ความเชื่อที่ 2: เอกสารที่รับรอง Notary แล้ว สามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลก?

ความจริง: ไม่ใช่ครับ เอกสารที่รับรองโดย Notary Public ของไทย จะมีผลสมบูรณ์ในต่างประเทศได้ ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการ 'Legalization' เพิ่มเติม คือต้องนำไปรับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (MFA) ก่อน จากนั้นจึงนำไปรับรองที่สถานทูตของประเทศปลายทางนั้นๆ ประจำประเทศไทย ตราประทับ Notary เป็นเพียง 'ขั้นตอนแรก' ในกระบวนการทั้งหมดครับ

ความเชื่อที่ 3: สามารถส่งเอกสารทางไปรษณีย์ให้ Notary รับรองได้เลย ไม่ต้องไปเอง?

ความจริง: ไม่ได้ครับ กฎหมายและหลักการสากลกำหนดว่า ผู้ลงนาม 'ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้า' (Personal Appearance) Notary Public พร้อม 'เอกสารยืนยันตัวตนฉบับจริง' (เช่น พาสปอร์ต, บัตรประชาชน) เพื่อให้ Notary สามารถยืนยันตัวตนและเห็นการลงนามด้วยตนเอง การรับรองเอกสารทางไปรษณีย์โดยที่ Notary ไม่เห็นตัวผู้ลงนาม ถือว่าผิดขั้นตอนอย่างร้ายแรงและเอกสารนั้นอาจเป็นโมฆะได้

ความเชื่อที่ 4: Notary Public ที่ไหนก็เหมือนกัน ใช้บริการที่ไหนก็ได้?

ความจริง: ไม่เหมือนกันครับ แม้ว่า Notary Public (ทนายความ) ทุกคนจะมีใบอนุญาตเหมือนกัน แต่ 'ความเชี่ยวชาญ' แตกต่างกันมาก Notary ที่มีประสบการณ์สูงอย่าง NYC Plus จะมีความรู้ความเข้าใจในข้อกำหนดเฉพาะของเอกสารระหว่างประเทศ, ข้อกำหนดของแต่ละสถานทูต, และมีความชำนาญในการรับรองเอกสารที่ซับซ้อน (เช่น เอกสาร Pharma, เอกสารการเงิน, Poder) การเลือก Notary ที่ไม่มีประสบการณ์อาจทำให้เอกสารถูกปฏิเสธที่สถานทูตและเสียเวลาได้

ความเชื่อที่ 6: สามารถใช้สำเนาบัตรประชาชนแทนตัวจริงในการรับรอง Notary ได้?

ความจริง: ไม่ได้ครับ คุณต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตน 'ฉบับจริง' ที่มีรูปถ่ายและยังไม่หมดอายุ (เช่น พาสปอร์ต หรือ บัตรประชาชนไทย) Notary ไม่สามารถรับรองลายมือชื่อของคุณได้ หากคุณแสดงเพียงสำเนา, รูปถ่ายในมือถือ, หรือเอกสารที่หมดอายุแล้ว

ความเชื่อผิดๆ Notary Public: 6 เรื่องจริงที่ต้องรู้ (Myth

Q: ความเชื่อที่ 1: Notary Public รับรอง 'ความถูกต้องของเนื้อหา' ในเอกสารใช่หรือไม่?

ความจริง: ไม่ใช่ครับ Notary Public (ในไทยคือทนายความรับรองลายมือชื่อ) ไม่ได้รับรองว่าเนื้อหาในเอกสารเป็นความจริง หน้าที่หลักของ Notary คือการรับรอง 'ตัวตนของผู้ลงนาม' (Identity Verification) และ 'ความสมัครใจในการลงนาม' (Voluntary Act) เท่านั้น ตราประทับของ Notary ยืนยันว่า 'บุคคล A ได้มาลงนามในเอกสารนี้ต่อหน้า Notary ในวันที่ B' แต่ไม่ได้ยืนยันว่า 'สิ่งที่บุคคล A เขียนในเอกสารเป็นความจริง'

Q: ความเชื่อที่ 5: การรับรอง Notary คือการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย?

ความจริง: ไม่ใช่ครับ Notary Public ทำหน้าที่เป็น 'พยานที่เป็นกลาง' (Impartial Witness) ที่ได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายเท่านั้น Notary จะไม่ให้คำแนะนำทางกฎหมายเกี่ยวกับเนื้อหาของเอกสาร (เช่น 'คุณควรเซ็นสัญญานี้หรือไม่' หรือ 'ข้อความนี้ถูกกฎหมายหรือไม่') เพราะจะเป็นการขัดแย้งต่อผลประโยชน์ (Conflict of Interest) หากคุณต้องการคำปรึกษาทางกฎหมาย คุณต้องจ้างทนายความเป็น 'ที่ปรึกษา' ซึ่งเป็นบริการที่แยกต่างหากจากการรับรอง Notary

ทำไมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Notary Public จึงสำคัญ?

ในยุคที่การติดต่อสื่อสาร ทำธุรกรรม หรือเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องปกติ "Notary Public" (หรือในบริบทของไทยคือ "ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อ") ได้กลายเป็นบริการที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทำหนังสือมอบอำนาจ, รับรองเอกสารเรียนต่อ, หรือเอกสารทางธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ระบบ Notary Public ของไทยมีลักษณะเฉพาะ (ดำเนินการโดยทนายความที่ได้รับใบอนุญาต) และแตกต่างจากระบบ Notary ในประเทศอื่น (เช่น ในสหรัฐอเมริกาที่ใครก็เป็นได้ หรือในยุโรปที่เป็นระบบ Notary Law) จึงทำให้เกิด ความเชื่อผิดๆ (Myths) และความสับสนมากมาย

ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความยุ่งยาก แต่ยังอาจนำไปสู่ผลกระทบที่รุนแรง เช่น เอกสารถูกปฏิเสธการใช้งานในต่างประเทศ, เสียเวลาดำเนินการใหม่ทั้งหมด, หรือสูญเสียโอกาสทางธุรกิจและส่วนตัว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรองเอกสารระหว่างประเทศด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ทีมทนายความ Notary Public ของ NYC Plus ขออาสา "ไขข้อสงสัย" และ "แก้ไขความเชื่อที่ผิด" เหล่านั้นให้กระจ่าง ด้วยข้อมูล "ข้อเท็จจริง (Facts)" ที่ถูกต้องและชัดเจน เพื่อให้คุณเตรียมเอกสารได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง 100%

❌ ความเชื่อที่ 1: Notary Public รับรอง "ความถูกต้องของเนื้อหา" ในเอกสาร

✅ ข้อเท็จจริง: Notary รับรองเฉพาะ "ตัวตนและลายมือชื่อของผู้ลงนาม" เท่านั้น

นี่คือความเข้าใจผิดที่พบบ่อยและอันตรายที่สุด! หลายท่านเชื่อว่าเมื่อเอกสารมีตราประทับ Notary แล้ว หมายความว่าทนายความได้ "รับประกัน" ว่าทุกข้อความในเอกสารนั้นเป็นความจริง ถูกต้องตามกฎหมาย และมีผลบังคับใช้

ความจริงคือ: หน้าที่หลักของ Notary Public คือการทำหน้าที่เป็น "พยานที่เป็นกลางที่ได้รับแต่งตั้งตามกฎหมาย" (An Impartial Legal Witness) บทบาทของ Notary ไม่ใช่การตรวจสอบเนื้อหา แต่คือการยืนยันข้อเท็จจริงพื้นฐาน 3 ประการ:

การยืนยันตัวตน (Identity Verification): Notary ตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนฉบับจริง (เช่น พาสปอร์ต, บัตรประชาชน) เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าคือคนเดียวกับที่มีชื่อระบุไว้ในเอกสาร
ความสมัครใจ (Voluntary Act): Notary ต้องมั่นใจว่าผู้ลงนามกระทำการด้วยความสมัครใจ เข้าใจว่าตนเองกำลังลงนามในเอกสารอะไร และไม่ได้ถูกข่มขู่ บังคับ หรือหลอกลวง
การลงนาม (The Act of Signing): Notary เป็นพยานว่าผู้ลงนามได้ลงลายมือชื่อในเอกสารนั้น "ต่อหน้า" Notary จริง (ในกรณี Authentication/Jurat) หรือ ยอมรับว่าลายมือชื่อนั้นเป็นของตนเองจริง (ในกรณี Acknowledgment)

ขอบเขตการรับรองของ Notary (ในไทย)

ในประเทศไทย บริการ Notary Public ดำเนินการโดยทนายความที่ได้รับใบอนุญาต "ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร" จากสภาทนายความ การรับรองหลักๆ ได้แก่:

การรับรองลายมือชื่อ (Authentication of Signature): ยืนยันว่าบุคคลนั้นๆ ได้มาลงนามต่อหน้าทนายจริง
การรับรองสำเนาถูกต้อง (Certification of True Copy): ยืนยันว่าสำเนาเอกสารตรงกับต้นฉบับที่นำมาแสดงจริง (ไม่ได้ยืนยันว่าต้นฉบับจริงหรือปลอม)
การทำคำสาบาน (Administering Oaths/Affidavits): เป็นพยานในการที่บุคคลมากล่าวคำสาบานว่าข้อความในเอกสาร (Affidavit) เป็นความจริง (แต่ Notary ก็ยังไม่ได้ยืนยันเนื้อหา แค่รับรองว่าเขา "สาบาน" แล้ว)

ข้อควรระวัง: ตราประทับ Notary Public ไม่ได้รับประกันว่า:

เนื้อหาในสัญญาเป็นธรรมหรือไม่
ข้อความที่ระบุในเอกสารเป็นความจริงหรือไม่
เอกสารนั้นถูกต้องตามกฎหมาย 100% หรือไม่

ดังนั้น หากคุณนำสัญญาที่เนื้อหาไม่เป็นธรรมไปให้ Notary รับรองลายมือชื่อ Notary จะรับรองให้ (ตราบใดที่คุณยืนยันตัวตนและเซ็นด้วยความสมัครใจ) แต่สัญญานั้นก็ยังคงไม่เป็นธรรมอยู่ดี

❌ ความเชื่อที่ 2: เอกสารที่รับรอง Notary แล้ว ใช้ได้ทั่วโลกทันที

✅ ข้อเท็จจริง: เอกสารส่วนใหญ่ต้องผ่านกระบวนการ Legalization ที่กรมการกงสุลและสถานทูตก่อน

หลายท่านคิดว่าเมื่อได้ตราประทับ Notary Public สีทองสวยหรูแล้ว สามารถส่งเอกสารนี้ไปใช้ที่บราซิล, เยอรมนี, หรือเวียดนามได้เลยทันที

ความจริงคือ: ตราประทับของ Notary Public (ทนายความไทย) เป็นการรับรองที่ถูกต้องตาม "กฎหมายไทย" เท่านั้น หน่วยงานในต่างประเทศไม่มีทางทราบได้ว่าทนายความคนนี้มีใบอนุญาตจริงหรือไม่ หรือตราประทับนี้ถูกต้องหรือไม่

เพื่อให้เอกสารไทยสามารถใช้ได้ในต่างประเทศ จึงต้องมีกระบวนการ "รับรองซ้อน" ที่เรียกว่า Legalization (การรับรองเอกสาร)

กระบวนการ Legalization เต็มรูปแบบ (สำหรับประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก Apostille)

นี่คือกระบวนการที่ถูกต้องสำหรับประเทศส่วนใหญ่ รวมถึงประเทศสำคัญๆ เช่น กลุ่มละตินอเมริกา (บราซิล, เม็กซิโก, อาร์เจนตินา), จีน, เวียดนาม, และประเทศในตะวันออกกลาง:

ขั้นตอนที่ 1: รับรองโดย Notary Public (Notarization)
นำเอกสาร (เช่น หนังสือมอบอำนาจ, เอกสารบริษัท, คำแปล) ไปให้ทนายความ Notary Public รับรองลายมือชื่อ หรือรับรองสำเนา (บริการของ NYC Plus เริ่มต้น 1,500 บาท)
ขั้นตอนที่ 2: รับรองโดยกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (MFA Legalization)
นำเอกสารที่ผ่าน Notary แล้ว ไปยื่นที่ กรมการกงสุล ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ "รับรองลายมือชื่อและตราประทับของทนายความ Notary Public" คนนั้นๆ
ขั้นตอนที่ 3: รับรองโดยสถานทูตประเทศปลายทาง (Embassy Legalization)
นำเอกสารที่ผ่านกรมการกงสุลไทยแล้ว ไปยื่นที่สถานทูตของประเทศที่คุณจะไปใช้เอกสาร (เช่น สถานทูตบราซิล, สถานทูตเม็กซิโก) ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้เจ้าหน้าที่กงสุลของประเทศนั้นๆ "รับรองลายมือชื่อและตราประทับของเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลไทย"

เมื่อครบ 3 ขั้นตอน เอกสารของคุณจึงจะมีผลสมบูรณ์พร้อมใช้งานในประเทศปลายทาง

ข้อยกเว้น: อนุสัญญาเฮก (Apostille Convention)

มีบางประเทศที่เป็นสมาชิกอนุสัญญาเฮก (เช่น สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, รัสเซีย) หากเอกสารจะนำไปใช้ในกลุ่มประเทศนี้ กระบวนการจะสั้นลง คือทำเพียงขั้นตอนที่ 1 (Notary) และขั้นตอนที่ 2 (กรมการกงสุล) โดยกรมการกงสุลจะออกตราประทับพิเศษที่เรียกว่า "Apostille" ให้ ซึ่งสามารถใช้ได้เลยโดย "ไม่ต้อง" ไปสถานทูต (ขั้นตอนที่ 3)

สำคัญ: ประเทศไทย ยังไม่ได้เป็นสมาชิก อนุสัญญา Apostille ดังนั้น เอกสารราชการไทยส่วนใหญ่จึงยังต้องใช้ระบบ Legalization 3 ขั้นตอนเต็มรูปแบบ แต่ความรู้เรื่องนี้จำเป็นสำหรับ Notary ที่เชี่ยวชาญเอกสารระหว่างประเทศ

❌ ความเชื่อที่ 3: สามารถส่งเอกสารมาให้ Notary รับรองทางไปรษณีย์ได้เลย

✅ ข้อเท็จจริง: ผู้ลงนาม "ต้อง" มาปรากฏตัวต่อหน้า Notary เพื่อยืนยันตัวตน

เพื่อความสะดวก หลายท่านที่อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศมักสอบถามว่า "เซ็นเอกสารแล้วส่ง EMS ไปให้ทนาย Notary ประทับตราได้หรือไม่?"

ความจริงคือ: ไม่สามารถทำได้ครับ นี่คือข้อกำหนดที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการ Notarization ทั่วโลก นั่นคือ "การปรากฏตัวต่อหน้า" (Personal Appearance)

ทำไมการปรากฏตัวต่อหน้าจึงสำคัญ?

ดังที่กล่าวไปในความเชื่อที่ 1 หน้าที่ของ Notary คือการยืนยันตัวตนและความสมัครใจของผู้ลงนาม ซึ่ง Notary ไม่สามารถทำได้เลยหากไม่เห็นตัวผู้ลงนาม:

เพื่อป้องกันการฉ้อโกง (Fraud Prevention): หาก Notary รับรองเอกสารทางไปรษณีย์ จะรู้ได้อย่างไรว่าลายเซ็นนั้นไม่ใช่การปลอมแปลง? อาจมีคนขโมยพาสปอร์ตของคุณไปเซ็นหนังสือมอบอำนาจขายบ้านของคุณก็ได้ การที่ Notary ต้องเห็นหน้าคุณ เทียบกับบัตรประชาชน/พาสปอร์ตตัวจริง และเห็นคุณลงนาม เป็นการป้องกันการฉ้อโกงที่มีประสิทธิภาพที่สุด
เพื่อประเมินความสมัครใจ (Assessing Voluntariness): Notary ต้องประเมินว่าผู้ลงนามมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน (Awareness) และลงนามด้วยความเต็มใจ (Willingness) ไม่ได้ถูกบังคับ (Coercion) ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินผ่านเอกสารทางไปรษณีย์ไม่ได้

การที่ Notary ยอมรับรองเอกสารทางไปรษณีย์โดยไม่พบผู้ลงนาม ถือเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณทนายความอย่างร้ายแรง และเอกสารที่ได้ไปนั้น "ไม่มีผลทางกฎหมาย" ทันทีที่ถูกตรวจสอบหรือคัดค้าน

แล้ว Remote Online Notarization (RON) ล่ะ?

คุณอาจเคยได้ยินว่าในบางประเทศ (เช่น บางรัฐในสหรัฐฯ) อนุญาตให้มีการรับรอง Notary ผ่านวิดีโอคอล (Remote Online Notarization - RON) ซึ่งผู้ลงนามและ Notary "ปรากฏตัวต่อหน้ากัน" ผ่านระบบวิดีโอที่มีการตรวจสอบความปลอดภัยสูง

อย่างไรก็ตาม สำหรับบริบทของประเทศไทยในปัจจุบัน ระบบ RON ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการ โดยสภาทนายความ และที่สำคัญที่สุดคือ กรมการกงสุลและสถานทูตต่างประเทศในไทย ยังคงกำหนดให้การรับรอง Notary ต้องเป็นการลงนามต่อหน้าทนายความแบบ "ตัวเป็นๆ" (Physical Presence) เท่านั้น

ดังนั้น เพื่อให้เอกสารของคุณใช้ได้จริงในต่างประเทศ การเดินทางมาพบ Notary ด้วยตนเองจึงเป็นขั้นตอนที่ "บังคับ" และหลีกเลี่ยงไม่ได้

❌ ความเชื่อที่ 4: Notary Public คนไหนก็เหมือนกัน ราคาถูกไว้ก่อน

✅ ข้อเท็จจริง: ประสบการณ์และความรู้เรื่องเอกสารระหว่างประเทศ คือสิ่งที่แตกต่าง

หลายท่านอาจเปรียบเทียบราคาและคิดว่า Notary ที่เสนอราคา 200-300 บาท ย่อมดีกว่าที่เสนอราคา 1,500 บาท เพราะได้ตราประทับเหมือนกัน

ความจริงคือ: "ตราประทับ" อาจดูคล้ายกัน แต่ "คุณภาพและความถูกต้องของกระบวนการ" ที่นำไปสู่ตราประทับนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือก Notary ราคาถูกที่ขาดความเชี่ยวชาญ อาจทำให้คุณ "เสียเงินฟรี" เพราะเอกสารถูกปฏิเสธในท้ายที่สุด

ความแตกต่างระหว่าง Notary ทั่วไป กับ Notary ผู้เชี่ยวชาญ (เช่น NYC Plus)

ปัจจัย	Notary ทั่วไป (ราคาถูก)	Notary ผู้เชี่ยวชาญ (เช่น NYC Plus)
ความรู้	รู้แค่การประทับตรา อาจไม่เข้าใจข้อกำหนด Legalization	เชี่ยวชาญ ข้อกำหนดของกรมการกงสุล และแต่ละสถานทูต
ประสบการณ์	อาจไม่เคยทำเอกสารซับซ้อน เช่น เอกสาร Pharma หรือ Poder	มีประสบการณ์สูง กับเอกสารเฉพาะทาง (Pharma, LATAM, US Visa)
ภาษา	ไม่สามารถสื่อสารหรือตรวจสอบเอกสารภาษาต่างประเทศได้	ทีมงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และประสานงานนักแปลสเปน/โปรตุเกส
กระบวนการ	อาจละเลยขั้นตอน (เช่น ไม่ต้องมาด้วยตนเอง) ซึ่งทำให้เอกสารเป็นโมฆะ	เข้มงวด 100% ยืนยันตัวตน, ลงนามต่อหน้า, ลงบันทึก (Logbook)
ความเสี่ยง	สูงมาก ที่เอกสารจะถูกปฏิเสธโดย กงสุล หรือ สถานทูต	ต่ำมาก รับประกันว่าเอกสารผ่านขั้นตอน Notary อย่างถูกต้อง

"ค่าบริการเริ่มต้น 1,500 บาท" ของเรา สะท้อนอะไร?

ราคาของเราสะท้อนถึงการบริการที่ครบถ้วนโดย "ทนายความอาวุโส" ผู้มีใบอนุญาตถูกต้อง, มีการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด, ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด, และมีการรับประกันว่าเอกสารที่ออกจากเราจะ "ถูกต้อง" สำหรับขั้นตอนต่อไป (Legalization) มันคือการซื้อ "ความถูกต้องและความสบายใจ" ไม่ใช่แค่ "ตราประทับ" ครับ

❌ ความเชื่อที่ 5: การรับรอง Notary คือการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย

✅ ข้อเท็จจริง: Notary ทำหน้าที่เป็นพยานที่เป็นกลาง ไม่ใช่ที่ปรึกษากฎหมายของคุณ

เนื่องจากในประเทศไทย Notary Public คือทนายความ หลายท่านจึงเข้าใจว่าเมื่อมาพบ Notary ท่านจะได้รับคำปรึกษาด้านกฎหมายเกี่ยวกับเอกสารนั้นๆ ไปด้วยเลย เช่น "สัญญาฉบับนี้ผมเสียเปรียบไหม?" หรือ "ผมควรมอบอำนาจเรื่องอะไรบ้าง?"

ความจริงคือ: นี่คือการแบ่งบทบาทที่ชัดเจนตามจรรยาบรรณวิชาชีพ:

บทบาทที่ปรึกษากฎหมาย (Legal Advisor): คือทนายความที่ "ทำงานให้คุณ" (เป็นฝ่ายเดียวกับคุณ) มีหน้าที่ให้คำแนะนำที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคุณ, ช่วยร่างเอกสาร, และชี้ให้เห็นถึงข้อดี-ข้อเสีย
บทบาท Notary Public (Impartial Witness): คือทนายความที่ทำหน้าที่เป็น "เจ้าหน้าที่ที่เป็นกลาง" (เป็นกลางระหว่างทุกฝ่าย) มีหน้าที่เพียง "เป็นพยาน" ในการลงนามตามที่กฎหมายกำหนด

ทำไม Notary ถึงให้คำแนะนำทางกฎหมายไม่ได้?

เพราะจะเกิด "การขัดแย้งต่อผลประโยชน์" (Conflict of Interest) ลองนึกภาพว่าหาก Notary ให้คำแนะนำคุณในการร่างหนังสือมอบอำนาจ (Poder) เพื่อไปฟ้องร้องคดีในเม็กซิโก Notary ก็จะไม่ "เป็นกลาง" อีกต่อไป แต่กำลังทำหน้าที่เป็น "ทนายความ" ของคุณ

ดังนั้น เมื่อคุณนำเอกสารมาให้ Notary รับรอง:

Notary จะไม่ แนะนำคุณว่า "ควรเซ็นหรือไม่"
Notary จะไม่ อธิบายผลทางกฎหมายของเอกสารให้คุณฟัง
Notary จะไม่ ช่วยคุณร่างหรือแก้ไขเนื้อหาในเอกสาร (เว้นแต่เป็นการแก้ไขคำผิดเล็กน้อยที่ไม่ใช่เนื้อหาสาระ)

                                    ข้อแนะนำ: หากคุณ "ไม่มั่นใจ" ในเนื้อหาของเอกสาร หรือ "ไม่เข้าใจ" สิ่งที่คุณกำลังจะเซ็น คุณควร "หยุด" และ "จ้างทนายความเพื่อเป็นที่ปรึกษากฎหมาย (Legal Consultation)" ก่อน ซึ่งเป็นบริการที่แยกต่างหากจาก Notary Public (ซึ่ง NYC Plus ก็มีให้บริการเช่นกัน) เมื่อคุณเข้าใจและตกลงกับเนื้อหาเอกสารแล้ว จึงค่อยนำเอกสารฉบับสมบูรณ์นั้นมาให้ Notary รับรองลายมือชื่อต่อไป
                                

❌ ความเชื่อที่ 6: สามารถใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือรูปถ่ายพาสปอร์ตในมือถือแทนได้

✅ ข้อเท็จจริง: ต้องใช้เอกสารยืนยันตัวตน "ฉบับจริง" ที่ยังไม่หมดอายุเท่านั้น

"ลืมพาสปอร์ตตัวจริงไว้ที่บ้าน ขอใช้รูปถ่ายในมือถือแทนได้ไหม?" หรือ "ใช้สำเนาบัตรประชาชนที่ถ่ายเอกสารไว้ได้ไหม?" นี่คือคำถามที่เราพบบ่อย

ความจริงคือ: ไม่สามารถใช้แทนกันได้โดยเด็ดขาด กฎข้อสำคัญที่สุดในการยืนยันตัวตน (Identity Verification) คือ Notary ต้องได้ตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตน "ฉบับจริง" (Original Document) ที่ออกโดยหน่วยงานราชการ, มีรูปถ่ายใบหน้า, และยังไม่หมดอายุ (Unexpired)

เอกสารที่ "ยอมรับได้" (Acceptable ID):

หนังสือเดินทาง (Passport): ฉบับจริงที่ยังไม่หมดอายุ (ของไทยหรือต่างชาติก็ได้) (แนะนำที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ)
บัตรประจำตัวประชาชน (Thai National ID Card): ฉบับจริงที่ยังไม่หมดอายุ (สำหรับคนไทย)

เอกสารที่ "ไม่ยอมรับ" (Unacceptable ID):

สำเนาเอกสารทุกชนิด (Photocopies): ไม่ว่าจะชัดเจนแค่ไหน หรือแม้จะรับรองสำเนาถูกต้องมาแล้วก็ตาม
รูปถ่ายเอกสารในมือถือ (Digital Images)
เอกสารที่หมดอายุ (Expired IDs)
ใบขับขี่ (Driver's License): แม้จะเป็นฉบับจริง แต่โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้สำหรับธุรกรรม Notary ที่มีความเสี่ยงสูงหรือใช้ในต่างประเทศ เนื่องจากมาตรฐานความปลอดภัยในการออกบัตรอาจไม่เทียบเท่าพาสปอร์ต (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ Notary และข้อกำหนดปลายทาง)
บัตรนักเรียน, บัตรพนักงาน, หรือบัตรอื่นๆ ที่ไม่ได้ออกโดยรัฐบาลกลาง

หากไม่มีเอกสารฉบับจริง Notary จะไม่สามารถดำเนินการรับรองให้ท่านได้ นี่คือกฎเหล็กเพื่อป้องกันการสวมรอยและการฉ้อโกงครับ

❌ ความเชื่อที่ 7: Notary Public กับ กรมการกงสุล คือที่เดียวกัน

✅ ข้อเท็จจริง: เป็นคนละหน่วยงาน และต้องทำตามลำดับขั้นตอน

หลายท่านสับสนระหว่าง "รับรอง Notary" กับ "รับรองกงสุล" และคิดว่าเป็นกระบวนการเดียวกัน หรือทำที่ไหนก่อนก็ได้

ความจริงคือ: ทั้งสองหน่วยงานทำหน้าที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และต้องทำตามลำดับขั้นตอน ดังนี้:

1. Notary Public (ทนายความรับรองลายมือชื่อ)

คือใคร: ทนายความเอกชน ที่ได้รับใบอนุญาตจากสภาทนายความ
ทำหน้าที่อะไร: เป็น "พยาน" ยืนยันว่า "คุณ" (ผู้ลงนาม) คือตัวจริง และได้ลงนามในเอกสารจริง
ทำเพื่อใคร: ทำเพื่อเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างความน่าเชื่อถือให้เอกสาร

2. กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (Ministry of Foreign Affairs - MFA)

คือใคร: หน่วยงาน "ราชการ" ของไทย
ทำหน้าที่อะไร: "รับรองลายมือชื่อและตราประทับของ Notary Public" (หรือรับรองลายมือชื่อเจ้าหน้าที่รัฐผู้ออกเอกสารราชการ) กรมการกงสุลไม่ได้สนใจเนื้อหาเอกสาร หรือหน้าตาของคุณ แต่สนใจว่า "ทนาย Notary ที่เซ็นมานั้น มีใบอนุญาตถูกต้องจริงหรือไม่"
ทำเพื่อใคร: ทำเพื่อยืนยันกับ "สถานทูตต่างประเทศ" ว่าตราประทับ Notary นี้เป็นของจริงจากประเทศไทย

สรุป: คุณต้องไปหา Notary ก่อน (ขั้นตอนที่ 1) เพื่อให้ Notary รับรองคุณ จากนั้นจึงนำเอกสารไปหากรมการกงสุล (ขั้นตอนที่ 2) เพื่อให้กงสุลรับรอง Notary อีกทีหนึ่ง ไม่สามารถทำสลับกันได้ครับ

สรุป: เลือกใช้บริการ Notary Public จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความถูกต้องและสบายใจ

ความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับ Notary Public อาจนำไปสู่การเสียเวลา เสียเงิน และอาจทำให้เอกสารสำคัญของคุณใช้งานไม่ได้ การทำความเข้าใจข้อเท็จจริงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ที่ NYC Plus ทีมทนายความ Notary Public ของเราไม่เพียงแต่ประทับตรา แต่เราให้บริการด้วย "ความเชี่ยวชาญ" เรารู้จริงเรื่องข้อกำหนดระหว่างประเทศ เราเข้มงวดทุกขั้นตอน และเราพร้อมให้คำแนะนำที่ถูกต้อง

อย่าเสี่ยงกับเอกสารสำคัญ โทรปรึกษาเรา 081-562-0444

ทีมทนายความ Notary Public และผู้ประสานงานของเรา

ทีมงานมากประสบการณ์ พร้อมดูแลเอกสารของคุณในทุกขั้นตอน