช้การรับรองแบบไหน?
ความสับสนเหล่านี้คือเหตุผลที่การเลือกใช้บริการจากมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญ ที่ NYCplus.online เรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการเตรียมเอกสารสำหรับยื่นในนานาประเทศ เราสามารถให้คำแนะนำและจัดเตรียมรูปแบบการรับรองที่ถูกต้องสำหรับประเทศปลายทางของคุณได้อย่างครบวงจร
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา