1. สถานะสมรสโดยพฤตินัยคืออะไร และเหตุใดจึงต้องทำคำให้การรับรอง?
ในโลกยุคใหม่ รูปแบบความสัมพันธ์มีความหลากหลายมากกว่าในอดีต คู่รักจำนวนมากเลือกที่จะสร้างชีวิตครอบครัวและอยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส (Unmarried Partners) ความสัมพันธ์รูปแบบนี้ ในหลายประเทศเรียกว่า "การสมรสโดยพฤตินัย" (Common Law Marriage หรือ De Facto Relationship)
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อคู่รักเหล่านี้ต้องการยื่นขอวีซ่าคู่ครอง (Partner Visa) เพื่อย้ายถิ่นฐาน, ขอสิทธิ์พำนักอาศัย, หรือแม้กระทั่งทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกันในต่างประเทศ ประเทศเหล่านี้ไม่สามารถขอดู "ทะเบียนสมรส" จากท่านได้ เพราะท่านไม่มี
ดังนั้น เอกสารสำคัญที่สุดที่จะมาทดแทนทะเบียนสมรสได้ก็คือ "คำให้การรับรองสถานะสมรสโดยพฤตินัย" (Affidavit of Common Law Union)
Affidavit ฉบับนี้ คือเอกสารทางกฎหมายที่ทั้งสองฝ่าย "สาบานตน" ต่อหน้าทนายความ Notary Public ว่าข้อเท็จจริงที่ท่านกล่าวอ้าง (เช่น การอยู่ร่วมกัน, การมีทรัพย์สินร่วมกัน, การแสดงตนต่อสังคม) เป็นความจริงทุกประการ เอกสารนี้จึงกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดในการพิสูจน์ความสัมพันธ์ของท่านต่อสถานทูตและหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง
(Topic 11) ข้อควรระวังสูงสุด: เอกสารนี้ "ไม่มีผล" ในประเทศไทย
NYC Plus ขอย้ำเตือนให้ชัดเจน: ประเทศไทย "ไม่" ยอมรับการสมรสโดยพฤตินัย (Common Law Marriage) กฎหมายไทยรับรองการสมรสที่เกิดขึ้นจากการ "จดทะเบียนสมรส" ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตเท่านั้น
การทำ Common Law Marriage Affidavit นี้ ไม่มีผลทางกฎหมายในประเทศไทย ไม่ทำให้ท่านเป็นคู่สมรสตามกฎหมายไทย และไม่สามารถใช้เพื่อแบ่งสินสมรสหรือรับมรดกในไทยได้
วัตถุประสงค์เดียว ของเอกสารนี้ คือการนำไปใช้ยื่นต่อหน่วยงานใน "ต่างประเทศ" ที่ยอมรับความสัมพันธ์รูปแบบนี้เท่านั้น
2. ประเทศใดบ้างที่ยอมรับความสัมพันธ์แบบ Common Law?
นี่คือเหตุผลหลักที่ลูกค้าต้องการเอกสารนี้ โดยแต่ละประเทศจะเรียกชื่อและมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันเล็กน้อย:
□□ แคนาดา (Canada)
ชื่อเรียก: Common-law Partner (คู่ครองโดยพฤตินัย)
ข้อกำหนดหลัก: ท่านต้องพิสูจน์ว่าได้ "อยู่กินร่วมกัน" (Cohabited) ในความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา อย่างน้อย 12 เดือน (1 ปี) โดยไม่มีการแยกจากกันเป็นเวลานาน
การใช้งาน: เป็นเอกสารหลักในการยื่นขอวีซ่าถาวร (Permanent Residence) หรือวีซ่าทำงาน (Work Permit) ในฐานะผู้ติดตามของคู่ครอง
□□ ออสเตรเลีย (Australia)
ชื่อเรียก: De Facto Relationship (ความสัมพันธ์โดยพฤตินัย)
ข้อกำหนดหลัก: โดยทั่วไป ท่านต้องพิสูจน์ว่ามีความสัมพันธ์และอยู่กินร่วมกันอย่างน้อย 12 เดือน (1 ปี) ก่อนวันยื่นวีซ่า (Partner Visa subclass 820/801 หรือ 309/100)
การใช้งาน: Affidavit (หรือที่ออสเตรเลียเรียกว่า Statutory Declaration) เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึง "Nature of the household" และ "Social aspects" ของความสัมพันธ์
□□ สหรัฐอเมริกา (USA)
ชื่อเรียก: Common Law Marriage
ข้อกำหนดหลัก: ซับซ้อนกว่าประเทศอื่น เพราะกฎหมาย Common Law Marriage จะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ (เช่น Colorado, Texas, Utah) บางรัฐยอมรับ บางรัฐไม่ยอมรับเลย
การใช้งาน: แม้บางรัฐจะยอมรับ แต่สำหรับวีซ่าคู่ครอง (Immigrant Visa) รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มักจะพิจารณา "ทะเบียนสมรส" (K-1 Fiance Visa หรือ CR-1 Spouse Visa) เป็นหลัก การใช้ Affidavit นี้จึงมีข้อจำกัดและต้องปรึกษาทนายความด้านอิมมิเกรชันของสหรัฐฯ ก่อน
□□ สหราชอาณาจักร (UK)
ชื่อเรียก: Unmarried Partner
ข้อกำหนดหลัก: ต้องพิสูจน์ว่าได้อยู่ร่วมกันในความสัมพันธ์ที่คล้ายกับการสมรส (Relationship akin to marriage) มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี (24 เดือน)
การใช้งาน: ใช้สำหรับยื่นวีซ่าคู่ครอง (Unmarried Partner Visa) Affidavit นี้จะเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญเพื่อพิสูจน์ระยะเวลา 2 ปีนั้น
3. บทบาทของ Notary Public ในการทำคำให้การรับรองสถานะ
สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ Notary Public ไม่ใช่ผู้ "อนุมัติ" หรือ "รับรอง" ว่าท่านเป็นคู่สมรสโดยพฤตินัย
บทบาทของทนายความ Notary Public คือการทำหน้าที่เป็น "พยานที่เป็นกลางและมีอำนาจตามกฎหมาย" (Impartial Legal Witness) ในกระบวนการที่ท่าน "สาบานตน" (Swear an Oath)
หน้าที่ของ Notary Public คือ:
- ยืนยันตัวตนของท่านทั้งสองฝ่าย (Verify Identity): ตรวจสอบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชนต้นฉบับ ว่าท่านคือบุคคลที่ระบุในเอกสารจริง
- ตรวจสอบความสามารถในการทำนิติกรรม (Ensure Capacity): ประเมินว่าท่านทั้งสองมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังจะลงนาม
- ตรวจสอบความสมัครใจ (Confirm Voluntariness): ยืนยันว่าท่านลงนามในคำให้การนี้ด้วยความสมัครใจ ปราศจากการข่มขู่หรือบังคับ
- ทำการให้สาบานตน (Administer the Oath): ให้ท่านทั้งสองกล่าวคำสาบานตนหรือปฏิญาณตนว่า ข้อความที่ท่านร่างและลงนามใน Affidavit นั้น เป็นความจริงทุกประการ
- ประทับตราและลงนาม: Notary จะลงนามและประทับตรา เพื่อรับรองว่า "กระบวนการสาบานตน" นี้ได้เกิดขึ้นจริงต่อหน้า Notary ในวันและสถานที่ที่ระบุ
Notary ไม่ได้ทำหน้าที่:
- ✗ ตรวจสอบหลักฐาน (เช่น ไม่ขอดูรูปถ่าย หรือบัญชีธนาคารร่วม)
- ✗ รับรองว่าเนื้อหาที่ท่านเขียนเป็นความจริง (ท่านคือผู้รับรองเนื้อหาเองผ่านคำสาบาน)
- ✗ ให้คำแนะนำด้านวีซ่า (เราแนะนำให้ท่านปรึกษาทนายอิมมิเกรชันเฉพาะทางของประเทศนั้นๆ)
4. Checklist: องค์ประกอบสำคัญและหลักฐานประกอบของ Affidavit
(หัวข้อ 4, 5, 8 รวมกัน) นี่คือหัวใจสำคัญของเอกสาร Common Law Marriage Affidavit ของท่าน สถานทูตจะพิจารณาเอกสารของท่านโดยละเอียด โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก:
Checklist องค์ประกอบในคำให้การ (Affidavit)
(Topic 4) องค์ประกอบสำคัญที่ "ต้องมี" ในเนื้อหา
นี่คือสิ่งที่ท่านต้อง "สาบาน" ว่าเป็นความจริงในเอกสาร:
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ-นามสกุล, วันเกิด, สัญชาติ, เลขที่หนังสือเดินทาง, และที่อยู่ปัจจุบันของทั้งสองฝ่าย
- วันเริ่มต้นความสัมพันธ์: ระบุวันที่แน่ชัด (วัน/เดือน/ปี) ที่ท่านเริ่มอยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยา (สำคัญมากสำหรับนับระยะเวลา 12 เดือน)
- คำยืนยันสถานะ: คำให้การที่ชัดเจนว่า "เราได้อยู่กินร่วมกัน (cohabited) อย่างต่อเนื่องในความสัมพันธ์ฉันคู่สมรส ตั้งแต่วันที่... จนถึงปัจจุบัน"
- การแสดงตนต่อสาธารณะ (Social Aspects): ยืนยันว่าท่านได้เปิดเผยความสัมพันธ์ต่อเพื่อน, ครอบครัว, และสังคม ว่าเป็นคู่ครองกัน
- การเงินร่วมกัน (Financial Aspects): ยืนยันว่าท่านมีการพึ่งพาทางการเงินต่อกัน เช่น มีบัญชีร่วม, ช่วยเหลือค่าใช้จ่าย, หรือวางแผนการเงินอนาคตร่วมกัน
- การใช้ชีวิตร่วมกัน (Household Aspects): ยืนยันว่าท่านอาศัยอยู่ด้วยกันจริง มีการแบ่งปันความรับผิดชอบในบ้าน
- คำยืนยันความจริง: ประโยคปิดท้ายว่า "ข้าพเจ้าขอสาบานตนว่าข้อความข้างต้นนี้เป็นความจริงทุกประการ"
(Topic 5) หลักฐานประกอบที่ "ควรมี" (เพื่อยื่นวีซ่า)
แม้ Notary จะไม่ขอดู แต่ท่าน "ต้อง" รวบรวมหลักฐานเหล่านี้เพื่อยื่นพร้อมกับ Affidavit ต่อสถานทูต:
- หลักฐานการอยู่ร่วมกัน: สัญญาเช่า/สัญญาซื้อบ้านร่วมกัน, บิลค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ, ค่าไฟ, อินเทอร์เน็ต) ที่มีชื่อทั้งสองคน
- หลักฐานการเงินร่วมกัน: สมุดบัญชีธนาคารร่วม (Joint Account), กรมธรรม์ประกันชีวิตที่ระบุอีกฝ่ายเป็นผู้รับผลประโยชน์
- หลักฐานทางสังคม: รูปถ่ายคู่กันในโอกาสต่างๆ (โดยเฉพาะกับเพื่อนและครอบครัว), ตั๋วเครื่องบินที่เดินทางด้วยกัน, การ์ดเชิญงานแต่งที่ส่งถึงท่านทั้งสองในฐานะคู่รัก
- หลักฐานการติดต่อ: (หากเคยแยกกันอยู่ชั่วคราว) ประวัติการแชท, อีเมล, หรือการโทร ที่แสดงว่ายังคงติดต่อกันสม่ำเสมอ
- คำให้การจากพยาน (ถ้ามี): บางประเทศ (เช่น แคนาดา) อาจมีแบบฟอร์มให้เพื่อนหรือครอบครัว (Statutory Declaration of Common-law Union) เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ของท่านด้วย
5. ขั้นตอนการทำคำให้การต่อหน้า Notary Public
(หัวข้อ 6 และ 7) กระบวนการจัดทำ Affidavit ที่สำนักงาน NYC Plus นั้นชัดเจนและเป็นมืออาชีพ ดังนี้:
-
การร่างเอกสาร (Drafting):
- (Topic 6) ทำร่วมกัน (Joint Affidavit): นี่คือวิธีที่แนะนำที่สุด โดยเป็นเอกสารฉบับเดียว ที่มีชื่อและข้อมูลของท่านทั้งสองคน (Party A and Party B) และท่านทั้งสองลงนามและสาบานตนพร้อมกันในเอกสารฉบับนั้น
- (Topic 6) ทำแยกกัน (Separate Affidavits): ในบางกรณี (เช่น อีกฝ่ายอยู่ต่างประเทศ) ท่านอาจต้องทำคำให้การแยกกัน ฝ่ายที่อยู่ไทยทำ Affidavit ของตนที่ไทย แล้วส่งไปให้อีกฝ่ายทำ Affidavit ของตนที่ประเทศนั้นๆ
- ทางเลือกในการร่าง: ท่านสามารถร่างเนื้อหามาเอง (โดยดูองค์ประกอบจาก Topic 4) หรือใช้บริการร่าง Affidavit (Drafting Service) จากทีมทนายความของเรา (มีค่าบริการเพิ่มเติม) เพื่อให้แน่ใจว่ามีองค์ประกอบทางกฎหมายครบถ้วน
-
นัดหมายและยืนยันตัวตน (Appointment):
- ท่านต้องนัดหมายและ "มาปรากฏตัวต่อหน้า Notary Public พร้อมกันทั้งสองฝ่าย" (หากทำแบบ Joint Affidavit)
- เอกสารที่ต้องนำมา: 1. หนังสือเดินทาง (Passport) ต้นฉบับของทั้งสองฝ่าย 2. เอกสาร Affidavit ที่ร่างไว้ (หากร่างมาเอง)
-
(Topic 7) การสาบานตนและลงนาม (The Oath Ceremony):
- Notary จะอ่านเนื้อหาใน Affidavit ให้ท่านฟัง หรือให้ท่านอ่านเพื่อยืนยันความถูกต้อง
- Notary จะให้ท่านทั้งสองยกมือขวาขึ้น และกล่าวคำสาบานตน (Administer the Oath) ว่าข้อความในเอกสารเป็นความจริง
- ท่านทั้งสอง "ลงลายมือชื่อ" ในเอกสาร "ต่อหน้า" Notary Public (ห้ามเซ็นมาก่อนล่วงหน้า)
-
การรับรองโดย Notary (Notarization):
- Notary จะลงนามและประทับตรา Notary Public (NPT Seal) เพื่อรับรองว่ากระบวนการสาบานตนนี้ได้เกิดขึ้นจริง
-
ขั้นตอนต่อไป (Legalization):
- (สำคัญมาก!) หลังจากได้เอกสารที่ Notarized แล้ว ท่านต้องนำเอกสารนี้ไปรับรองที่ "กรมการกงสุล" (MFA) และ "สถานทูต" ของประเทศปลายทางต่อ (ดูรายละเอียดใน คู่มือ Legalization ของเรา) ซึ่ง NYC Plus มีบริการครบวงจรในส่วนนี้
6. ค่าบริการสำหรับการทำ Affidavit ประเภทนี้
เราให้บริการด้วยอัตราที่โปร่งใสและยุติธรรม (ค่าบริการแปลเริ่มต้น 500 บาท, ค่าบริการ Notary เริ่มต้น 1,500 บาท) สำหรับ Common Law Marriage Affidavit:
ค่าบริการ Notary Public: เริ่มต้น 1,500 บาท (สำหรับการรับรองลายมือชื่อ 2 ท่าน ในเอกสาร Affidavit ฉบับเดียว)
ค่าบริการเสริม (Optional):
+ ค่าร่าง Affidavit (Drafting Service): (โปรดสอบถาม) สำหรับบริการร่างเนื้อหาคำให้การ 2 ภาษา (ไทย-อังกฤษ) โดยทนายความ
+ ค่าแปลเอกสารประกอบ (เช่น แปลสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน): เริ่มต้น 500 บาท
+ ค่าบริการยื่นกงสุล (MFA) และสถานทูต: (โปรดสอบถาม) บริการครบวงจรเพื่อยื่น Legalization แทนท่าน
7. คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Common Law Affidavit
(หัวข้อ 11) ย้ำอีกครั้ง: ทำ Affidavit นี้แล้ว ถือว่าแต่งงานตามกฎหมายไทยหรือไม่?
ไม่ครับ ขอย้ำว่า "ไม่" อย่างเด็ดขาด กฎหมายไทยไม่รับรองการสมรสโดยพฤตินัย (Common Law) ไม่ว่าท่านจะอยู่กินกันนานแค่ไหนหรือทำ Affidavit นี้หรือไม่ก็ตาม สถานะของท่านในไทยคือ "โสด" (หากไม่ได้จดทะเบียน) เอกสารนี้ใช้สำหรับยื่นต่อหน่วยงานต่างประเทศเท่านั้น
จำเป็นต้องมีพยาน (Witness) หรือไม่?
(Topic 5) สำหรับตัว Affidavit ที่ทำต่อหน้า Notary: ไม่จำเป็น เพราะ Notary Public ทำหน้าที่เป็นพยานทางกฎหมายอยู่แล้ว
สำหรับการยื่นวีซ่า: จำเป็นอย่างยิ่ง (ในรูปแบบอื่น) เช่น ประเทศแคนาดามีแบบฟอร์ม [IMM 5409] Statutory Declaration of Common-law Union ซึ่งท่านต้องให้เพื่อนหรือญาติ 2 คน ที่รู้เห็นความสัมพันธ์ของท่าน ไปลงนามต่อหน้า Notary (ที่แคนาดา หรือที่ไทย) เพื่อ "เป็นพยาน" ยืนยันความสัมพันธ์ของท่านอีกชั้นหนึ่ง นี่คือเอกสาร "ประกอบ" ที่ควรทำคู่กันไป
เอกสาร Common Law Affidavit มีอายุการใช้งานนานเท่าใด?
(Topic 8) โดยทั่วไป สถานทูตมักยอมรับเอกสาร Affidavit ที่ลงนามไม่เกิน 6 เดือน (หรือบางครั้ง 3 เดือน) นับถึงวันที่ยื่นวีซ่า ทั้งนี้เพราะสถานะความสัมพันธ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่แนะนำให้ทำเอกสารนี้ทิ้งไว้นานๆ แล้วค่อยมายื่นครับ ควรทำเมื่อใกล้ถึงเวลายื่นวีซ่า
เรายังอยู่ด้วยกันไม่ถึง 12 เดือน สามารถทำ Affidavit นี้ได้หรือไม่?
ท่านสามารถทำ Affidavit เพื่อ "สาบานตน" ถึงข้อเท็จจริงใดก็ได้ (เช่น "เราอยู่ด้วยกันมา 8 เดือน") Notary สามารถรับรองคำสาบานนั้นได้
แต่ หากประเทศปลายทาง (เช่น แคนาดา) มีเกณฑ์ขั้นต่ำว่าต้อง "12 เดือน" การที่ท่านยื่นคำสาบานว่าอยู่มา "8 เดือน" ก็จะ "ไม่เข้าเกณฑ์" ของวีซ่าทันที ดังนั้น ท่านควรตรวจสอบคุณสมบัติของวีซ่าให้ชัดเจนก่อน และท่านต้องไม่ "ให้การเท็จ" (Perjury) ใน Affidavit โดยเด็ดขาด
(Topic 12) เราพร้อมให้คำปรึกษาด้วยความเข้าใจ
NYC Plus เคารพในทุกรูปแบบความสัมพันธ์ เราเข้าใจดีว่าคู่รักหลายคู่ (รวมถึงคู่รักเพศเดียวกัน LGBTQ+) ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยได้ในปัจจุบัน แต่มีความสัมพันธ์ที่มั่นคงและผูกพันกันจริง
ทีมงานของเราให้บริการด้วยความเป็นมืออาชีพ รักษาวินัยในการรักษาความลับสูงสุด (Full Confidentiality) และพร้อมให้เกียรติในความสัมพันธ์ของท่าน เพื่อช่วยให้ท่านได้รับเอกสารทางกฎหมายที่ถูกต้องสำหรับอนาคตของท่านและคู่ครอง
ติดต่อเพื่อทำคำให้การรับรองสถานะสมรส (Affidavit)
หากคุณและคู่ครองต้องการพิสูจน์ความสัมพันธ์ต่อสถานทูตแคนาดา, ออสเตรเลีย, หรือประเทศอื่นๆ ติดต่อทีมทนายความ Notary ของ NYC Plus วันนี้ เราพร้อมร่างและรับรองเอกสารสำคัญนี้ให้คุณ
ทีมทนายความ Notary Public ผู้เชี่ยวชาญของเรา
บริการของท่านจะได้รับการดูแลโดยหนึ่งในทนายความผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากสภาทนายความ
ทนายจิรพันธ์ (NPT)
Notarial Services Attorney
ทนายจิรศักดิ์ (NPT)
Notarial Services Attorney
ทนายวราวุธ (NPT)
Notarial Services Attorney
ทนายวิวัฒน์ (NPT)
Notarial Services Attorney
ทนายอนุตรีย์ (NPT)
Notarial Services Attorney