Affidavit (คำให้การ) คืออะไร? ความหมายและความสำคัญ

Affidavit (อ่านว่า แอฟ-ฟิ-เด-วิด) หรือที่อาจแปลเป็นไทยว่า "คำให้การ" หรือ "คำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายใต้คำสาบาน" คือเอกสารทางกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบุคคล (เรียกว่า ผู้ให้การ หรือ Affiant) ได้ให้ข้อเท็จจริงตามความรู้และความเชื่อของตน โดยมีการกล่าวคำสาบาน (Oath) หรือคำยืนยัน (Affirmation) ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น Notary Public, ผู้พิพากษา, หรือเจ้าพนักงานศาล ว่าข้อความที่ระบุในเอกสารนั้นเป็นความจริงทุกประการ

ความสำคัญของ Affidavit อยู่ที่การเป็น "หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร" ที่มีน้ำหนักทางกฎหมาย เนื่องจากผู้ให้การได้ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลภายใต้บทลงโทษของการให้การเท็จ (Perjury) ทำให้ Affidavit ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในกระบวนการทางกฎหมาย การยื่นเอกสารต่อหน่วยงานราชการทั้งในและต่างประเทศ และการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องการการยืนยันข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ

องค์ประกอบสำคัญที่ต้องมีใน Affidavit

แม้รูปแบบของ Affidavit อาจแตกต่างกันไปบ้างตามวัตถุประสงค์และเขตอำนาจศาล แต่โดยทั่วไปแล้ว Affidavit ที่สมบูรณ์ควรประกอบด้วยองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้:

  1. ชื่อเรื่อง (Title): ระบุประเภทของ Affidavit อย่างชัดเจน เช่น "Affidavit of Support", "Affidavit of Single Status" หรือเพียงแค่ "Affidavit" หากเป็นคำให้การทั่วไป
  2. ข้อมูลผู้ให้การ (Affiant Information): ชื่อ-นามสกุลเต็ม, ที่อยู่, และข้อมูลระบุตัวตนอื่นๆ ของผู้ที่ให้การ
  3. คำกล่าวเริ่มต้น (Commencement): ข้อความที่ระบุว่าผู้ให้การปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในวันที่และสถานที่ที่ระบุ
  4. คำสาบานหรือคำยืนยัน (Oath or Affirmation): ข้อความที่ผู้ให้การกล่าวเพื่อยืนยันว่าจะให้การตามความสัตย์จริง เช่น "ข้าพเจ้าขอสาบานว่า..." (I swear that...) หรือ "ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า..." (I affirm that...)
  5. เนื้อหาข้อเท็จจริง (Statement of Facts): ส่วนสำคัญที่สุด คือข้อเท็จจริงที่ผู้ให้การต้องการยืนยัน ควรเขียนเป็นข้อๆ อย่างชัดเจน เป็นลำดับ และตรงไปตรงมา โดยอ้างอิงจากความรู้โดยตรงของผู้ให้การ
  6. ลายมือชื่อผู้ให้การ (Affiant's Signature): ผู้ให้การต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
  7. ส่วนรับรองของ Notary Public (Jurat): ส่วนนี้สำคัญมาก เป็นส่วนที่ Notary Public หรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจลงนามและประทับตรา เพื่อรับรองว่าผู้ให้การได้มาสาบานตนหรือยืนยัน และลงลายมือชื่อต่อหน้าตนจริงในวันที่และสถานที่ที่ระบุ ส่วนนี้มักเรียกว่า "Jurat" และมักมีข้อความทำนองว่า "Sworn to and subscribed before me this [day] day of [month], [year]."

การมีองค์ประกอบเหล่านี้ครบถ้วนช่วยให้ Affidavit มีความน่าเชื่อถือและสมบูรณ์ตามหลักกฎหมาย

ขั้นตอนการทำ Affidavit อย่างถูกต้อง (Step-by-Step)

การจัดทำ Affidavit มีขั้นตอนที่ชัดเจนเพื่อให้เอกสารมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ดังนี้:

  1. ร่างเนื้อหา Affidavit (Drafting): เริ่มต้นด้วยการร่างข้อความคำให้การที่ต้องการยืนยัน ควรระบุข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ถูกต้อง และครบถ้วน หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาทนายความเพื่อช่วยร่างเนื้อหาให้เป็นไปตามหลักกฎหมายและตรงตามวัตถุประสงค์
  2. ตรวจสอบความถูกต้อง: อ่านทบทวนเนื้อหาที่ร่างไว้อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด และข้อมูลทั้งหมดเป็นความจริงตามความรู้ความเข้าใจของผู้ให้การ
  3. นัดหมาย Notary Public: ติดต่อสำนักงาน Notary Public ที่สะดวก เพื่อนัดหมายเวลาสำหรับการทำ Affidavit ห้ามลงนามในเอกสารก่อนเด็ดขาด
  4. เตรียมเอกสารยืนยันตัวตน: เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ เพื่อใช้แสดงต่อ Notary Public
  5. ไปพบ Notary Public ตามนัด: เดินทางไปยังสำนักงาน Notary Public ตามวันและเวลาที่นัดหมาย พร้อมนำเอกสาร Affidavit ที่ยังไม่ได้ลงนาม และเอกสารยืนยันตัวตนไปด้วย
  6. กล่าวคำสาบาน/คำยืนยัน และลงนาม (Swear/Affirm and Sign): Notary Public จะให้ผู้ให้การกล่าวคำสาบาน (Oath) หรือคำยืนยัน (Affirmation) ว่าข้อความใน Affidavit เป็นความจริง จากนั้น ผู้ให้การจะต้องลงลายมือชื่อในเอกสารต่อหน้า Notary Public
  7. Notary Public รับรองเอกสาร (Notarization): Notary Public จะลงนาม ประทับตรา และกรอกรายละเอียดในส่วน Jurat เพื่อรับรองว่ากระบวนการสาบานตนและลงนามได้เกิดขึ้นต่อหน้าตนจริง ถือเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

ข้อควรจำ: การลงนามใน Affidavit ต้องทำต่อหน้า Notary Public เท่านั้น การลงนามมาก่อนล่วงหน้าจะทำให้ Affidavit นั้นไม่สมบูรณ์และไม่สามารถรับรองได้

ประเภทของ Affidavit ที่พบบ่อย

Affidavit มีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน นี่คือตัวอย่างประเภท Affidavit ที่พบบ่อย:

  • Affidavit of Support (คำให้การสนับสนุนทางการเงิน): ใช้ในการยื่นขอวีซ่าหรือสถานะผู้อยู่อาศัยในต่างประเทศ เพื่อยืนยันว่าผู้ให้การมีความสามารถทางการเงินเพียงพอที่จะสนับสนุนผู้ยื่นคำร้อง (เช่น สมาชิกในครอบครัว)
  • Affidavit of Single Status / Marital Status (คำให้การรับรองสถานภาพโสด/สมรส): ใช้เพื่อยืนยันสถานภาพการสมรสในปัจจุบัน มักใช้ในการจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ หรือทำธุรกรรมบางอย่างในต่างประเทศ
  • Affidavit of Name Change (คำให้การเรื่องการเปลี่ยนชื่อ-สกุล): ใช้ยืนยันว่าบุคคลที่มีชื่อเดิมและชื่อใหม่เป็นบุคคลคนเดียวกัน มักใช้กรณีเอกสารสำคัญระบุชื่อไม่ตรงกัน
  • Affidavit of Discrepancy (คำให้การชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน): ใช้ชี้แจงความคลาดเคลื่อนของข้อมูลในเอกสารต่างๆ เช่น วันเดือนปีเกิด ชื่อ หรือรายละเอียดอื่นๆ ที่ไม่ตรงกัน
  • Affidavit of Common Law Marriage (คำให้การรับรองการอยู่กินฉันสามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียน): ใช้ในบางประเทศเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย
  • Affidavit of Income (คำให้การรับรองรายได้): ใช้ยืนยันรายได้ของผู้ให้การ มักใช้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อ หรือในกรณีอื่นๆ ที่ต้องการหลักฐานแสดงรายได้นอกเหนือจากเอกสารทางการ
  • Affidavit of Identity (คำให้การยืนยันตัวตน): ใช้เมื่อต้องการให้บุคคลที่สามยืนยันตัวตนของผู้ให้การ
  • Affidavit of Small Estate (คำให้การเกี่ยวกับทรัพย์สินมรดกจำนวนน้อย): ใช้ในกระบวนการจัดการมรดกที่มีมูลค่าไม่สูงมากนัก (ตามที่กฎหมายกำหนด) เพื่อขอรับโอนทรัพย์สินโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตั้งผู้จัดการมรดกที่ซับซ้อน
  • Affidavit of Service/Proof of Service (คำให้การรับรองการส่งหมาย/เอกสาร): ใช้โดยผู้ส่งหมายศาลหรือเอกสารทางกฎหมาย เพื่อยืนยันว่าได้ส่งเอกสารให้แก่ผู้รับตามขั้นตอนแล้ว
  • Affidavit of Loss (คำให้การกรณีเอกสารสูญหาย): ใช้แจ้งและยืนยันว่าเอกสารสำคัญ เช่น โฉนดที่ดิน หรือใบหุ้น ได้สูญหายไปจริง

(หมายเหตุ: ในอนาคต เราอาจมีหน้าเว็บแยกสำหรับ Affidavit แต่ละประเภทโดยเฉพาะ)

ใครสามารถเป็นผู้ให้การ (Affiant) ได้บ้าง?

โดยหลักการแล้ว บุคคลใดๆ ก็ตามสามารถเป็นผู้ให้การใน Affidavit ได้ หากมีคุณสมบัติ ดังนี้:

  • มีความรู้โดยตรง (Personal Knowledge): ต้องเป็นผู้ที่รู้เห็นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ให้การด้วยตนเอง ไม่ใช่เป็นการบอกเล่าจากผู้อื่น (Hearsay)
  • มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ (Mentally Competent): ต้องสามารถเข้าใจถึงความหมายและผลของการสาบานตนหรือให้คำยืนยันได้
  • เข้าใจภาษา: ต้องเข้าใจภาษาที่ใช้ใน Affidavit หากไม่เข้าใจ ควรมีล่ามแปลภาษาที่น่าเชื่อถือเข้าร่วมในกระบวนการด้วย
  • บรรลุนิติภาวะ (Generally): โดยทั่วไปผู้ให้การควรเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ ผู้เยาว์อาจสามารถทำ Affidavit ได้ โดยอาจต้องมีผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง

ความแตกต่างระหว่าง Affidavit และ Statutory Declaration

เอกสารทั้งสองประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกัน คือเป็นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง แต่มีความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ "ลักษณะของการยืนยันความจริง":

  • Affidavit: ผู้ให้การยืนยันข้อเท็จจริงภายใต้ "คำสาบาน" (Oath) ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติอาจมีการอ้างถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือกล่าวคำปฏิญาณว่าจะพูดความจริง หากให้การเท็จจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ (Perjury) มักใช้ในบริบททางศาลหรือกระบวนการทางกฎหมายที่เข้มงวด
  • Statutory Declaration: ผู้ให้การยืนยันข้อเท็จจริงภายใต้ "คำประกาศตามกฎหมาย" (Solemn Declaration) ว่าข้อความเป็นจริง โดยไม่มีการกล่าวคำสาบาน แต่การให้ข้อมูลเท็จยังคงมีผลทางกฎหมาย (อาจเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ) มักใช้ในทางปกครอง ธุรกิจ หรือกรณีทั่วไปที่ไม่ใช่การดำเนินคดีในศาลโดยตรง

การจะเลือกใช้ Affidavit หรือ Statutory Declaration ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของหน่วยงานหรือองค์กรที่ต้องการเอกสารนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเภทจำเป็นต้องทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ เช่น Notary Public เพื่อให้เอกสารมีผลสมบูรณ์

ผลทางกฎหมายของการให้การเท็จใน Affidavit (Perjury)

การให้การใน Affidavit ถือเป็นการกระทำที่จริงจังและมีผลผูกพันทางกฎหมาย การจงใจให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรแจ้ง ใน Affidavit ถือเป็น ความผิดฐานให้การเท็จ (Perjury) ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา

ผลที่ตามมาของการให้การเท็จอาจรุนแรง รวมถึง:

  • โทษทางอาญา: อาจมีโทษจำคุกและ/หรือปรับ ตามที่กฎหมายกำหนดในแต่ละประเทศ
  • ความน่าเชื่อถือลดลง: ผู้ที่เคยให้การเท็จอาจถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือในกระบวนการทางกฎหมายอื่นๆ ในอนาคต
  • Affidavit ถูกปฏิเสธ: ศาลหรือหน่วยงานที่รับ Affidavit อาจปฏิเสธไม่รับพิจารณาเอกสารนั้น ทำให้กระบวนการที่เกี่ยวข้องล่าช้าหรือล้มเหลว
  • อาจถูกฟ้องร้องทางแพ่ง: หากการให้การเท็จก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ผู้เสียหายอาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้

ดังนั้น ผู้ให้การจึงต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่งในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนลงนามใน Affidavit

ตัวอย่างโครงสร้าง Affidavit ทั่วไป (Template)

นี่คือตัวอย่างโครงสร้างพื้นฐานของ Affidavit (โปรดทราบว่านี่เป็นเพียงตัวอย่าง ไม่สามารถนำไปใช้ได้ทันที ควรปรับแก้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ):

AFFIDAVIT


STATE OF [State/Province]

COUNTY OF [County/Region]


BEFORE ME, the undersigned authority, personally appeared [ชื่อ-นามสกุลผู้ให้การ - Affiant's Full Name], known to me to be the person whose name is subscribed below, who after being duly sworn, deposes and states as follows:


1. My name is [ชื่อ-นามสกุลผู้ให้การ] and I reside at [ที่อยู่ผู้ให้การ - Affiant's Address]. I am over the age of eighteen (18) years and am competent to make this affidavit.

2. [ข้อเท็จจริงข้อที่ 1 - Statement of Fact 1].

3. [ข้อเท็จจริงข้อที่ 2 - Statement of Fact 2].

4. [ข้อเท็จจริงข้อที่ ... - Statement of Fact ...].


I declare under penalty of perjury under the laws of [State/Country] that the foregoing is true and correct.


FURTHER AFFIANT SAYETH NAUGHT.


______________________________

[ลายมือชื่อผู้ให้การ - Affiant's Signature]

[ชื่อผู้ให้การพิมพ์ - Printed Name of Affiant]


JURAT

Sworn to (or affirmed) and subscribed before me this ______ day of _______________, 20____, by [ชื่อผู้ให้การ - Name of Affiant], who is personally known to me or produced identification.


______________________________

Notary Public Signature

[ชื่อ Notary Public พิมพ์ - Printed Name of Notary Public]

My Commission Expires: [วันหมดอายุใบอนุญาต Notary]

(Seal)

ข้อควรระวัง: ตัวอย่างนี้เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐาน ภาษาและรูปแบบอาจต้องปรับเปลี่ยนไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายของประเทศหรือหน่วยงานที่ต้องการ Affidavit นั้นๆ

บทบาทสำคัญของ Notary Public ในกระบวนการทำ Affidavit

Notary Public มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ Affidavit มีผลสมบูรณ์และน่าเชื่อถือตามกฎหมาย หน้าที่หลักของ Notary Public ในกระบวนการนี้คือ:

  • ยืนยันตัวตนผู้ให้การ (Verify Identity): ตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน/พาสปอร์ต) เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่มาลงนามคือบุคคลเดียวกับที่ระบุใน Affidavit จริง ป้องกันการปลอมแปลงตัวตน
  • ให้กล่าวคำสาบาน/คำยืนยัน (Administer Oath/Affirmation): นำผู้ให้การกล่าวคำสาบานหรือคำยืนยันอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ให้การตระหนักถึงความสำคัญและผลผูกพันทางกฎหมายของคำให้การ
  • เป็นพยานในการลงนาม (Witness Signature): ยืนยันว่าผู้ให้การได้ลงลายมือชื่อในเอกสารต่อหน้าตนจริง ด้วยความสมัครใจและมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
  • ลงนามและประทับตรา (Sign and Seal): กรอกรายละเอียดในส่วน Jurat, ลงนาม, และประทับตรา Notary Public เพื่อรับรองว่ากระบวนการทั้งหมดได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
  • บันทึกข้อมูล (Record Keeping): Notary Public มักจะมีการบันทึกรายละเอียดของการรับรองไว้ในสมุดบันทึก (Notarial Journal) เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงในอนาคต

การรับรองโดย Notary Public เป็นการยืนยัน "กระบวนการ" ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่การรับรอง "ความถูกต้องของเนื้อหา" ใน Affidavit (ความรับผิดชอบในเนื้อหาเป็นของผู้ให้การเอง) แต่กระบวนการที่ถูกต้องนี้เองที่ทำให้ Affidavit มีน้ำหนักทางกฎหมายและเป็นที่ยอมรับ

NYC+ ช่วยคุณในกระบวนการทำ Affidavit ได้อย่างไร?

ทีมทนายความ Notary Public ของ NYC+ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการจัดทำและรับรอง Affidavit หลากหลายประเภท เราสามารถให้บริการคุณได้ดังนี้:

  • ให้คำปรึกษา: แนะนำเกี่ยวกับประเภทของ Affidavit ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ และข้อมูลที่จำเป็นต้องระบุ
  • ช่วยร่าง Affidavit: หากคุณไม่แน่ใจในการร่างเนื้อหา เราสามารถช่วยร่าง Affidavit ให้ถูกต้องตามหลักกฎหมายและตรงตามวัตถุประสงค์ (อาจมีค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับการร่าง)
  • ดำเนินการรับรอง Notary: ให้บริการรับรอง Affidavit อย่างถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย โดยทนายความผู้มีใบอนุญาต
  • บริการแปล Affidavit: หากคุณต้องการ Affidavit เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ เรามีบริการแปลเอกสารพร้อมรับรองคำแปลโดย Notary ในคราวเดียว
  • บริการเสริม: ดำเนินการรับรองเอกสารเพิ่มเติมที่กระทรวงการต่างประเทศ (Legalization) หรือสถานทูตต่างๆ หากจำเป็น