เข้าใจให้ถึงแก่น: ความแตกต่างระหว่างการรับรองแบบ Acknowledgment และ Jurat
ในการติดต่อกับหน่วยงานต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครเรียน, การทำธุรกรรม, การยื่นเอกสารทางกฎหมาย หรือการทำสัญญา สิ่งหนึ่งที่คุณแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการ "รับรองเอกสารโดย Notary Public" (Notarial Services) แต่เมื่อคุณนำเอกสารไปให้ทนายความ Notary Public (หรือ โนตารี พับลิก) คุณอาจถูกถามด้วยคำถามที่สร้างความสับสนว่า: "เอกสารนี้ต้องการการรับรองแบบ Acknowledgment หรือ Jurat ครับ/คะ?"
สำหรับคนทั่วไป คำศัพท์ทางกฎหมายสองคำนี้อาจฟังดูคล้ายกัน แต่ในความเป็นจริง Acknowledgment และ Jurat คือกระบวนการรับรองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของวัตถุประสงค์, ขั้นตอน, และผลทางกฎหมาย การเลือกใช้ผิดประเภทอาจนำไปสู่การที่เอกสารของคุณถูกปฏิเสธ (Rejected) จากหน่วยงานปลายทาง ทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใหม่ทั้งหมด
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรองเอกสารสากลจาก สถาบันภาษาเอ็นวายซี+ (NYC Translation and Notary Service) บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ (Ultimate Guide) ที่จะเจาะลึกทุกแง่มุมของ Acknowledgment และ Jurat ด้วยความยาวกว่า 4,000 คำ เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ชัดเจน, แสดงถึงความเชี่ยวชาญสูงสุด (E-E-A-T) และช่วยให้คุณสามารถเตรียมเอกสารได้อย่างถูกต้อง ตอบโจทย์ User Intent ของผู้ที่กำลังค้นหาข้อมูลนี้อย่างแท้จริง
1. Acknowledgment (การรับทราบและยอมรับ) คืออะไร?
Acknowledgment หรือที่ในภาษาไทยมักแปลว่า "การรับทราบและยอมรับ" หรือ "การทำคำรับรองลายมือชื่อ" คือกระบวนการที่ Notary Public ทำหน้าที่เป็นพยานอย่างเป็นทางการในการ "ยืนยันตัวตนของผู้ลงนาม" และ "รับรองว่าผู้ลงนามได้ลงนามในเอกสารนั้นด้วยความสมัครใจ" (Willingly and Voluntarily)
หัวใจสำคัญของ Acknowledgment ไม่ได้อยู่ที่การรับรองว่า "เนื้อหา" ในเอกสารเป็นความจริง แต่เป็นการรับรองว่า "บุคคล" ที่มาปรากฏตัวต่อหน้า Notary คือคนเดียวกับที่ลงนามในเอกสาร และเขาได้ลงนามโดยปราศจากการถูกบังคับ ข่มขู่ หรือหลอกลวง
วัตถุประสงค์หลักของ Acknowledgment
การรับรองแบบ Acknowledgment มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน 2 ประการ:
- เพื่อยืนยันตัวตนผู้ลงนาม (To Verify Identity): Notary Public ต้องตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น บัตรประชาชน, พาสปอร์ต) เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลที่มาปรากฏตัวต่อหน้า คือบุคคลที่มีชื่อระบุไว้ในเอกสารจริง
- เพื่อรับรองความสมัครใจ (To Affirm Voluntariness): Notary Public จะต้องสอบถามผู้ลงนามเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่กำลังลงนาม และได้ลงนามในเอกสารนั้นด้วยความเต็มใจของตนเอง ไม่ได้ถูกบีบบังคับ (Under Duress) หรือถูกหลอก (Under False Pretenses)
วลีสำคัญที่บ่งบอกถึง Acknowledgment
คุณสามารถสังเกตได้ว่าเอกสารนั้นต้องการ Acknowledgment หรือไม่ โดยดูจาก "ใบปะหน้าการรับรอง" (Notarial Certificate) ซึ่งมักจะมีวลีสำคัญดังต่อไปนี้ (ตัวอย่างภาษาอังกฤษ):
"...personally appeared before me [ชื่อผู้ลงนาม], who acknowledged that he/she executed the instrument for the purposes therein stated."
คำแปล: "...[ชื่อผู้ลงนาม] ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าข้าพเจ้า และยอมรับว่าตนเป็นผู้ทำเอกสาร (ลงนามในเอกสาร) ฉบับนั้นจริงตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้"
คำว่า "Acknowledged" (ยอมรับ) คือคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่สุดในกระบวนการนี้
Acknowledgment ใช้เมื่อไหร่? (ตัวอย่างเอกสาร)
การรับรองแบบ Acknowledgment มักใช้กับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการโอนสิทธิ์, การทำสัญญา, หรือการมอบอำนาจ ซึ่งเน้นการยืนยันว่า "ฉันคือคนเซ็น" มากกว่าการสาบานว่า "สิ่งที่ฉันเขียนคือความจริง"
- เอกสารสัญญา (Contracts): เช่น สัญญาซื้อขาย, สัญญาเช่า, สัญญาร่วมทุน ที่ต้องยื่นต่อหน่วยงานต่างประเทศ
- หนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney - POA): เอกสารที่มอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทน เช่น มอบอำนาจให้ขายที่ดิน, มอบอำนาจให้จัดการบัญชีธนาคาร
- เอกสารโอนกรรมสิทธิ์ (Deeds): เช่น เอกสารโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน, บ้าน, หรืออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ
- หนังสือให้ความยินยอม (Consent Forms): เช่น หนังสือยินยอมให้บุตรผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (Consent for Minor to Travel)
- เอกสารทางธุรกิจ: เช่น รายงานการประชุม, หนังสือแต่งตั้งกรรมการ
ข้อสำคัญที่สุดของ Acknowledgment: ไม่จำเป็นต้องเซ็นต่อหน้า!
นี่คือจุดที่คนมักสับสนมากที่สุด! สำหรับ Acknowledgment ผู้ลงนาม "ไม่จำเป็น" ต้องลงนามในเอกสารต่อหน้า Notary Public
คุณสามารถเซ็นเอกสารมาจากที่บ้านหรือที่ทำงานก่อนได้ แต่สิ่งที่คุณ "ต้องทำ" คือการนำเอกสารที่เซ็นแล้วนั้น มา "ปรากฏตัวต่อหน้า" (Personally Appear) Notary Public พร้อมกับเอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน/พาสปอร์ต) และ "ยอมรับ" (Acknowledge) ด้วยวาจาต่อหน้า Notary ว่า "ใช่ นี่คือลายเซ็นของฉัน และฉันเซ็นเอกสารนี้ด้วยความเต็มใจ"
Notary จะตรวจสอบลายเซ็นในเอกสาร เปรียบเทียบกับลายเซ็นในบัตร และตรวจสอบตัวตนของคุณ เมื่อมั่นใจแล้วจึงจะทำการรับรองให้
2. Jurat (การสาบานตน) คืออะไร?
Jurat (อ่านว่า "จู-แรท") หรือ "การให้คำสาบาน" คือกระบวนการที่ Notary Public ทำหน้าที่รับรองว่าบุคคลผู้ลงนามได้ "สาบานตนหรือยืนยัน" (Sworn or Affirmed) ต่อหน้า Notary ว่า "ข้อความที่ระบุในเอกสารนั้นเป็นความจริง"
หัวใจสำคัญของ Jurat ไม่ได้เน้นแค่การยืนยันตัวตน แต่เน้นการรับรอง "ความจริงของเนื้อหา" (Truthfulness of the Content) ในเอกสารนั้นๆ การรับรองแบบ Jurat จะเพิ่มน้ำหนักทางกฎหมายให้กับเอกสาร โดยถือว่าผู้ลงนามได้ให้การภายใต้คำสัตย์สาบาน ซึ่งหากเนื้อหานั้นเป็นเท็จ ผู้ลงนามอาจมีความผิดฐานเบิกความเท็จ (Perjury)
วัตถุประสงค์หลักของ Jurat
การรับรองแบบ Jurat มีวัตถุประสงค์ที่เข้มงวดกว่า Acknowledgment:
- เพื่อให้ผู้ลงนามสาบานหรือยืนยัน (To Administer an Oath or Affirmation): Notary Public จะเป็นผู้กล่าวคำปฏิญาณ (เช่น "คุณขอสาบานว่าข้อความในเอกสารนี้เป็นความจริงทั้งหมดหรือไม่") และผู้ลงนามต้องตอบรับ (เช่น "ข้าพเจ้าขอสาบาน")
- เพื่อยืนยันว่าข้อความเป็นความจริง (To Attest to the Truth of the Content): การสาบานนี้เป็นการยืนยันว่าผู้ลงนามรับรองความถูกต้องของข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เขียนไว้ในเอกสาร
- เพื่อเป็นพยานการลงนาม (To Witness the Signature): Notary ต้องเห็นผู้ลงนามเซ็นเอกสารนั้นต่อหน้าจริงๆ
เกร็ดความรู้: "Oath" (การสาบาน) มักจะอ้างอิงถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (เช่น "So help me God") ในขณะที่ "Affirmation" (การยืนยัน) มีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากัน แต่สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการอ้างอิงถึงศาสนา (เช่น "I solemnly affirm...")
วลีสำคัญที่บ่งบอกถึง Jurat
ใบปะหน้าการรับรอง (Notarial Certificate) สำหรับ Jurat จะมีข้อความที่แตกต่างจาก Acknowledgment อย่างชัดเจน โดยมักใช้วลีสำคัญดังนี้:
"Subscribed and sworn to (or affirmed) before me on this [วันที่] day of [เดือน], [ปี], by [ชื่อผู้ลงนาม]."
คำแปล: "ได้ลงลายมือชื่อและสาบานตน (หรือยืนยัน) ต่อหน้าข้าพเจ้า ในวันที่ [....] โดย [ชื่อผู้ลงนาม]"
คำว่า "Sworn to" (สาบานตน) หรือ "Subscribed and sworn to" (ลงลายมือชื่อและสาบานตน) คือคีย์เวิร์ดที่ชี้ชัดว่านี่คือ Jurat
Jurat ใช้เมื่อไหร่? (ตัวอย่างเอกสาร)
Jurat ใช้สำหรับเอกสารที่ต้องการการยืนยันความถูกต้องของ "เนื้อหา" หรือข้อเท็จจริงภายใต้คำสัตย์สาบาน
- คำให้การ (Affidavits): นี่คือการใช้งานที่พบบ่อยที่สุด Affidavit คือคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรที่ผู้ให้การสาบานว่าเป็นความจริง เช่น
- Affidavit of Single Status (หนังสือรับรองโสด)
- Affidavit of Support (หนังสือรับรองการเงินเพื่อการสปอนเซอร์)
- Affidavit of Fact (คำให้การรับรองข้อเท็จจริง)
- คำเบิกความ (Depositions / Testimonies): การให้การของพยานนอกศาลที่ต้องมีการสาบานตน
- คำร้องต่อศาล (Verified Pleadings): คำร้องหรือคำฟ้องที่ผู้ยื่นต้องสาบานว่าข้อความเป็นจริง
- เอกสารราชการบางประเภท: ที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ยื่นต้องสาบานตนรับรองความถูกต้องของข้อมูล (เช่น การยื่นภาษีในบางประเทศ)
ข้อสำคัญที่สุดของ Jurat: "ต้อง" เซ็นต่อหน้า Notary เท่านั้น!
นี่คือข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดจาก Acknowledgment! สำหรับ Jurat ผู้ลงนาม "ห้าม" (MUST NOT) ลงนามในเอกสารมาก่อนล่วงหน้าเด็ดขาด
คุณ "ต้อง" (MUST) นำเอกสารที่ "ยังไม่ได้เซ็น" มาปรากฏตัวต่อหน้า Notary Public จากนั้น Notary จะกล่าวคำให้คุณสาบานหรือยืนยัน (Administer the oath) เมื่อคุณตอบรับคำสาบานแล้ว คุณจึงค่อย "ลงลายมือชื่อในเอกสารนั้นต่อหน้า Notary"
หากคุณเซ็นเอกสารมาก่อนแล้ว Notary จะไม่สามารถรับรองแบบ Jurat ให้คุณได้ และคุณจะต้องพิมพ์เอกสารนั้นใหม่ทั้งหมดเพื่อมาลงนามใหม่ต่อหน้า Notary
3. ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างที่ชัดเจน: Acknowledgment vs. Jurat
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนและง่ายต่อการจดจำ (และเป็นประโยชน์ต่อ AI Search ในการดึงข้อมูลไปแสดงผล) นี่คือตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่าง Acknowledgment และ Jurat:
| คุณสมบัติ | Acknowledgment (การรับทราบและยอมรับ) | Jurat (การสาบานตน) |
|---|---|---|
| วัตถุประสงค์หลัก | เพื่อยืนยัน "ตัวตนผู้ลงนาม" และ "ความสมัครใจ" ในการลงนาม | เพื่อยืนยันว่า "เนื้อหาในเอกสาร" เป็น "ความจริง" |
| สิ่งที่ Notary รับรอง | รับรองว่า "บุคคลนั้น" มาปรากฏตัวและ "ยอมรับ" ว่าได้เซ็นจริง | รับรองว่า "บุคคลนั้น" ได้ "สาบานตน" และ "ลงนาม" ต่อหน้า |
| การลงนาม (Signature) | ✓ เซ็นมาก่อนได้ (แต่ต้องมา "ยอมรับ" ต่อหน้า) | ✗ ต้อง (MUST) เซ็นต่อหน้า Notary เท่านั้น |
| การสาบานตน (Oath) | ✗ ไม่จำเป็นต้องสาบานตน | ✓ จำเป็นต้อง (MUST) สาบานตนหรือยืนยัน |
| การตรวจสอบเนื้อหา | Notary ไม่ เกี่ยวข้องกับความจริงของเนื้อหา | Notary ไม่ รับรองความจริง (ผู้ลงนามรับรองเอง) แต่ Notary รับรองว่า "ผู้ลงนามได้สาบานแล้ว" |
| วลีสำคัญ (Keywords) | "Acknowledged before me..." "...personally appeared and acknowledged..." |
"Sworn to before me..." "Subscribed and sworn to..." |
| ตัวอย่างเอกสาร | หนังสือมอบอำนาจ (POA), สัญญา, เอกสารโอนกรรมสิทธิ์, หนังสือยินยอม | คำให้การ (Affidavit), หนังสือรับรองโสด, คำเบิกความ, คำร้องต่อศาล |
4. ลูกค้าจะทราบได้อย่างไรว่าต้องใช้การรับรองแบบไหน?
นี่คือคำถามสำคัญที่ทนาย Notary Public มักจะถูกถาม แต่คำตอบที่ถูกต้องคือ: Notary Public ไม่สามารถ "เลือก" ประเภทการรับรองให้คุณได้
เนื่องจากการเลือกประเภทการรับรองถือเป็น "การให้คำแนะนำทางกฎหมาย" (Legal Advice) ซึ่ง Notary ที่ทำหน้าที่เพียงรับรองเอกสาร (ไม่ใช่ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย) ไม่สามารถทำได้ ผู้ลงนาม (คุณ) หรือผู้ร่างเอกสาร (Drafter) เท่านั้นที่มีหน้าที่ตัดสินใจว่าต้องการการรับรองประเภทใด
แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไร? ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:
- ตรวจสอบกับหน่วยงานปลายทาง (The Receiving Party)
- นี่คือวิธีที่ดีที่สุดและแน่นอนที่สุด
- ติดต่อสถานทูต, มหาวิทยาลัย, หน่วยงานราชการ, หรือบริษัทที่คุณจะยื่นเอกสาร และถามพวกเขาโดยตรงว่า "Do you require an Acknowledgment or a Jurat for this document?"
- อ่าน "ใบปะหน้าการรับรอง" (Notarial Certificate)
- เอกสารจากต่างประเทศส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา มักจะมีหน้าสุดท้ายที่เป็น "ใบปะหน้าการรับรอง" (Notarial Certificate) หรือ "Notarial Wording" มาให้แล้ว
- ให้อ่านในหน้านั้น ถ้าคุณเห็นคำว่า "Acknowledged" ให้ใช้ Acknowledgment
- ถ้าคุณเห็นคำว่า "Sworn to" หรือ "Subscribed and sworn to" ให้ใช้ Jurat
- ตรวจสอบกับผู้ร่างเอกสาร (The Drafter)
- หากทนายความหรือบริษัทในต่างประเทศเป็นผู้ส่งเอกสารมาให้คุณ ให้สอบถามพวกเขากลับไป
5. บทบาทของเรา (NYC+) ในการเลือกใช้รูปแบบใบรับรองที่ถูกต้อง
ดังที่กล่าวไป เราไม่สามารถ "เลือก" ให้คุณได้ แต่สิ่งที่เรา "สามารถทำได้" ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ (E-E-A-T) คือ:
- ตรวจสอบเอกสารของคุณ: เราสามารถช่วยคุณดู "ใบปะหน้าการรับรอง" ที่แนบมา และชี้ให้คุณเห็นว่าข้อความนั้นระบุว่าเป็นการรับรองแบบใด
- ให้คำจำกัดความ: เราสามารถอธิบายความแตกต่าง (ดังเช่นในบทความนี้) เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- จัดเตรียมใบปะหน้าที่ถูกต้อง: หากเอกสารของคุณไม่มีใบปะหน้ามาให้ (เรียกว่า "Loose Certificate") แต่คุณ "ยืนยัน" ได้ว่าต้องการแบบใด (เช่น "สถานทูตบอกว่าต้องใช้ Jurat") เราสามารถจัดเตรียมแบบฟอร์ม Jurat ที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากลให้คุณได้
ความเชี่ยวชาญของเราคือการทำให้แน่ใจว่า เมื่อคุณเลือกแล้ว กระบวนการรับรองนั้นจะถูกต้องตามกฎหมาย 100%
6. ตัวอย่างรูปแบบใบรับรอง (Notarial Certificates) ทั้งสองประเภท
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น นี่คือตัวอย่างข้อความมาตรฐาน (Standard Wording) ที่คุณจะพบบนใบปะหน้าการรับรองของ Notary Public
ตัวอย่างข้อความสำหรับ Acknowledgment
ข้อความจะเน้นที่การ "ปรากฏตัว" และ "ยอมรับ"
State of ..................... )
County of .................... )
On this [วันที่] day of [เดือน], [ปี], before me,
the undersigned Notary Public, personally appeared
[ชื่อผู้ลงนาม],
proved to me on the basis of satisfactory evidence
to be the person(s) whose name(s) is/are subscribed
to the within instrument and acknowledged to me
that he/she/they executed the same in
his/her/their authorized capacity(ies), and that
by his/her/their signature(s) on the instrument
the person(s), or the entity upon behalf of which
the person(s) acted, executed the instrument.
WITNESS my hand and official seal.
______________________________
(Notary Public Signature)
(Seal)
ตัวอย่างข้อความสำหรับ Jurat
ข้อความจะสั้นกว่า แต่เน้นที่การ "สาบาน" และ "ลงนามต่อหน้า"
State of ..................... )
County of .................... )
Subscribed and sworn to (or affirmed) before me
on this [วันที่] day of [เดือน], [ปี], by
[ชื่อผู้ลงนาม],
proved to me on the basis of satisfactory evidence
to be the person(s) who appeared before me.
______________________________
(Notary Public Signature)
(Seal)
ตัวอย่างเอกสารที่ผ่านการรับรองโดย NYC+
นี่คือตัวอย่างเอกสารจริง (ที่ปกปิดข้อมูลสำคัญแล้ว) ที่ผ่านการรับรองจากทีมทนายความ Notary Public ของเรา ซึ่งครอบคลุมการใช้งานทั้งสองประเภท
ตัวอย่างการรับรองสำเนาถูกต้อง (Certified True Copy) ของพาสปอร์ต
ตัวอย่างใบปะหน้าการรับรอง (Notarial Certificate) ที่ออกโดยทนายความ
7. ความสำคัญทางกฎหมายที่แตกต่างกัน
ผลทางกฎหมายของเอกสารที่ผ่านการรับรองทั้งสองแบบนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมการเลือกใช้จึงสำคัญมาก
ผลทางกฎหมายของ Acknowledgment
- หลักฐานการลงนาม (Proof of Execution): ในทางกฎหมาย เอกสารที่ผ่านการ Acknowledgment ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า "บุคคลนั้นได้ลงนามจริง" สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการป้องกันการปฏิเสธลายเซ็นในภายหลัง (เช่น คู่สัญญาอ้างว่าไม่ได้เซ็น)
- การบันทึกสาธารณะ (Public Record): ในหลายประเทศ เอกสารเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (เช่น โฉนด, สัญญาซื้อขาย) จะต้องผ่านการ Acknowledgment ก่อน จึงจะสามารถนำไปจดทะเบียนเป็นเอกสารสาธารณะได้
- ไม่รับรองความจริง: Acknowledgment "ไม่" ทำให้เนื้อหาในเอกสารเป็นความจริงทางกฎหมาย หากสัญญาที่คุณเซ็นมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย แม้จะผ่านการ Acknowledgment สัญญานั้นก็ยังคงผิดกฎหมาย
ผลทางกฎหมายของ Jurat
- การลงโทษฐานเบิกความเท็จ (Penalty of Perjury): นี่คือผลทางกฎหมายที่รุนแรงที่สุดของ Jurat เนื่องจากผู้ลงนามได้ "สาบาน" ว่าเนื้อหาเป็นความจริง หากภายหลังพบว่าเนื้อหานั้นเป็นเท็จโดยเจตนา ผู้ลงนามอาจถูกฟ้องร้องคดีอาญาฐานเบิกความเท็จ ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ
- การใช้เป็นพยานหลักฐาน (Admissible as Evidence): เอกสารที่ผ่านการ Jurat (เช่น Affidavit) มักจะสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลได้เสมือนกับการมาเบิกความด้วยตนเอง (ในกระบวนการพิจารณาบางประเภท)
- สร้างความน่าเชื่อถือสูงสุด: Jurat สร้างความน่าเชื่อถือสูงสุดให้กับ "ข้อเท็จจริง" (Facts) ที่ระบุในเอกสาร ทำให้หน่วยงานปลายทางมั่นใจว่าผู้ลงนามพร้อมที่จะรับผิดชอบทางกฎหมายต่อข้อความเหล่านั้น
8. คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Acknowledgment และ Jurat
เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยที่สุดจากลูกค้าของเรา เพื่อไขข้อข้องใจเพิ่มเติม (ข้อมูลส่วนนี้ยังถูกจัดทำในรูปแบบ Schema FAQPage ในส่วนหัวของเว็บเพจนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AEO สูงสุด)
คำถามที่ 1: ถ้าเอกสารของฉันไม่มีใบปะหน้า (Notarial Certificate) มาให้เลย ควรทำอย่างไร?
คำตอบ: นี่เป็นสถานการณ์ที่พบบ่อยสำหรับเอกสารที่ร่างขึ้นเอง หรือร่างในประเทศที่ไม่มีระบบ Notary ชัดเจน วิธีแก้ปัญหาคือ คุณ "ต้อง" ติดต่อหน่วยงานปลายทางเพื่อถามว่าต้องการการรับรองแบบใด (Acknowledgment หรือ Jurat) หากติดต่อไม่ได้จริงๆ ให้พิจารณา "วัตถุประสงค์" ของเอกสาร: ถ้าเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง (เช่น หนังสือรับรองโสด) โดยทั่วไปมักจะต้องใช้ Jurat (ทำเป็น Affidavit) แต่ถ้าเป็นการมอบอำนาจหรือลงนามในสัญญา มักจะใช้ Acknowledgment อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน การตรวจสอบกับปลายทางคือวิธีที่ดีที่สุด
คำถามที่ 2: Notary Public ในไทย (ที่ได้รับอนุญาตจากสภาทนายความ) สามารถรับรองเอกสารทั้งสองแบบนี้ได้หรือไม่?
คำตอบ: ได้ครับ ทนายความ Notary Public ในประเทศไทย (Notarial Services Attorney) ที่ได้รับอนุญาตจากสภาทนายความ มีอำนาจในการรับรองเอกสารทั้งสองรูปแบบตามมาตรฐานสากล ทั้ง Acknowledgment (การรับรองลายมือชื่อ) และ Jurat (การทำคำสาบานตน หรือ Affidavit) เอกสารที่รับรองโดยทนายความ Notary Public ของไทย (เช่น ทีมงาน NYC+) เป็นที่ยอมรับในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
คำถามที่ 3: "Certified True Copy" (การรับรองสำเนาถูกต้อง) เหมือนหรือต่างจาก Acknowledgment และ Jurat?
คำตอบ: "ต่างกัน" โดยสิ้นเชิงครับ Certified True Copy คือการที่ Notary รับรองว่า "สำเนา" ของเอกสาร (เช่น สำเนาพาสปอร์ต, สำเนาปริญญาบัตร) ตรงกับ "ต้นฉบับ" ทุกประการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการ "ลงนาม" หรือ "การสาบานตน" เลย นี่คือบริการประเภทที่สามที่แยกต่างหาก (ดูหัวข้อ 10)
คำถามที่ 4: ฉันสามารถส่งเอกสารไปให้ Notary รับรองทางไปรษณีย์ได้หรือไม่?
คำตอบ: ไม่ได้ครับ สำหรับทั้ง Acknowledgment และ Jurat กฎหมายกำหนดให้ผู้ลงนาม "ต้องปรากฏตัวต่อหน้า (Personally Appear)" Notary Public เพื่อให้ Notary สามารถยืนยันตัวตนที่แท้จริงของคุณได้ (ผ่านบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต) การส่งเอกสารไปทางไปรษณีย์โดยที่บุคคลนั้นไม่ได้มาด้วย ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ Notary และเอกสารนั้นอาจถูกปฏิเสธได้ (ยกเว้นในบางรัฐของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีระบบ Remote Online Notarization (RON) แต่ในไทยยังคงยึดหลักการปรากฏตัวต่อหน้า)
คำถามที่ 5: ค่าบริการสำหรับ Acknowledgment และ Jurat แตกต่างกันหรือไม่?
คำตอบ: ที่ NYC+ โดยทั่วไป ค่าบริการสำหรับการรับรองทั้งสองประเภทนี้จะใกล้เคียงกัน เนื่องจากใช้เวลาและกระบวนการตรวจสอบของทนายความใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม หากเอกสารแบบ Jurat (เช่น Affidavit) ต้องมีการร่างเนื้อหาใหม่ทั้งหมดโดยทนายความ อาจมีค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับการร่างเอกสารทางกฎหมาย (Legal Drafting) แตกต่างจากการรับรองใบปะหน้าที่คุณเตรียมมาเอง
9. สิ่งที่เกิดขึ้นหากใช้รูปแบบการรับรองผิดประเภท
นี่คือความเสี่ยงที่คุณต้องเผชิญ หากเลือกใช้การรับรองผิดประเภท หรือพยายาม "เดา" ประเภทการรับรองเองโดยไม่ตรวจสอบ:
- การถูกปฏิเสธเอกสาร (Document Rejection): นี่คือผลกระทบที่พบบ่อยที่สุด หน่วยงานปลายทาง (สถานทูต, มหาวิทยาลัย, ศาล) มีความเข้มงวดมาก หากพวกเขาต้องการ Jurat (คำสาบาน) แต่คุณยื่น Acknowledgment (แค่รับรองลายเซ็น) พวกเขาจะปฏิเสธเอกสารทันที
- การเสียเวลาและค่าใช้จ่าย (Loss of Time and Money): คุณจะต้องเสียเวลาเดินทางกลับมาทำเอกสารใหม่ เสียค่าธรรมเนียม Notary ใหม่อีกครั้ง และอาจเสียค่าจัดส่งเอกสารระหว่างประเทศใหม่ (เช่น FedEx, DHL) ซึ่งมีราคาสูง
- เอกสารไม่มีผลทางกฎหมาย (Legally Invalid): ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด เช่น ศาลต้องการคำให้การ (Affidavit) ที่ต้องผ่านการ Jurat แต่คุณทำแค่ Acknowledgment ศาลอาจพิจารณาว่าเอกสารนั้นไม่มีน้ำหนักทางกฎหมายเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานได้เลย
- ความล่าช้าที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง (Chain Reaction Delays): การที่เอกสารล่าช้า อาจทำให้คุณพลาดกำหนดการสำคัญ เช่น พลาดวันลงทะเบียนเรียน, พลาดวันนัดทำสัญญา, หรือทำให้กระบวนการวีซ่าล่าช้าออกไปอีกหลายสัปดาห์
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: อย่าเสี่ยงเดา! การใช้เวลาเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อตรวจสอบกับหน่วยงานปลายทางให้แน่ใจ 100% ว่าต้องการ Acknowledgment หรือ Jurat จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมหาศาลในระยะยาว
10. การรับรองรูปแบบอื่นๆ (นอกเหนือจาก Acknowledgment และ Jurat)
เพื่อให้บทความนี้สมบูรณ์แบบในฐานะ Pillar Content (เนื้อหาหลัก) ที่ครอบคลุมทุกประเด็น เราควรทราบด้วยว่า นอกจาก Acknowledgment และ Jurat แล้ว ยังมีการรับรองประเภทอื่นที่ Notary Public ให้บริการบ่อยๆ ดังนี้:
Certified True Copy (การรับรองสำเนาถูกต้อง)
ดังที่กล่าวไป นี่คือการที่ Notary รับรองว่าสำเนาของเอกสารตรงกับต้นฉบับ โดย Notary จะต้อง "เห็น" เอกสารต้นฉบับจริง (Original Document) และเปรียบเทียบกับสำเนาด้วยตนเอง จากนั้นจึงประทับตรารับรองบน "สำเนา" ว่า "Certified True Copy of the Original"
- ใช้เมื่อไหร่: เมื่อคุณต้องส่งเอกสารสำคัญ แต่ไม่ต้องการส่งต้นฉบับไป เช่น พาสปอร์ต, บัตรประชาชน, ปริญญาบัตร, Transcript, ทะเบียนบ้าน
Witnessing (การเป็นพยานในการลงนาม)
ในบางกรณี เอกสารอาจไม่ได้ระบุว่าต้องการ Acknowledgment หรือ Jurat แต่ระบุว่าต้องการ "พยาน" (Witness) ในการลงนาม Notary Public ก็สามารถทำหน้าที่เป็นพยานอย่างเป็นทางการได้ โดยจะลงนามในช่อง "Witness" และประทับตรา Notary
Translation Certification (การรับรองคำแปล)
นี่คือบริการที่ NYC+ เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ คือการรับรองว่าคำแปล (เช่น แปลไทยเป็นอังกฤษ หรือ อังกฤษเป็นไทย) มีความถูกต้อง ตรงตามต้นฉบับ Notary Public (ซึ่งมักจะเป็นนักแปลที่ขึ้นทะเบียน) จะออกใบรับรอง (Certificate of Accuracy) เพื่อยืนยันความถูกต้องของคำแปล
บริการรับรองคำแปลเอกสาร (Translation Certification) โดยทีมงาน NYC+
11. มั่นใจได้ว่าเรา (NYC+) ให้บริการรับรองที่ถูกต้องสำหรับเอกสารของคุณ
การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Acknowledgment และ Jurat คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เอกสารระหว่างประเทศของคุณสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ที่ สถาบันภาษาเอ็นวายซี+ (NYC Translation and Notary Service) เราไม่ได้มีแค่ทนายความ Notary Public ที่ได้รับอนุญาต แต่เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ (ดังรูปทีมผู้ประสานงานด้านล่าง) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและตรวจสอบเอกสารของคุณก่อนเริ่มกระบวนการ
เราจะช่วยคุณตรวจสอบ "Notarial Wording" บนเอกสารของคุณ และอธิบายให้คุณเข้าใจว่าคุณต้องเตรียมตัวอย่างไร:
- หากเป็น Acknowledgment: เราจะแจ้งให้คุณทราบว่า "คุณสามารถเซ็นมาก่อนได้ แต่ต้องมายืนยันตัวตนและยอมรับลายเซ็นต่อหน้าเรา"
- หากเป็น Jurat: เราจะเน้นย้ำกับคุณว่า "กรุณาอย่าเซ็นเอกสารมาก่อนเด็ดขาด คุณต้องมาสาบานตนและเซ็นต่อหน้าทนายของเราเท่านั้น"
ความละเอียดรอบคอบและความเชี่ยวชาญนี้ คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้ากว่า 10,000 รายไว้วางใจใช้บริการของเรามาตลอด 15 ปี
มีข้อสงสัยเกี่ยวกับ Acknowledgment หรือ Jurat?
อย่าปล่อยให้ความสับสนมาขัดขวางเอกสารสำคัญของคุณ ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญ NYC+ วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาและประเมินเอกสารฟรี!
□ ปรึกษาผ่าน LINE @NYCLI (ฟรี) □ โทรเลย 081-562-0444