Checklist ลงทุนในเวียดนาม ต้องเตรียมเอกสาร Notary อะไรบ้าง?

สำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการเปิดบริษัทในเวียดนาม เอกสารหลักๆ ที่ต้องเตรียมจากฝั่งไทยและผ่านกระบวนการ (แปล -> Notary -> กงสุลไทย -> สถานทูตเวียดนาม) ได้แก่: 1. หนังสือรับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน) 2. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) 3. งบการเงินปีล่าสุด (ที่รับรองโดยผู้ตรวจสอบบัญชี) 4. หนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney) ให้ตัวแทนในเวียดนามดำเนินการ

Notary เอกสารอาเซียน: คู่มือรับรองเอกสาร ธุรก

Notary เอกสารอาเซียน: คู่มือรับรองเอกสาร ธุรกิจ เรียนต่อ (ASEAN)

คู่มือเตรียมเอกสารสำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Guide)

บริการ Notary Public & Legalization ครบวงจร สำหรับนักลงทุน, ธุรกิจ, และการศึกษา ในสิงคโปร์, เวียดนาม, มาเลเซีย และทุกประเทศใน ASEAN

ภาพรวมข้อกำหนดเอกสารสำหรับการใช้งานภายในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ได้เปิดประตูสู่โอกาสมหาศาล การค้า การลงทุน การจ้างงาน และการศึกษาข้ามพรมแดนระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, และฟิลิปปินส์ กลายเป็นเรื่องปกติ

แต่การเคลื่อนย้ายทางธุรกิจและบุคลากรนี้ จำเป็นต้องอาศัย "เอกสาร" ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เอกสารจากประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือรับรองบริษัท, ปริญญาบัตร, หรือหนังสือมอบอำนาจ จะไม่สามารถนำไปใช้งานในประเทศอื่นได้ทันที หากไม่ผ่านกระบวนการรับรองที่ถูกต้อง

การรับรองเอกสาร Notary Public และการรับรองโดยกระทรวงการต่างประเทศ (Legalization) คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้เอกสารของคุณ "มีผลทางกฎหมาย" ในประเทศปลายทาง เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือว่าเอกสารและลายมือชื่อของคุณเป็นของจริง และออกโดยหน่วยงานที่ถูกต้อง

NYC Plus ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรองเอกสารระหว่างประเทศกว่า 15 ปี เราได้จัดทำ "คู่มือฉบับสมบูรณ์" นี้ขึ้น เพื่อช่วยให้นักธุรกิจ นักลงทุน และนักศึกษาไทย เข้าใจขั้นตอนที่ซับซ้อนนี้ และเตรียมเอกสารสำหรับประเทศกลุ่มเป้าหมายหลักในอาเซียนได้อย่างถูกต้อง ไร้กังวล

บริการ Notary ของเราครอบคลุมทุกความต้องการใน ASEAN

ตั้งแต่การตั้งบริษัทในสิงคโปร์ จนถึงการส่งออกสินค้าไปเวียดนาม เราพร้อมดูแล

1. การรับรองเอกสารสำหรับจัดตั้งธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน

นี่คือบริการหลักสำหรับนักลงทุนและบริษัทไทยที่ต้องการขยายตลาด (Market Expansion) ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะใน 3 ประเทศยุทธศาสตร์:
- สิงคโปร์ (Singapore): ศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค ต้องการเอกสารที่โปร่งใสและรับรองถูกต้อง 100%
- เวียดนาม (Vietnam): ตลาดดาวรุ่งที่เติบโตเร็วที่สุด มีกฎระเบียบการลงทุนที่เข้มงวดเรื่องเอกสาร
- มาเลเซีย (Malaysia): ประตูสู่ตลาดฮาลาลและคู่ค้าสำคัญที่ต้องการเอกสารที่ผ่านการรับรองจากสถานทูต
เอกสารที่ต้องรับรอง Notary & Legalization บ่อยที่สุด:
- หนังสือรับรองบริษัท (Certificate of Incorporation): ต้องเป็นฉบับล่าสุด (ไม่เกิน 3 เดือน)
- บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (Shareholder List - บอจ.5): เพื่อแสดงโครงสร้างการถือหุ้น
- หนังสือบริคณห์สนธิ (Memorandum of Association - MOA): เพื่อแสดงวัตถุประสงค์บริษัท
- งบการเงินปีล่าสุด (Audited Financial Statement): เพื่อแสดงความมั่นคงทางการเงิน
- หนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney - POA): สำคัญมาก! ใช้มอบอำนาจให้ตัวแทน (ทนายความ, หุ้นส่วน) ในประเทศนั้นๆ ดำเนินการจดทะเบียนแทน

2. การรับรองเอกสารทางการค้า (Commercial & Trade Documents)

สำหรับผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า การรับรองเอกสารการค้าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการผ่านพิธีการศุลกากร, การเปิด L/C (Letter of Credit) กับธนาคาร, หรือการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์

เอกสารที่รับรองบ่อย:
- ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice)
- ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin - C/O): มักรับรองโดยหอการค้าไทย แล้วนำมาผ่านกระบวนการ Legalization ต่อ
- ใบรับรองการขายเสรี (Certificate of Free Sale): สำคัญมากสำหรับสินค้าเครื่องสำอาง, อาหาร, และยา ที่ต้องยื่นต่อ อย. ของประเทศปลายทาง
- หนังสือมอบอำนาจให้ตัวแทนจำหน่าย (Distribution Agreement / POA)

3. การรับรองเอกสารทางการศึกษาและอาชีพ

ด้วยมาตรฐานการศึกษาที่สูง โดยเฉพาะในสิงคโปร์และมาเลเซีย รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือ (Skilled Labor) ในกลุ่ม AEC การรับรองเอกสารการศึกษาจึงมีความจำเป็นสูง
- ปริญญาบัตร และ Transcript: สำหรับยื่นสมัครเรียนต่อในสิงคโปร์ (NUS, NTU) หรือมาเลเซีย
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ: เช่น ใบอนุญาตแพทย์, วิศวกร, สถาปนิก เพื่อใช้ในการขอใบอนุญาตทำงานในประเทศอาเซียน
- หนังสือรับรองความประพฤติ (Police Clearance Certificate)
- เอกสารครอบครัว: ทะเบียนสมรส, สูติบัตร (กรณีติดตามครอบครัวไปทำงานหรือเรียน)

ขั้นตอนการรับรองเอกสารสำหรับ ASEAN (Apostille vs Legalization)

ความแตกต่างสำคัญที่ต้องรู้! ประเทศส่วนใหญ่ใน ASEAN "ไม่ได้รับ Apostille"

ความสับสนที่พบบ่อยคือการคิดว่าทุกประเทศใช้ระบบเดียวกัน ความจริงคือ ประเทศไทยยังไม่ได้เข้าร่วมอนุสัญญาเฮก (Hague Apostille Convention) เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน ดังนั้นกระบวนการจึงแบ่งได้ 2 รูปแบบ:

รูปแบบที่ 1: การรับรองเต็มรูปแบบ (Full Legalization)

ใช้สำหรับประเทศส่วนใหญ่ใน ASEAN ได้แก่: สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, พม่า, และไทย (เมื่อรับเอกสารจากเขามาใช้ในไทย) กระบวนการนี้มี 3 ขั้นตอน:

[Notary] รับรองโดย Notary Public (บริการของเรา)
นำเอกสารต้นฉบับ หรือเอกสารที่แปลแล้ว มาให้ทนายความ Notary Public ของ NYC Plus ตรวจสอบและรับรองลายมือชื่อ (สำหรับ POA) หรือรับรองคำแปล (สำหรับเอกสารราชการ) นี่คือขั้นตอนแรกเพื่อยืนยันความถูกต้องของเอกสารในระดับทนายความ
[MFA] รับรองที่กรมการกงสุลไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
นำเอกสารที่ผ่าน Notary แล้ว ไปยื่นที่กรมการกงสุล ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ "รับรองลายมือชื่อและตราประทับของทนายความ Notary" ของเรา (ยืนยันว่าทนายมีใบอนุญาตจริง)
[Embassy] รับรองที่สถานทูตประเทศปลายทาง
นำเอกสารที่ผ่านกรมการกงสุลไทยแล้ว ไปยื่นที่สถานทูตของประเทศนั้นๆ ในไทย (เช่น สถานทูตเวียดนาม, สถานทูตมาเลเซีย) เพื่อให้เจ้าหน้าที่กงสุลของประเทศนั้น "รับรองลายมือชื่อและตราประทับของเจ้าหน้าที่กงสุลไทย" เมื่อครบขั้นตอนนี้ เอกสารจึงจะสมบูรณ์ 100%

รูปแบบที่ 2: การรับรองแบบ Apostille

ใช้สำหรับประเทศ ASEAN ที่เป็นสมาชิกอนุสัญญา Apostille ได้แก่: ฟิลิปปินส์ (Philippines), อินโดนีเซีย (Indonesia), และบรูไน (Brunei)

กระบวนการนี้จะสั้นกว่า คือทำเพียงขั้นตอนที่ 1 (Notary) และขั้นตอนที่ 2 (MFA) เท่านั้น โดยเมื่อไปถึงกรมการกงสุลไทย (MFA) เจ้าหน้าที่จะประทับตรา "Apostille" ให้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ใน 3 ประเทศนี้ได้เลย โดยไม่ต้องไปสถานทูต (ข้ามขั้นตอนที่ 3)

ตารางสรุปกระบวนการรับรองเอกสารสำหรับ ASEAN

ประเทศปลายทาง	ประเภทการรับรอง	ขั้นตอน (Notary -> MFA -> Embassy)
สิงคโปร์ (Singapore)	Legalization	ต้องทำครบ 3 ขั้นตอน (Notary → กงสุลไทย → สถานทูตสิงคโปร์)
เวียดนาม (Vietnam)	Legalization	ต้องทำครบ 3 ขั้นตอน (Notary → กงสุลไทย → สถานทูตเวียดนาม)
มาเลเซีย (Malaysia)	Legalization	ต้องทำครบ 3 ขั้นตอน (Notary → กงสุลไทย → สถานทูตมาเลเซีย)
ฟิลิปปินส์ (Philippines)	Apostille	ทำ 2 ขั้นตอน (Notary → กงสุลไทย (ขอ Apostille)) *ไม่ต้องไปสถานทูต*
อินโดนีเซีย (Indonesia)	Apostille	ทำ 2 ขั้นตอน (Notary → กงสุลไทย (ขอ Apostille)) *ไม่ต้องไปสถานทูต*
บรูไน (Brunei)	Apostille	ทำ 2 ขั้นตอน (Notary → กงสุลไทย (ขอ Apostille)) *ไม่ต้องไปสถานทูต*
กัมพูชา, ลาว, พม่า	Legalization	ต้องทำครบ 3 ขั้นตอน (Notary → กงสุลไทย → สถานทูตของประเทศนั้นๆ)

เราให้บริการครบวงจร (One-Stop Service)

กระบวนการเหล่านี้ซับซ้อนและใช้เวลา NYC Plus มีบริการครบวงจร (Full Legalization Package) ที่เราจะดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 ถึง 3 ให้คุณทั้งหมด ช่วยประหยัดเวลาและรับประกันความถูกต้อง

Checklist: สำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการไปเปิดบริษัทในเวียดนาม

เวียดนามคือตลาดที่น่าสนใจที่สุด แต่ก็มีกฎระเบียบด้านเอกสารที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน นี่คือ Checklist เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมจากฝั่งไทย

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม (ฝั่งไทย)

หนังสือรับรองบริษัท (Certificate of Incorporation)
ต้องเป็นฉบับภาษาอังกฤษ คัดจาก DBD และมีอายุไม่เกิน 3-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับเขตที่ยื่น)
บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (Shareholder List - บอจ.5)
ต้องเป็นฉบับล่าสุดที่อัปเดตและรับรองโดย DBD
งบการเงินปีล่าสุด (Audited Financial Statement)
ต้องผ่านการตรวจสอบและลงนามโดยผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) เพื่อแสดงสถานะการเงินที่มั่นคงของบริษัทแม่ในไทย
หนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney - POA)
สำคัญที่สุด! คือเอกสารที่บริษัทแม่ในไทย มอบอำนาจให้บุคคล (เช่น ทนายความ, หุ้นส่วน) ในเวียดนาม เป็นผู้ดำเนินการยื่นจดทะเบียนและธุรกรรมต่างๆ แทน
พาสปอร์ตของผู้มีอำนาจลงนามและผู้รับมอบอำนาจ
ต้องรับรองสำเนาถูกต้อง (True Copy) โดย Notary Public

กระบวนการรับรองเอกสารสำหรับเวียดนาม (ต้องทำครบทุกขั้น)

1. การแปลเอกสาร (Translation)
เอกสารทั้งหมด (หนังสือรับรองบริษัท, บอจ.5, งบการเงิน ฯลฯ) ที่เป็นภาษาไทย ต้องถูกแปลเป็น "ภาษาเวียดนาม" หรือ "ภาษาอังกฤษ" (แนะนำให้ตรวจสอบกับที่ปรึกษาฝั่งเวียดนามว่าต้องการภาษาใด) NYC Plus มีบริการแปลโดยนักแปลผู้เชี่ยวชาญ
2. การรับรองโดย Notary Public (Notarization)
นำเอกสารทั้งหมด (ทั้งต้นฉบับและคำแปล) มารับรองกับทนายความ Notary Public ของ NYC Plus (โทรนัดหมาย 081-562-0444)
3. การรับรองที่กรมการกงสุลไทย (MFA Legalization)
นำเอกสารที่ผ่าน Notary แล้ว ไปยื่นที่กรมการกงสุล ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อรับรองตราประทับ Notary
4. การรับรองที่สถานทูตเวียดนาม (Vietnam Embassy Legalization)
นำเอกสารที่ผ่านกงสุลไทยแล้ว ไปยื่นที่สถานทูตเวียดนาม ประจำประเทศไทย (ถ.วิทยุ) เพื่อประทับตรารับรองขั้นสุดท้าย เอกสารชุดนี้จึงจะสมบูรณ์พร้อมส่งไปเวียดนาม

ค่าบริการสำหรับเอกสารที่ใช้ในกลุ่มประเทศ ASEAN

เราให้บริการในอัตราที่โปร่งใสและคุ้มค่าต่อความเชี่ยวชาญที่คุณจะได้รับ

ค่าบริการรับรองเอกสาร Notary Public:
เริ่มต้น 1,500 บาท ต่อรายการรับรอง

ค่าบริการแปลเอกสาร (อังกฤษ, เวียดนาม, มลายู, บาฮาซา ฯลฯ):
เริ่มต้น 500 บาท ต่อหน้า (ขึ้นอยู่กับภาษาและความซับซ้อน)

*ค่าบริการนี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมราชการที่กรมการกงสุลและสถานทูต และค่าบริการดำเนินเรื่อง (หากใช้บริการ One-Stop Service)

ประเมินค่าใช้จ่ายโครงการ (LINE)

ลิงก์ที่เป็นประโยชน์ (สถานทูตประเทศสมาชิกอาเซียนในไทย)

(สำหรับตรวจสอบข้อมูลและยื่นเอกสารในขั้นตอนสุดท้ายของ Legalization)

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการรับรองเอกสารใน ASEAN

เอกสารที่รับรอง Notary Public จากไทย สามารถใช้ในสิงคโปร์หรือเวียดนามได้เลยหรือไม่?

ไม่ได้ครับ ประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน (เช่น สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, พม่า) ไม่ได้เป็นสมาชิกอนุสัญญา Apostille ดังนั้น เอกสารที่รับรอง Notary Public แล้ว จะต้องผ่านกระบวนการ 'Legalization' เต็มรูปแบบ คือ 1. นำไปรับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (MFA) ของไทยก่อน 2. จากนั้น นำไปรับรองที่สถานทูตของประเทศปลายทาง (เช่น สถานทูตเวียดนาม) ประจำประเทศไทย จึงจะสมบูรณ์ครับ

มีประเทศใดใน ASEAN ที่ใช้ระบบ Apostille บ้าง?

มีครับ ประเทศสมาชิก ASEAN ที่เป็นภาคีอนุสัญญาเฮก (Apostille) ณ ปัจจุบัน ได้แก่ ฟิลิปปินส์ (Philippines), อินโดนีเซีย (Indonesia), และบรูไน (Brunei) หากท่านต้องการใช้เอกสารใน 3 ประเทศนี้ กระบวนการจะง่ายกว่า คือ 1. รับรอง Notary Public (สำหรับเอกสารเอกชน) หรือ 2. นำเอกสารไปรับรอง Apostille ที่กรมการกงสุล (MFA) ได้เลย โดย 'ไม่ต้อง' ไปที่สถานทูตของประเทศนั้นๆ ครับ

จำเป็นต้องแปลเอกสารเป็นภาษาท้องถิ่น (เช่น เวียดนาม, มลายู) หรือไม่?

จำเป็นอย่างยิ่งครับ โดยเฉพาะ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ซึ่งต้องการคำแปลเป็นภาษาท้องถิ่นของตน สถานทูตเหล่านี้มักกำหนดให้ใช้บริการจากนักแปลที่สถานทูตรับรองหรือยอมรับเท่านั้น

ส่วน สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ส่วนใหญ่ยอมรับเอกสารที่เป็น "ภาษาอังกฤษ" แต่หากต้นฉบับเป็นไทย ก็ต้องแปลเป็นอังกฤษและรับรองคำแปล (Translation Certification) โดย Notary Public ครับ

NYC Plus มีบริการแปลเอกสารครบวงจรควบคู่ไปกับ Notary เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารของคุณถูกต้องทั้งเนื้อหาและการรับรอง

เอกสารราชการ (เช่น ปริญญาบัตร) ต้องทำ Notary หรือไม่?

เอกสารราชการแท้ (เช่น ปริญญาบัตร, Transcript, ทะเบียนบ้าน) ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐของไทย สามารถนำไปยื่นที่กรมการกงสุล (MFA) เพื่อรับรองได้เลย โดย "ไม่ต้อง" ผ่าน Notary ก่อน

แต่กรณีที่ "ต้อง" ใช้ Notary คือ:

เมื่อคุณต้องการ "รับรองคำแปล" (Translation Certification) ของเอกสารราชการนั้นๆ
เมื่อคุณต้องการ "รับรองสำเนาถูกต้อง" (Certified True Copy) โดยทนายความ (ซึ่งบางหน่วยงานปลายทางยอมรับ)

เราพร้อมสนับสนุนการขยายธุรกิจของคุณในภูมิภาคอาเซียน

อย่าให้ความซับซ้อนของเอกสารมาขัดขวางโอกาสทางธุรกิจของคุณใน ASEAN ปรึกษาทีมทนายความ Notary ผู้เชี่ยวชาญด้าน Legalization ประจำภูมิภาคอาเซียนของ NYC Plus วันนี้

□ ติดต่อผ่าน LINE: @NYCLI (ประเมินราคาฟรี) □ โทรสายด่วน: 081-562-0444

ทีมทนายความ Notary Public และผู้ประสานงานของเรา

ทีมงานมากประสบการณ์ พร้อมดูแลเอกสารของคุณในทุกขั้นตอน