Notary Public ในไทยสามารถรับรอง Affidavit of Support (Form I-864) ได้หรือไม่?

ได้ครับ โดยเฉพาะในกรณีที่สปอนเซอร์ (ผู้ลงนามใน I-864) พำนักอยู่ในประเทศไทย ณ ขณะที่ลงนาม การรับรองลายมือชื่อโดย Notary Public ที่ได้รับอนุญาตในไทย (เช่น ทีมทนายความของ NYC Plus) เป็นที่ยอมรับโดย USCIS และสถานทูตสหรัฐฯ ครับ การรับรองนี้ยืนยันว่าสปอนเซอร์ได้ลงนามในเอกสารด้วยตนเองจริงต่อหน้าพยานที่เป็นกลาง

Affidavit of Support (I-864): คู่มือสปอนเซอร์วีซ่า | NYC Plus - สถาบันภาษาเอ็นวายซีพลัส NYC+ LANGUAGE SCHOOL TEL: 081-5620444, 083-2494999 LINE: @NYCLI

Q: ถ้าสปอนเซอร์รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ต้องทำอย่างไร?

มีทางเลือกหลายทางครับ เช่น (1) ใช้ทรัพย์สิน (Assets) มาคำนวณเพิ่มเติม เช่น เงินฝาก หุ้น อสังหาริมทรัพย์ (2) หา Joint Sponsor (สปอนเซอร์ร่วม) ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ หรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์และยินยอมรับผิดชอบร่วมกัน (3) ใช้รายได้ของสมาชิกในครัวเรือนของสปอนเซอร์มารวมคำนวณ (Household Member) หากพวกเขายินยอมและเซ็น Form I-864A ครับ

Q: ค่าบริการทำ Affidavit of Support ที่ NYC Plus ราคาเท่าไหร่?

ค่าบริการสำหรับการรับรองลายมือชื่อ Affidavit of Support โดยทนายความ Notary Public ของเราเริ่มต้นที่ 1,500 บาทต่อลายมือชื่อครับ หากต้องการบริการแปลเอกสารทางการเงินประกอบ (เช่น Bank Statement, หนังสือรับรองเงินเดือน) ค่าบริการแปลจะเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อหน้า ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน สามารถส่งเอกสารมาประเมินราคาฟรีได้ที่ LINE: @NYCLI ครับ

คำให้การสนับสนุนทางการเงิน (Affidavit of Support) คืออะไร?

เอกสารสำคัญยิ่งยวดในการยื่นขอวีซ่าประเภทครอบครัว โดยเฉพาะ Green Card สำหรับญาติในสหรัฐอเมริกา

Affidavit of Support หรือ "คำให้การสนับสนุนทางการเงิน" คือเอกสารทางกฎหมายที่บุคคล (เรียกว่า Sponsor หรือ ผู้สนับสนุน) ซึ่งโดยทั่วไปคือพลเมืองสหรัฐฯ (U.S. Citizen) หรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (Lawful Permanent Resident - LPR หรือผู้ถือ Green Card) ยื่นต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแสดงว่าตนเองมีความสามารถทางการเงินเพียงพอที่จะสนับสนุนผู้อพยพ (ผู้ยื่นขอวีซ่า/Green Card) และรับประกันว่าผู้อพยพคนนั้นจะไม่กลายเป็นภาระของสังคม (Public Charge) ในสหรัฐอเมริกา

พูดง่ายๆ คือ สปอนเซอร์กำลังทำ "สัญญา" กับรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายพื้นฐานให้แก่ญาติที่ตนสปอนเซอร์มา หากบุคคลนั้นไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เอกสารนี้จึงไม่ใช่แค่กระดาษธรรมดา แต่เป็นคำมั่นสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างจริงจังและยาวนาน

□ วัตถุประสงค์หลักของ Affidavit of Support

ป้องกันภาระสังคม (Prevent Public Charge): เพื่อให้รัฐบาลมั่นใจว่าผู้อพยพที่เข้ามาใหม่จะมีคนคอยดูแลทางการเงิน ไม่ต้องพึ่งพาสวัสดิการจากรัฐโดยไม่จำเป็น
แสดงความรับผิดชอบของสปอนเซอร์ (Demonstrate Sponsor's Responsibility): กำหนดให้สปอนเซอร์มีหน้าที่ตามกฎหมายในการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้อพยพ
เป็นเงื่อนไขสำคัญในการอนุมัติวีซ่า/Green Card: สำหรับวีซ่าประเภทครอบครัวส่วนใหญ่ การมี Affidavit of Support ที่สมบูรณ์และผ่านเกณฑ์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง หากไม่มี หรือสปอนเซอร์มีคุณสมบัติไม่เพียงพอ คำร้องขอวีซ่า/Green Card อาจถูกปฏิเสธได้

แบบฟอร์ม Affidavit of Support ที่พบบ่อยที่สุดคือ Form I-864, Affidavit of Support Under Section 213A of the INA ซึ่งใช้สำหรับการยื่นขอ Green Card ให้สมาชิกในครอบครัว อย่างไรก็ตาม อาจมีแบบฟอร์มอื่นๆ สำหรับวีซ่าประเภทอื่น เช่น Form I-134, Declaration of Financial Support สำหรับวีซ่าชั่วคราวบางประเภท หน้านี้จะเน้นไปที่ Form I-864 เป็นหลัก เนื่องจากเป็นกรณีที่พบบ่อยและมีความซับซ้อนมากกว่า

บทบาทและ "ความรับผิดชอบ" ทางกฎหมายของผู้ลงนาม (Sponsor)

นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดที่สปอนเซอร์ทุกคน "ต้อง" ทำความเข้าใจก่อนลงนาม!

การลงนามใน Affidavit of Support (Form I-864) ไม่ใช่เพียงแค่การเซ็นเอกสาร แต่เป็นการยอมรับภาระผูกพันทางกฎหมายที่สำคัญและยาวนาน สปอนเซอร์จะมีบทบาทและความรับผิดชอบหลักๆ ดังต่อไปนี้:

⚠️ ความรับผิดชอบหลัก: การสนับสนุนทางการเงิน (Financial Support Obligation)

สปอนเซอร์มีหน้าที่ตามสัญญาที่จะต้องดูแลให้ผู้อพยพ (ผู้รับการสนับสนุน) มีรายได้หรือการสนับสนุนทางการเงินอย่างน้อย 125% ของ Federal Poverty Guideline (แนวทางความยากจนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ) ตามขนาดครัวเรือน

หน้าที่นี้เกิดขึ้นเมื่อผู้อพยพได้รับ Green Card และจะคงอยู่ "ตลอดไป" จนกว่าจะเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งดังนี้:
- ผู้อพยพได้สัญชาติอเมริกัน (Becomes a U.S. Citizen)
- ผู้อพยพทำงานครบ 40 ไตรมาสในสหรัฐฯ (ประมาณ 10 ปี) โดยไม่จำเป็นต้องต่อเนื่อง
- ผู้อพยพเสียชีวิต
- ผู้อพยพเดินทางออกนอกสหรัฐฯ อย่างถาวร (Abandons LPR status)
ความรับผิดชอบนี้ "ไม่สิ้นสุด" แม้สปอนเซอร์จะหย่าร้างกับผู้อพยพ (กรณีสปอนเซอร์คู่สมรส) หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวจะเปลี่ยนไป
หากผู้อพยพไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และสปอนเซอร์ไม่ให้การสนับสนุน ผู้อพยพสามารถ "ฟ้องร้อง" สปอนเซอร์เพื่อให้จ่ายค่าเลี้ยงดูได้

⚠️ ความรับผิดชอบรอง: การชดใช้คืนสวัสดิการภาครัฐ (Reimbursement Obligation)

หากผู้อพยพที่ได้รับการสนับสนุนไปขอรับสวัสดิการจากรัฐบางประเภท (Means-tested public benefits) เช่น Supplemental Security Income (SSI), Temporary Assistance for Needy Families (TANF), หรือ Medicaid บางส่วน รัฐบาล (ทั้งระดับ Federal, State, หรือ Local) มีสิทธิ์ที่จะ "ฟ้องร้อง" เรียกเงินคืนจากสปอนเซอร์ได้!

สวัสดิการที่ไม่เข้าข่าย (ผู้อพยพรับได้โดยสปอนเซอร์ไม่เดือดร้อน) เช่น Medicaid ฉุกเฉิน, สวัสดิการเด็กเล็ก (WIC), หรือความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ
หน้าที่ชดใช้คืนนี้มีผลบังคับใช้ตามระยะเวลาเดียวกับหน้าที่สนับสนุนทางการเงิน (จนกว่าผู้อพยพจะได้สัญชาติ, ทำงานครบ 40 ไตรมาส, ฯลฯ)

ผลกระทบ: หากสปอนเซอร์ไม่ชดใช้คืน อาจถูกดำเนินการทางกฎหมาย ยึดทรัพย์ หรือมีผลต่อเครดิตทางการเงินได้

คุณสมบัติเบื้องต้นของสปอนเซอร์ (Basic Requirements for Sponsor)

ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐฯ (U.S. Citizen) หรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (LPR)
ต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปี
ต้องมีถิ่นที่อยู่ (Domicile) ในสหรัฐอเมริกาหรือเขตปกครองของสหรัฐฯ
ต้องมีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 125% ของ Federal Poverty Guideline สำหรับขนาดครัวเรือนของตนเอง (รวมผู้อพยพที่จะสปอนเซอร์ด้วย)

การเป็นสปอนเซอร์จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความสามารถทางการเงินและความพร้อมที่จะรับผิดชอบในระยะยาว หากคุณไม่แน่ใจ ควรปรึกษาทนายความด้านอิมมิเกรชันผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงนาม

กรณีใดบ้างที่ต้องใช้เอกสารนี้ (เน้น Form I-864)

ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการยื่นขอ Green Card ผ่านช่องทางครอบครัว

Form I-864, Affidavit of Support Under Section 213A of the INA เป็นเอกสารบังคับสำหรับกรณีส่วนใหญ่ของการยื่นขอสถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (Green Card) ผ่านช่องทางครอบครัว (Family-based immigration) ซึ่งรวมถึง:

คู่สมรส (Spouse) ของพลเมืองสหรัฐฯ หรือ LPR
บุตร/ธิดาที่ยังไม่สมรสและอายุต่ำกว่า 21 ปี (Unmarried Child under 21) ของพลเมืองสหรัฐฯ
บิดามารดา (Parent) ของพลเมืองสหรัฐฯ (ที่พลเมืองสหรัฐฯ ผู้ยื่นคำร้องต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป)
บุตร/ธิดาที่สมรสแล้ว หรืออายุ 21 ปีขึ้นไป (Married or Over 21 Child) ของพลเมืองสหรัฐฯ
พี่น้อง (Sibling) ของพลเมืองสหรัฐฯ (ที่พลเมืองสหรัฐฯ ผู้ยื่นคำร้องต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป)
คู่สมรสและบุตร/ธิดาของผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (LPR)

นอกจากนี้ Form I-864 อาจจำเป็นต้องใช้ในบางกรณีของการยื่นขอ Green Card ผ่านช่องทางการจ้างงาน (Employment-based immigration) หากผู้ยื่นคำร้องเป็นญาติของผู้อพยพ หรือมีส่วนได้เสียในบริษัทที่ยื่นคำร้องให้ (เช่น ถือหุ้น 5% ขึ้นไป)

ความแตกต่างกับ Form I-134 (Declaration of Financial Support)

Form I-134 เป็นเอกสารแสดงการสนับสนุนทางการเงิน "ที่ไม่ใช่สัญญาผูกพัน" เหมือน I-864 มักใช้สำหรับวีซ่าชั่วคราว (Non-immigrant visas) เช่น วีซ่าท่องเที่ยว (B-2) หรือวีซ่านักเรียน (F-1) ในบางกรณี เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าผู้เดินทางมาสหรัฐฯ จะมีคนดูแลค่าใช้จ่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ Notary Public รับรอง และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายระยะยาวเหมือน I-864

สำคัญ: ห้ามใช้ Form I-134 แทน Form I-864 สำหรับการยื่นขอ Green Card ประเภทครอบครัวเด็ดขาด!

ข้อมูลสำคัญที่ต้องระบุ และเอกสารทางการเงินที่ต้องยื่นประกอบ

การเตรียมข้อมูลและเอกสารให้ครบถ้วน ถูกต้อง เป็นกุญแจสำคัญในการอนุมัติ

ข้อมูลสำคัญที่ต้องกรอกใน Form I-864

แบบฟอร์ม I-864 ค่อนข้างละเอียดและต้องการข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ ข้อมูลหลักๆ ที่ต้องกรอก ได้แก่:

ข้อมูลส่วนตัวของสปอนเซอร์: ชื่อ-สกุล, ที่อยู่, วันเกิด, Social Security Number (SSN), สถานะ (พลเมือง/LPR)
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้อพยพ (ผู้รับการสนับสนุน): ชื่อ-สกุล, ความสัมพันธ์กับสปอนเซอร์
ข้อมูลขนาดครัวเรือน (Household Size): จำนวนคนที่สปอนเซอร์ต้องรับผิดชอบ (รวมตัวเอง, ผู้อพยพ, สมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่ด้วยกัน, และบุคคลอื่นที่เคยสปอนเซอร์ไปแล้ว)
ข้อมูลรายได้ปัจจุบัน (Current Annual Household Income): รายได้รวมของสปอนเซอร์ และอาจรวมรายได้ของสมาชิกในครัวเรือน (ถ้ามี)
ข้อมูลการยื่นภาษีย้อนหลัง (Federal Income Tax Return Information): รายละเอียดการยื่นภาษี 3 ปีล่าสุด (หรือปีล่าสุดเป็นอย่างน้อย)
ข้อมูลทรัพย์สิน (Assets - ถ้าจำเป็น): หากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ต้องระบุรายละเอียดทรัพย์สินที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายใน 1 ปี
ข้อมูล Joint Sponsor (ถ้ามี): หากใช้สปอนเซอร์ร่วม ต้องกรอกข้อมูลของ Joint Sponsor ด้วย
ข้อมูล Household Member (ถ้ามี): หากใช้รายได้ของสมาชิกในครัวเรือน ต้องกรอกข้อมูลและให้สมาชิกนั้นเซ็น Form I-864A

เอกสารทางการเงินที่ต้องยื่นประกอบ Form I-864 (สำคัญมาก!)

นอกจากการกรอกฟอร์มแล้ว สปอนเซอร์ต้องแนบ "หลักฐาน" ทางการเงินเพื่อพิสูจน์ข้อมูลที่ระบุไว้ เอกสารหลักๆ ที่ USCIS ต้องการ ได้แก่:

หลักฐานสถานะของสปอนเซอร์:
- พลเมืองสหรัฐฯ (U.S. Citizen): สำเนาสูติบัตรสหรัฐฯ, สำเนาพาสปอร์ตสหรัฐฯ, สำเนา Certificate of Naturalization หรือ Certificate of Citizenship
- ผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร (LPR): สำเนา Green Card (หน้า-หลัง)
หลักฐานการยื่นภาษี (Proof of Federal Income Tax Filing):
- IRS Tax Transcript: นี่คือเอกสารที่ USCIS "ต้องการมากที่สุด" สามารถขอได้ฟรีจากเว็บไซต์ IRS โดยตรง แสดงข้อมูลสรุปการยื่นภาษี
- หรือ สำเนา Form 1040 (U.S. Individual Income Tax Return): พร้อมเอกสารแนบทั้งหมด (เช่น W-2s, 1099s, Schedules) สำหรับปีภาษีล่าสุด (และแนะนำให้ยื่น 3 ปีล่าสุดหากเป็นไปได้)

หมายเหตุ: หากสปอนเซอร์ไม่ได้ยื่นภาษีในปีใดปีหนึ่ง (เช่น รายได้ต่ำกว่าเกณฑ์) ต้องมีคำอธิบายเป็นลายลักษณ์อักษรแนบไปด้วย
หลักฐานรายได้ปัจจุบัน (Proof of Current Income):
- จดหมายรับรองการจ้างงาน (Employment Letter): จากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง, วันเริ่มงาน, เงินเดือน/ค่าจ้าง, และลักษณะงาน (เต็มเวลา/พาร์ทไทม์)
- สลิปเงินเดือน (Pay Stubs): ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด
- กรณีทำธุรกิจส่วนตัว (Self-Employed): ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ, งบกำไรขาดทุน, สัญญาจ้าง
หลักฐานทรัพย์สิน (Proof of Assets - หากใช้ทรัพย์สินเสริมรายได้):
- Bank Statements: ย้อนหลัง 12 เดือน แสดงยอดเงินเฉลี่ย
- Stock/Bond Statements: ใบแจ้งยอดบัญชีหุ้นหรือพันธบัตร
- หลักฐานการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ (Property Deeds/Appraisals): พร้อมหลักฐานหนี้สินคงเหลือ (Mortgage statements)

กฎการคำนวณทรัพย์สิน: โดยทั่วไป มูลค่าสุทธิของทรัพย์สิน (หลังหักหนี้สิน) จะต้องมีค่าอย่างน้อย 5 เท่า (หรือ 3 เท่าสำหรับคู่สมรส/บุตรของพลเมืองสหรัฐฯ) ของส่วนต่างระหว่างรายได้สปอนเซอร์กับเกณฑ์ 125%

ข้อควรระวังเกี่ยวกับเอกสาร

เอกสารทุกฉบับที่เป็นภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษ ต้องมีคำแปลภาษาอังกฤษแนบมาด้วย พร้อมใบรับรองความถูกต้องของคำแปล (Certified Translation) ซึ่ง NYC Plus ให้บริการแปลและรับรองคำแปลอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน USCIS
ควรใช้สำเนาเอกสาร ยกเว้น USCIS หรือเจ้าหน้าที่สถานทูตจะร้องขอต้นฉบับ
เก็บสำเนา Form I-864 และเอกสารประกอบทั้งหมดไว้กับตัวสปอนเซอร์เสมอ

ทำไมลายมือชื่อใน Affidavit of Support จึงต้องผ่านการรับรองโดย Notary Public?

การรับรอง Notary คือการเพิ่มความน่าเชื่อถือและยืนยันเจตนาที่แท้จริงของผู้ลงนาม

บริการรับรองลายมือชื่อโดยทนาย Notary Public

แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว USCIS อาจไม่ได้ "บังคับ" ให้ Form I-864 ต้องผ่านการรับรอง Notary Public เสมอไป (สปอนเซอร์สามารถเซ็นภายใต้คำสาบานว่าจะรับโทษหากให้ข้อมูลเท็จ - under penalty of perjury) แต่ในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสปอนเซอร์ลงนามในเอกสารนอกสหรัฐอเมริกา (เช่น สปอนเซอร์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย) การให้ Notary Public รับรองลายมือชื่อ (Signature Authentication) ถือเป็นขั้นตอนที่ "แนะนำอย่างยิ่ง" และสถานทูต/สถานกงสุลสหรัฐฯ หลายแห่งอาจร้องขอ

เหตุผลที่ควรรับรอง Affidavit of Support โดย Notary Public:

ยืนยันตัวตนผู้ลงนาม (Identity Verification): Notary Public (ซึ่งในประเทศไทยคือทนายความที่ได้รับใบอนุญาต) จะตรวจสอบเอกสารประจำตัว (บัตรประชาชน/พาสปอร์ต) ของสปอนเซอร์ เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ลงนามในเอกสารจริง ป้องกันการปลอมแปลงลายเซ็น
ยืนยันความสมัครใจ (Voluntary Act): การลงนามต่อหน้า Notary Public เป็นการแสดงว่าสปอนเซอร์ลงนามในเอกสารด้วยความเข้าใจและสมัครใจ ปราศจากการข่มขู่หรือบังคับ
เพิ่มความน่าเชื่อถือให้เอกสาร (Increased Credibility): เอกสารที่มีตรารับรองและลายเซ็นของ Notary Public จะมีน้ำหนักและความน่าเชื่อถือสูงกว่าในสายตาของเจ้าหน้าที่ USCIS และเจ้าหน้าที่กงสุล
ป้องกันข้อโต้แย้งในอนาคต (Prevent Future Disputes): หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของลายเซ็นในภายหลัง บันทึกของ Notary Public สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้
เป็นไปตามข้อกำหนดของบางหน่วยงาน/สถานทูต: แม้ USCIS อาจไม่บังคับ แต่สถานทูตสหรัฐฯ ในบางประเทศ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจกำหนดให้เอกสาร Affidavit ต้องผ่านการรับรอง Notary

Notary Public ในไทย กับ Notary Public ในสหรัฐฯ

ระบบ Notary Public ในประเทศไทยดำเนินการโดยทนายความที่ได้รับใบอนุญาตจากสภาทนายความ (Notarial Services Attorney) การรับรองลายมือชื่อ Affidavit of Support โดยทนายความ Notary Public ของไทย เป็นที่ยอมรับโดยหน่วยงานของสหรัฐฯ หากดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน

NYC Plus: เรามีทีมทนายความ Notary Public ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง พร้อมให้บริการรับรองลายมือชื่อ Affidavit of Support ของท่านตามมาตรฐานสากล มั่นใจได้ว่าเอกสารของท่านจะได้รับการยอมรับ

ขั้นตอนการทำคำให้การต่อหน้า Notary Public ที่ NYC Plus

กระบวนการที่ชัดเจน รวดเร็ว และถูกต้องตามหลักการ

เตรียมเอกสารให้พร้อม:
นำ Form I-864 (Affidavit of Support) ที่กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว (แต่ "ยังไม่ต้องเซ็นชื่อ") พร้อมทั้ง บัตรประจำตัวประชาชน หรือ พาสปอร์ต (ตัวจริง) ของสปอนเซอร์มาที่สำนักงาน NYC Plus
นัดหมายล่วงหน้า:
ติดต่อเพื่อนัดหมายเวลากับทนายความ Notary Public ของเรา เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว โทร 081-562-0444 หรือ LINE: @NYCLI
ยืนยันตัวตนต่อหน้าทนาย:
ทนายความ Notary Public จะตรวจสอบเอกสารประจำตัวของท่าน เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ระบุใน Affidavit of Support
ลงนามในเอกสาร:
สปอนเซอร์จะต้อง "ลงนามใน Form I-864 ต่อหน้า" ทนายความ Notary Public
ทนายความรับรองลายมือชื่อ:
ทนายความ Notary Public จะประทับตรารับรอง ลงนาม และกรอกรายละเอียดการรับรอง (วันที่, สถานที่, ชื่อทนาย) ลงบนเอกสาร Affidavit of Support ของท่าน
รับเอกสารฉบับสมบูรณ์:
ท่านจะได้รับ Affidavit of Support ที่ผ่านการรับรอง Notary Public เรียบร้อย พร้อมนำไปยื่นประกอบคำร้องขอวีซ่า/Green Card ต่อไป

นัดหมายทำ Affidavit of Support (LINE)

Checklist สำหรับสปอนเซอร์ (ก่อนยื่น Affidavit of Support)

ตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว

คุณมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นสปอนเซอร์หรือไม่? (สถานะ, อายุ, ถิ่นที่อยู่)
คุณเข้าใจ "ความรับผิดชอบ" ทางกฎหมายระยะยาวที่ตามมาหรือไม่?
คุณกรอก Form I-864 (หรือฟอร์มที่ถูกต้อง) ครบถ้วนทุกช่องหรือไม่? (ใช้เวอร์ชันล่าสุดจากเว็บ USCIS)
ข้อมูลที่กรอกถูกต้องตรงกับความเป็นจริงหรือไม่? (ห้ามให้ข้อมูลเท็จเด็ดขาด)
คุณคำนวณขนาดครัวเรือน (Household Size) ถูกต้องหรือไม่?
รายได้ของคุณถึงเกณฑ์ 125% ของ Federal Poverty Guideline หรือไม่?
คุณเตรียมเอกสารพิสูจน์สถานะ (สำเนาพาสปอร์ต/Green Card) แล้วหรือยัง?
คุณเตรียมหลักฐานการยื่นภาษี (IRS Tax Transcript หรือ Form 1040) ปีล่าสุด (หรือ 3 ปี) แล้วหรือยัง?
คุณเตรียมหลักฐานรายได้ปัจจุบัน (จดหมายรับรองงาน, สลิปเงินเดือน) แล้วหรือยัง?
(ถ้าจำเป็น) คุณเตรียมหลักฐานทรัพย์สิน (Bank Statements, etc.) และคำนวณมูลค่าถูกต้องหรือไม่?
(ถ้าจำเป็น) คุณมีเอกสาร Form I-864A จาก Household Member หรือ Form I-864 จาก Joint Sponsor ครบถ้วนหรือไม่?
เอกสารประกอบทั้งหมดที่เป็นภาษาอื่น ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองคำแปล (Certified Translation) แล้วหรือยัง?
คุณได้ทำการนัดหมายเพื่อลงนามต่อหน้า Notary Public แล้วหรือยัง (หากต้องการ)?
คุณได้เก็บสำเนาเอกสารทั้งหมดไว้กับตัวคุณเองแล้วหรือยัง?

ค่าบริการสำหรับการทำ Affidavit of Support ที่ NYC Plus

ค่าบริการรับรองลายมือชื่อ Affidavit of Support
โดยทนายความ Notary Public:
เริ่มต้น 1,500 บาท ต่อลายมือชื่อ

ค่าบริการแปลเอกสารทางการเงินประกอบ
(เช่น Bank Statement, หนังสือรับรองเงินเดือน):
เริ่มต้น 500 บาท ต่อหน้า

ส่งเอกสารประเมินราคาฟรี

คำถามที่พบบ่อยจากผู้ที่เป็นสปอนเซอร์ (Sponsor FAQ)

Affidavit of Support มีอายุกี่ปี? ต้องยื่นใหม่หรือไม่?

Affidavit of Support (โดยเฉพาะ Form I-864) ถือเป็นสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย 'ตลอดไป' จนกว่าผู้รับการสนับสนุน (ผู้ยื่นขอวีซ่า) จะ (1) ได้สัญชาติอเมริกัน (U.S. Citizenship) (2) ทำงานครบ 40 ไตรมาสในสหรัฐฯ (ประมาณ 10 ปี) (3) เสียชีวิต หรือ (4) เดินทางออกนอกสหรัฐฯ อย่างถาวร ดังนั้น ความรับผิดชอบของสปอนเซอร์จึงยาวนานมาก ไม่ใช่แค่ช่วงแรกที่ย้ายมาครับ

รายได้ขั้นต่ำของสปอนเซอร์ (Sponsor) คือเท่าไหร่?

รายได้ขั้นต่ำที่กำหนดจะอยู่ที่ 125% ของ Federal Poverty Guideline (แนวทางความยากจนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ) ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามจำนวนสมาชิกในครัวเรือนของสปอนเซอร์ (รวมผู้ยื่นขอวีซ่าด้วย) และสถานะ (เช่น อยู่ในกองทัพหรือไม่) ตัวเลขนี้มีการปรับปรุงทุกปี คุณสามารถตรวจสอบตัวเลขล่าสุดได้จากเว็บไซต์ USCIS (ค้นหา "I-864P Poverty Guidelines") หรือปรึกษา NYC Plus เพื่อคำนวณเบื้องต้นได้ครับ

ถ้าสปอนเซอร์รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ต้องทำอย่างไร?

มีทางเลือกหลายทางครับ:

ใช้ทรัพย์สิน (Assets): หากรายได้ขาดไปเล็กน้อย สามารถใช้มูลค่าทรัพย์สินที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย (เช่น เงินฝาก, หุ้น, อสังหาริมทรัพย์) มาชดเชย โดยมูลค่าสุทธิต้องมีอย่างน้อย 5 เท่า (หรือ 3 เท่าสำหรับคู่สมรส/บุตรของพลเมืองสหรัฐฯ) ของส่วนต่างรายได้ที่ขาดไป
หา Joint Sponsor (สปอนเซอร์ร่วม): หาบุคคลอื่นที่เป็นพลเมืองสหรัฐฯ หรือ LPR อายุ 18+ มีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐฯ และมีรายได้ถึงเกณฑ์ 125% ด้วยตัวเอง มายื่น Form I-864 อีกชุดและรับผิดชอบร่วมกัน
ใช้รายได้สมาชิกในครัวเรือน (Household Member): หากสมาชิกในครัวเรือน (เช่น คู่สมรส, พ่อแม่, ลูกที่โตแล้ว) มีรายได้เพียงพอและยินยอม สามารถใช้รายได้ของพวกเขามารวมได้ โดยต้องเซ็น Form I-864A, Contract Between Sponsor and Household Member

Joint Sponsor กับ Household Member ต่างกันอย่างไร?

Joint Sponsor คือบุคคล "ภายนอก" ครัวเรือนของสปอนเซอร์หลัก ที่เข้ามาช่วยรับผิดชอบทางการเงิน โดยต้องมีคุณสมบัติและรายได้ถึงเกณฑ์ 125% ด้วยตัวเอง และยื่น Form I-864 แยกอีกชุด

Household Member คือสมาชิก "ภายใน" ครัวเรือนของสปอนเซอร์หลัก (เช่น คู่สมรส) ที่ยินยอมให้ใช้รายได้ของตนมารวมกับสปอนเซอร์หลักเพื่อให้ถึงเกณฑ์ โดยต้องเซ็น Form I-864A ซึ่งเป็นการทำสัญญากับสปอนเซอร์หลัก

ถ้าสปอนเซอร์อาศัยอยู่ต่างประเทศ (เช่น ไทย) จะเป็นสปอนเซอร์ได้หรือไม่?

ได้ แต่สปอนเซอร์ต้องแสดงให้ USCIS เห็นว่าตนเองยังคงมี "ถิ่นที่อยู่" (Domicile) ในสหรัฐอเมริกาอยู่ หรือตั้งใจจะกลับไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ ไม่ช้ากว่าวันที่ผู้อพยพเดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งอาจต้องยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เช่น การยังคงมีที่อยู่ในสหรัฐฯ, การยื่นภาษีในสหรัฐฯ, การลงทะเบียนเลือกตั้ง, หรือแผนการเดินทางกลับ

ข้อควรระวังสูงสุด: ผลกระทบหากผู้ยื่นขอวีซ่าไปรับสวัสดิการจากรัฐ

ย้ำอีกครั้ง! หากผู้อพยพที่คุณสปอนเซอร์ไปขอรับสวัสดิการภาครัฐบางประเภท (Means-tested public benefits) ก่อนที่ภาระผูกพันของคุณจะสิ้นสุดลง หน่วยงานที่จ่ายสวัสดิการนั้นมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะ "ฟ้องร้องเรียกเงินคืนจากคุณ (สปอนเซอร์)"

นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นผลทางกฎหมายที่เกิดขึ้นจริง การลงนามใน Affidavit of Support คือการยอมรับความเสี่ยงนี้ ดังนั้น สปอนเซอร์ควรสื่อสารกับผู้อพยพให้เข้าใจถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับสวัสดิการต่างๆ ในช่วงแรกของการย้ายถิ่นฐาน

การวางแผนทางการเงินที่ดี และการทำความเข้าใจกฎระเบียบด้านสวัสดิการ จะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

เราเข้าใจถึงความสำคัญของเอกสารที่จะนำครอบครัวของคุณมาอยู่ร่วมกัน

Affidavit of Support เป็นมากกว่าแค่เอกสาร แต่เป็นสะพานเชื่อมความฝันของครอบครัวคุณให้เป็นจริง NYC Plus พร้อมเป็นผู้ช่วยให้การดำเนินการเอกสารสำคัญนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และรวดเร็วที่สุด

ปรึกษาเราเรื่องการทำ Affidavit of Support วันนี้!

ทีมทนายความ Notary Public และผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำฟรี

□ แชท LINE: @NYCLI □ โทร: 081-562-0444

ที่ตั้งสำนักงานและสาขาทั่วประเทศไทย

มีสาขาให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เลือกสาขาที่ใกล้คุณที่สุด สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไกล

□ สำนักงานใหญ่ (กรุงเทพฯ)

61 ซอยลาดพร้าว 95 (ปรางค์ทิพย์)
แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง
กรุงเทพมหานคร 10310
เวลาทำการ: จ-ศ 09:00-18:00

□ สาขาขอนแก่น

95 โครงการเดอะวอลล์ ถ.รื่นรมย์
ต.ในเมือง อ.เมือง
จ.ขอนแก่น 40000

□ สาขาอุดรธานี

31/43 ถ.ศรีชมชื่น
ต.หมากแข้ง อ.เมือง
จ.อุดรธานี 41000

สาขาตัวแทนและศูนย์ประสานงาน 50 เขตในกรุงเทพมหานคร

คลองเตย • คลองสาน • คลองสามวา • คันนายาว • จตุจักร • จอมทอง • ดอนเมือง • ดินแดง • ดุสิต • ตลิ่งชัน • ทวีวัฒนา • ทุ่งครุ • ธนบุรี • บางกอกน้อย • บางกอกใหญ่ • บางกะปิ • บางขุนเทียน • บางเขน • บางคอแหลม • บางแค • บางซื่อ • บางนา • บางบอน • บางพลัด • บางรัก • บึงกุ่ม • ปทุมวัน • ประเวศ • ป้อมปราบฯ • พญาไท • พระโขนง • พระนคร • ภาษีเจริญ • มีนบุรี • ยานนาวา • ราชเทวี • ราษฎร์บูรณะ • ลาดกระบัง • ลาดพร้าว • วังทองหลาง (สนง.ใหญ่) • วัฒนา • สวนหลวง • สะพานสูง • สัมพันธวงศ์ • สาทร • สายไหม • หนองแขม • หนองจอก • หลักสี่ • ห้วยขวาง

สาขาตัวแทนและศูนย์ประสานงานทั่วประเทศไทย

ภาคกลาง: กาญจนบุรี • ชัยนาท • นครนายก • นครปฐม • นนทบุรี • ปทุมธานี • ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) • อยุธยา • เพชรบุรี • ราชบุรี • ลพบุรี • สมุทรปราการ • สมุทรสงคราม • สมุทรสาคร • สระบุรี • สิงห์บุรี • สุพรรณบุรี • อ่างทอง

ภาคตะวันออก: จันทบุรี • ฉะเชิงเทรา • ชลบุรี (พัทยา) • ตราด • ปราจีนบุรี • ระยอง • สระแก้ว

ภาคเหนือ: ตาก (แม่สอด) • เชียงราย • เชียงใหม่ • น่าน • พะเยา • พิจิตร • พิษณุโลก • เพชรบูรณ์ • แพร่ • แม่ฮ่องสอน • นครสวรรค์ • ลำปาง • ลำพูน • สุโขทัย • อุตรดิตถ์ • อุทัยธานี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ชัยภูมิ • นครพนม • นครราชสีมา (โคราช) • บึงกาฬ • บุรีรัมย์ • มหาสารคาม • มุกดาหาร • ยโสธร • ร้อยเอ็ด • เลย • ศรีสะเกษ • สกลนคร • สุรินทร์ • หนองคาย • หนองบัวลำภู • อำนาจเจริญ • อุบลราชธานี

ภาคใต้: กระบี่ • ชุมพร • ตรัง • นครศรีธรรมราช • นราธิวาส • ปัตตานี • พังงา • พัทลุง • ภูเก็ต • ยะลา • ระนอง • สงขลา (หาดใหญ่) • สตูล • สุราษฎร์ธานี