เอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อ-สกุลคืออะไร และทำไมจึงจำเป็น?
คุณเคยประสบปัญหานี้หรือไม่? ชื่อในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันของคุณคือ "สมศรี ร่ำรวย" แต่ชื่อในใบปริญญาบัตรที่คุณต้องการนำไปใช้สมัครเรียนต่อต่างประเทศคือ "สมศรี มีทรัพย์" เมื่อคุณยื่นเอกสารสองฉบับนี้ให้กับมหาวิทยาลัยหรือสถานทูต พวกเขาจะทราบได้อย่างไรว่าบุคคลทั้งสองชื่อนี้คือคนเดียวกัน?
นี่คือปัญหาคลาสสิกที่คนไทยที่เคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลต้องเผชิญเมื่อต้องใช้เอกสารในต่างประเทศ แม้ว่าเราจะมี **"ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-สกุล" (แบบ ช.3/ช.5)** ที่ออกให้โดยสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติ เอกสารภาษาไทยฉบับนี้ไม่มีความหมายและไม่สามารถใช้ยืนยันตัวตนของคุณในทางกฎหมายระหว่างประเทศได้
เพื่อแก้ปัญหานี้และสร้าง "สะพาน" เชื่อมระหว่างเอกสารชื่อเก่าและชื่อใหม่ของคุณ คุณจำเป็นต้องมีเอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษและผ่านการรับรองตามหลักสากล ซึ่งมี 2 รูปแบบหลักๆ คือ:
- คำแปลใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-สกุลที่ผ่านการรับรอง: คือการนำเอกสารราชการไทยไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ และให้ทนายความ Notary Public รับรองความถูกต้องของคำแปล
- คำให้การรับรองการเปลี่ยนชื่อ (Name Change Affidavit): คือเอกสารที่ทรงพลังและเป็นที่ยอมรับมากกว่า เป็นการที่คุณในฐานะเจ้าของชื่อ ทำคำสาบานต่อหน้าทนายความ Notary Public เพื่อยืนยันว่าชื่อเดิมและชื่อใหม่เป็นบุคคลคนเดียวกัน
หัวใจสำคัญ: เอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อทำหน้าที่เป็น "กาวทางกฎหมาย" ที่เชื่อมเอกสารสำคัญทุกฉบับของคุณเข้าด้วยกัน ทำให้ตัวตนของคุณมีความต่อเนื่องและสมบูรณ์ในสายตาของหน่วยงานต่างประเทศ ป้องกันการถูกปฏิเสธวีซ่าหรือการสมัครเรียนเพราะความสับสนเรื่องชื่อที่ไม่ตรงกัน
สถานการณ์ที่ต้องใช้เอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อ-สกุล
ปัญหาชื่อไม่ตรงกันสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์ และการมีเอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านี้ไปได้:
□ 1. การสมัครเรียนต่อต่างประเทศ
สถานการณ์: ชื่อในพาสปอร์ต (ชื่อปัจจุบัน) ไม่ตรงกับชื่อในวุฒิการศึกษา เช่น ปริญญาบัตร, ใบแสดงผลการเรียน (Transcript) ซึ่งยังคงเป็นชื่อเดิม
ความจำเป็น: มหาวิทยาลัยและหน่วยงานประเมินวุฒิการศึกษา (เช่น WES) จำเป็นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าผู้สมัครและผู้สำเร็จการศึกษาคือบุคคลคนเดียวกัน Name Change Affidavit คือเอกสารมาตรฐานที่ใช้ในกรณีนี้
✈️ 2. การยื่นขอวีซ่าประเภทต่างๆ
สถานการณ์: ยื่นขอวีซ่าทำงาน, วีซ่าคู่สมรส, หรือวีซ่าถาวร แต่ชื่อในเอกสารประกอบ เช่น สูติบัตร, ทะเบียนสมรส, หรือหนังสือรับรองการทำงาน ไม่ตรงกับชื่อในพาสปอร์ต
ความจำเป็น: เจ้าหน้าที่สถานทูตต้องการความมั่นใจ 100% ในการระบุตัวตนและความสัมพันธ์ทางครอบครัวของผู้สมัคร การแนบเอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อที่ผ่านการ Notarize จะช่วยชี้แจงความคลาดเคลื่อนและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับใบสมัครของคุณ
□ 3. การทำธุรกรรมและการจดทะเบียนในต่างประเทศ
สถานการณ์: ต้องการเปิดบัญชีธนาคาร, ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์, จดทะเบียนบริษัท, หรือรับมรดกในต่างประเทศ แต่เอกสารยืนยันตัวตนในอดีต (เช่น โฉนดที่ดิน, พินัยกรรม) ใช้ชื่อเดิม
ความจำเป็น: สถาบันการเงินและหน่วยงานราชการในต่างประเทศต้องการหลักฐานทางกฎหมายที่เชื่อมโยงตัวตนของคุณในปัจจุบันกับเอกสารเหล่านั้น Name Change Affidavit ที่ผ่านการรับรองคือเอกสารที่สามารถใช้ยืนยันได้อย่างเป็นทางการ
□ 4. การยื่นขอใบประกอบวิชาชีพในต่างประเทศ
สถานการณ์: แพทย์, วิศวกร, พยาบาล, หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่นๆ ที่ต้องการขอใบอนุญาตทำงานในต่างประเทศ แต่ใบปริญญาและใบประกอบวิชาชีพจากประเทศไทยยังเป็นชื่อเดิม
ความจำเป็น: สภาวิชาชีพในต่างประเทศมีกระบวนการตรวจสอบคุณวุฒิที่เข้มงวดมาก การมีเอกสารชี้แจงเรื่องการเปลี่ยนชื่อที่ชัดเจนและเป็นทางการเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
เจาะลึก: กระบวนการทำ "คำให้การรับรองการเปลี่ยนชื่อ" (Name Change Affidavit)
Name Change Affidavit คือเอกสารที่ทรงพลังที่สุดในการแก้ปัญหานี้ เพราะไม่ใช่แค่การแปลเอกสารราชการ แต่เป็นการที่คุณ "สร้าง" เอกสารทางกฎหมายฉบับใหม่ขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง โดยมีทนายความ Notary Public เป็นพยานและผู้รับรองตามกฎหมาย กระบวนการจัดทำกับ NYC Plus นั้นเรียบง่ายและเป็นระบบ
ขั้นตอนที่ 1: การรวบรวมข้อมูลและร่างคำให้การ (Drafting)
ทีมงานของเราจะเริ่มต้นด้วยการสอบถามข้อมูลที่จำเป็นจากคุณเพื่อนำมาจัดทำร่างคำให้การ เนื้อหาสำคัญใน Affidavit จะประกอบด้วย:
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ-สกุลเต็มตามพาสปอร์ตปัจจุบัน, ที่อยู่, และหมายเลขหนังสือเดินทาง
- การระบุชื่อเดิม: "ข้าพเจ้าขอให้การว่า เดิมข้าพเจ้าเคยใช้ชื่อว่า [ระบุชื่อ-สกุลเดิมทั้งหมด]..."
- การอ้างอิงเอกสาร: "...ตามที่ปรากฏใน [ระบุชื่อเอกสาร เช่น ปริญญาบัตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต ออกโดยมหาวิทยาลัย...]"
- การอ้างอิงการเปลี่ยนแปลง: "...ต่อมาข้าพเจ้าได้เปลี่ยนชื่อ/สกุล เป็น [ระบุชื่อ-สกุลใหม่] เมื่อวันที่ [ระบุวันที่] ณ สำนักงานเขต/อำเภอ... ตามเอกสารสำคัญการเปลี่ยนชื่อ/สกุล เลขที่..."
- คำยืนยัน: "ข้าพเจ้าขอสาบานตนและยืนยันว่า [ชื่อ-สกุลเดิม] และ [ชื่อ-สกุลใหม่] คือบุคคลคนเดียวกัน"
ขั้นตอนที่ 2: เตรียมเอกสารประกอบ (Supporting Documents)
ก่อนวันนัดหมาย ท่านจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญดังต่อไปนี้เพื่อประกอบการทำ Affidavit:
- ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (แบบ ช.3 หรือ ช.5) ฉบับจริง ที่ออกจากสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริง ที่มีชื่อปัจจุบันและยังไม่หมดอายุ
- เอกสารที่ต้องการอ้างอิง (ต้นฉบับหรือสำเนาที่ชัดเจน): เช่น ใบปริญญา, Transcript, ทะเบียนสมรส ที่มีชื่อเดิมปรากฏอยู่
ขั้นตอนที่ 3: การลงนามต่อหน้าทนายความ (Execution & Notarization)
ขั้นตอนนี้คือหัวใจของกระบวนการทั้งหมด ท่านจะต้องเดินทางมาที่สำนักงานของ NYC Plus ตามวันเวลาที่นัดหมาย
- ตรวจสอบตัวตน: ทนายความ Notary Public จะขอดูบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตฉบับจริงของท่านเพื่อยืนยันตัวตน (Verification)
- อ่านและทำความเข้าใจ: ท่านจะได้อ่านเนื้อหาในคำให้การ (Affidavit) ที่เราร่างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้องครบถ้วน
- การลงนามและสาบานตน: ท่านจะต้องลงลายมือชื่อในเอกสาร Affidavit **ต่อหน้า** ทนายความ ซึ่งถือเป็นการให้คำสาบานว่าข้อความทั้งหมดเป็นความจริง
- การรับรองโดยทนายความ: หลังจากท่านลงนาม ทนายความจะลงนามและประทับตรา Notary Public บนเอกสาร พร้อมแนบคำรับรอง (Notarial Certificate) เพื่อยืนยันว่าท่านได้มาแสดงตนและลงนามต่อหน้าจริง
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ คุณจะได้รับเอกสาร Name Change Affidavit ฉบับสมบูรณ์ ที่พร้อมนำไปใช้งานในต่างประเทศได้ทันที
รูปแบบการรับรองที่ถูกต้องและการนำไปใช้ต่อ
เอกสาร Name Change Affidavit ที่สมบูรณ์และถูกต้องตามหลักสากล จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังนี้:
- เนื้อหาคำให้การ (Body of Affidavit): ที่ระบุข้อมูลการเปลี่ยนชื่ออย่างชัดเจน
- ลายมือชื่อของผู้ให้การ (Your Signature): ซึ่งต้องเซ็นต่อหน้าทนายความ
- ส่วนรับรองของทนายความ (Jurat หรือ Notarial Block): เป็นส่วนที่ทนายความเขียนคำรับรอง, ลงวันที่, สถานที่, ลงลายมือชื่อ และที่สำคัญที่สุดคือ **ประทับตรานูนหรือตราหมึกของ Notary Public**
การนำไปใช้ต่อยอด: ในบางประเทศหรือบางกรณีที่ต้องการความน่าเชื่อถือขั้นสูงสุด เอกสาร Name Change Affidavit ที่ผ่านการ Notarize แล้ว สามารถนำไปผ่านกระบวนการรับรองเพิ่มเติมได้อีก คือ การนำไปให้ **กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ** รับรองลายมือชื่อของทนายความ และนำไปให้ **สถานทูตของประเทศปลายทาง** รับรองเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งบริการ One-Stop Service ของเราสามารถดำเนินการทั้งหมดนี้ให้ท่านได้
ทางเลือกที่สอง: การรับรองคำแปลเอกสารเปลี่ยนชื่อ-สกุล
นอกเหนือจากการทำ Name Change Affidavit ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับในหลายกรณี คือการนำใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ช.3/ช.5) ฉบับจริง มาผ่านกระบวนการแปลและรับรองโดยตรง
กระบวนการนี้ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก:
- การแปลเอกสารอย่างเป็นทางการ: ทีมงานนักแปลมืออาชีพของ NYC Plus จะทำการแปลใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-สกุลของคุณจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องตามรูปแบบราชการ พร้อมลงนามรับรองคำแปล (Certified Correct Translation)
- การรับรองคำแปลโดย Notary Public: จากนั้น ทนายความ Notary Public ของเราจะทำการรับรองลายมือชื่อของนักแปลบนเอกสารคำแปลนั้นอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มน้ำหนักและความน่าเชื่อถือทางกฎหมายในระดับสากล
Affidavit vs. Certified Translation: ควรเลือกแบบไหน?
ทั้งสองวิธีสามารถใช้ได้ แต่มีความแตกต่างในแง่ของน้ำหนักและความชัดเจน
- Certified Translation: เป็นการยืนยันว่า "คำแปลของเอกสารราชการไทยฉบับนี้ถูกต้อง" เหมาะสำหรับกรณีที่ไม่ซับซ้อนและหน่วยงานปลายทางคุ้นเคยกับเอกสารประเภทนี้
- Name Change Affidavit: เป็นการที่คุณ "สร้างคำสาบานของตนเองขึ้นมา" เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงทั้งหมด มีความเป็นส่วนตัวและมีน้ำหนักในเชิงกฎหมายบุคคลมากกว่า เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูงสุด, มีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง, หรือยื่นต่อหน่วยงานที่มีความเข้มงวดสูง
ทีมงานของเราสามารถให้คำแนะนำได้ว่ารูปแบบใดเหมาะสมกับสถานการณ์และประเทศปลายทางของคุณมากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ-สกุล
Q1: หากเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง ต้องทำ Affidavit หลายฉบับหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นครับ ท่านสามารถทำ Name Change Affidavit เพียงฉบับเดียว แต่ในเนื้อหาจะอธิบายลำดับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดอย่างละเอียด เช่น "ข้าพเจ้าเดิมชื่อ ก., ต่อมาเปลี่ยนเป็น ข. เมื่อวันที่..., และได้เปลี่ยนอีกครั้งเป็น ค. (ชื่อปัจจุบัน) เมื่อวันที่..." โดยแนบใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อทุกฉบับเป็นหลักฐานประกอบ
Q2: ค่าบริการในการทำและรับรองเอกสารเปลี่ยนชื่อเท่าไหร่?
A: ค่าบริการจะขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ท่านเลือก (Affidavit หรือ Certified Translation) และความซับซ้อนของเอกสาร โดยทั่วไปจะประกอบด้วย 1) ค่าบริการจัดทำ/แปลเอกสาร และ 2) ค่าบริการรับรองโดยทนายความ Notary Public เราสามารถประเมินราคาให้ท่านทราบล่วงหน้าได้ฟรี เพียงส่งเอกสารมาให้เราทาง LINE: @NYCLI
Q3: จำเป็นต้องใช้เอกสารฉบับจริงหรือไม่?
A: ใช่ครับ ในการทำ Name Change Affidavit หรือการรับรองคำแปล ท่านจำเป็นต้องนำ **ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-สกุลฉบับจริง** และบัตรประชาชน/พาสปอร์ตฉบับจริงมาแสดงต่อหน้าทนายความ เพื่อให้ทนายสามารถตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูลได้
ชื่อไม่ตรงกัน? อย่าให้เป็นอุปสรรค
ปรึกษาเราวันนี้!
ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนชื่อมากี่ครั้ง หรือต้องการใช้เอกสารเพื่อวัตถุประสงค์ใด ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ NYC Plus พร้อมให้คำแนะนำและบริการจัดทำเอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อที่ถูกต้องตามหลักสากล เพื่อให้ทุกการเดินทางและทุกธุรกรรมของคุณในต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น
□ โทรเลย: 081-5620444, 083-2494999
□ แอดไลน์: @NYCLI (มี @)
ส่งเอกสารประเมินราคาฟรีผ่าน LINE
ทีมทนายความและสาขาที่พร้อมให้บริการ
เรามีทีมทนายความ Notary Public ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และมีสาขาพร้อมให้บริการทั่วประเทศ