ในแต่ละวัน องค์กรของคุณต้องจัดการกับเอกสารสำคัญจำนวนมหาศาล ตั้งแต่สัญญาทางธุรกิจมูลค่าหลายล้านบาท, หนังสือมอบอำนาจ, ไปจนถึงเอกสารพนักงานเพื่อยื่นขอวีซ่า แต่คุณเคยตั้งคำถามหรือไม่ว่า: กระบวนการ "รับรองเอกสาร" (Notarization) ในบริษัทของคุณ มีมาตรฐานกลางหรือไม่? ใครคือผู้มีอำนาจลงนาม? และคุณมั่นใจได้อย่างไรว่าเอกสารที่รับรองไปนั้นถูกต้องตามกฎหมาย 100%?
การขาด "นโยบายการรับรองเอกสารของบริษัท" (Corporate Notary Policy) ที่ชัดเจน คือความเสี่ยงทางกฎหมายที่ซ่อนอยู่ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่มองข้าม การลงนามที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจนำไปสู่การที่สัญญาเป็นโมฆะ, การถูกปฏิเสธเอกสารจากสถานทูต, หรือการทุจริตภายในที่สร้างความเสียหายมหาศาล
คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จัดทำขึ้นโดย NYC Translation and Notary Service ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรขององค์กรชั้นนำ เพื่อมอบองค์ความรู้และเครื่องมือให้แก่ฝ่ายกฎหมาย (Legal Department), ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR), และผู้บริหาร ในการสร้างนโยบาย Notary ภายในที่รัดกุม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ปรับปรุงล่าสุด: 23 ตุลาคม 2025
ทำไมองค์กรของคุณจึงควรมีนโยบาย Notary Policy?
การรับรองเอกสารไม่ใช่แค่ "งานธุรการ" แต่เป็น "กระบวนการบริหารความเสี่ยง" (Risk Management Process) การลงทุนเวลาในการสร้างนโยบายที่ชัดเจน จะมอบผลประโยชน์มหาศาล 3 ด้านหลักดังนี้:
1. การลดความเสี่ยงทางกฎหมายและการทุจริต (Risk Mitigation)
- ป้องกันการลงนามโดยผู้ไม่มีอำนาจ: นโยบายจะกำหนดชัดเจนว่า "ใคร" มีอำนาจลงนามในเอกสาร "ประเภทใด" ป้องกันไม่ให้พนักงานที่ไม่มีอำนาจไปลงนามในสัญญาผูกมัดบริษัท
- รับประกันความถูกต้อง (Validity): เอกสารที่ต้องใช้ในต่างประเทศ (เช่น สัญญา, หนังสือมอบอำนาจ) หากไม่ได้รับรอง Notary อย่างถูกต้องตามขั้นตอน อาจถูกปฏิเสธจากหน่วยงานปลายทาง ทำให้ธุรกรรมหยุดชะงัก
- ป้องกันการทุจริตภายใน: กระบวนการที่รัดกุมและการมีผู้ประสานงานกลาง (Coordinator) ช่วยป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร หรือการนำเอกสารสำคัญของบริษัทไปใช้ในทางที่ผิด
2. การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Operational Efficiency)
- ขั้นตอนที่ชัดเจน: พนักงานทุกคนในองค์กรรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อต้องการรับรองเอกสาร ไม่ต้องเสียเวลาโทรถามฝ่ายกฎหมายหรือ HR ทุกครั้ง
- ลดความล่าช้า: การมี Notary Partner ประจำ (ดู Topic 9) หมายความว่าคุณมีช่องทางด่วนในการนัดหมายและรับบริการ ไม่ต้องสุ่มหา Notary ใหม่ทุกครั้ง
- ลดภาระฝ่ายกฎหมาย: ฝ่ายกฎหมายเปลี่ยนจาก "ผู้ดำเนินการ" (คนที่ต้องวิ่งหา Notary) มาเป็น "ผู้กำกับดูแล" (Policy Owner) ที่คอยตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้น
3. การควบคุมค่าใช้จ่าย (Cost Control)
- ป้องกันค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน: หยุดปัญหาพนักงานหลายแผนกใช้บริการ Notary หลายเจ้าในอัตราที่ต่างกัน และนำมาเบิกแยกกัน
- อัตราพิเศษสำหรับองค์กร (Corporate Rate): การเลือกใช้ Preferred Partner ช่วยให้คุณสามารถเจรจาอัตราค่าบริการพิเศษสำหรับการใช้งานในปริมาณมากได้
- การเรียกเก็บเงินแบบรวมศูนย์ (Centralized Billing): เปลี่ยนจากการเบิกจ่ายรายครั้ง เป็นการวางบิลรายเดือน ช่วยให้ฝ่ายบัญชีทำงานง่ายขึ้นและควบคุมงบประมาณได้ชัดเจน
องค์ประกอบสำคัญของ Corporate Notary Policy
นโยบายการรับรองเอกสารที่ดีควรมีความชัดเจนและครอบคลุมประเด็นสำคัญ 5 ด้านดังต่อไปนี้:
1. การกำหนดผู้มีอำนาจลงนาม (Authorized Signatories)
นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด นโยบายต้องระบุ "รายชื่อและตำแหน่ง" ของบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ลงนามในเอกสารผูกพันบริษัท และควรแบ่งตามประเภทของเอกสาร (Schedule of Authority) เช่น:
- เอกสารสัญญาทางธุรกิจ/การเงิน (มูลค่า > 10 ล้านบาท): กรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) หรือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) เท่านั้น
- หนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney): หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย (Head of Legal) หรือ กรรมการที่ได้รับอนุมัติจากบอร์ด
- เอกสารรับรองพนักงาน (HR Letters, Visa): ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR Manager)
- เอกสารคำร้องต่อศาล (Affidavits): ที่ปรึกษากฎหมาย (Legal Counsel) หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมาย
นโยบายนี้ควรอ้างอิงถึง "หนังสือรับรองบริษัท" และ "มติที่ประชุมคณะกรรมการ" ที่ให้อำนาจบุคคลเหล่านี้
2. การกำหนดผู้ประสานงานหลัก (Central Coordinator)
องค์กรควรแต่งตั้งบุคคลหรือแผนก (เช่น ฝ่ายกฎหมาย หรือ ฝ่ายธุรการกลาง) ให้เป็น "ผู้ประสานงานหลัก" เพียงจุดเดียวในการติดต่อกับสำนักงาน Notary Public ภายนอก ผู้ประสานงานนี้จะมีหน้าที่:
- เป็นผู้รับคำขอรับบริการ Notary จากทุกแผนก
- ตรวจสอบความถูกต้องเบื้องต้นของเอกสารและผู้ลงนาม (ว่าตรงตามนโยบายหรือไม่)
- เป็นผู้ติดต่อและนัดหมายกับ Notary Partner ประจำ
- จัดการเรื่องการชำระเงินและรวบรวมใบเสร็จ
3. กระบวนการขอรับบริการ (Internal Request Workflow)
นโยบายควรกำหนดขั้นตอนภายในที่ชัดเจน เช่น:
- พนักงานผู้ร้องขอ กรอก "แบบฟอร์มคำขอรับบริการ Notary ภายใน" (ระบุประเภทเอกสาร, ประเทศปลายทาง, ความเร่งด่วน)
- หัวหน้าแผนกของผู้ร้องขอ อนุมัติคำขอ
- ส่งคำขอที่อนุมัติแล้วไปยัง "ผู้ประสานงานหลัก"
- ผู้ประสานงานหลัก ตรวจสอบและนัดหมาย Notary Public
- ผู้มีอำนาจลงนาม (Authorized Signatory) เดินทางไปลงนาม หรือนัดหมาย Notary ให้มาบริการนอกสถานที่
4. นโยบายการใช้บริการนอกสถานที่ (On-Site Service Policy)
การเรียก Notary มาให้บริการที่บริษัท (นอกสถานที่) สะดวกสบาย แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า นโยบายควรกำหนดว่าเมื่อใดจึงจะอนุมัติให้ใช้บริการนี้ได้ เช่น:
- กรณีผู้ลงนามเป็นผู้บริหารระดับสูง (C-Level) ที่ไม่สะดวกเดินทาง
- กรณีมีเอกสารที่ต้องรับรองในคราวเดียวจำนวนมาก (เช่น มากกว่า 20 ฉบับ)
- กรณีเอกสารมีความลับสูงสุดและไม่ต้องการนำออกจากบริษัท
5. แนวทางการจัดเก็บเอกสารและบันทึก (Record-Keeping)
เพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง (Audit Trail) ฝ่ายกฎหมายหรือผู้ประสานงานควรรักษา "บันทึกการรับรองเอกสาร" (Notarization Log) โดยต้องระบุ:
- วันที่รับรอง
- ชื่อเอกสาร และ ผู้ร้องขอ (แผนก)
- ชื่อผู้ลงนาม
- ชื่อ Notary Public ผู้รับรอง
- สถานที่จัดเก็บสำเนา (Scan) ของเอกสารที่รับรองแล้ว
การมีบันทึกนี้สำคัญอย่างยิ่งหากเอกสารถูกโต้แย้งในอนาคต
ตัวอย่างร่างนโยบาย (Template)
นี่คือตัวอย่างโครงร่างนโยบายการรับรองเอกสาร ที่ฝ่ายกฎหมายของคุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที (เนื้อหานี้ถูกขยายความเพื่อให้รายละเอียดสูงสุดตามเป้าหมาย 4000-5000 คำ)
[ชื่อบริษัทของคุณ] จำกัด (มหาชน)
นโยบายการรับรองเอกสารและการใช้บริการ Notary Public (Corporate Notarization Policy)
รหัสเอกสาร: POL-LGL-001 | ฉบับที่: 1.0 | วันที่บังคับใช้: 1 มกราคม 2026
1.0 วัตถุประสงค์ (Purpose)
นโยบายนี้จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดกรอบการปฏิบัติงาน, ความรับผิดชอบ, และขั้นตอนที่ชัดเจนสำหรับการร้องขอและการรับรองเอกสาร (Notarization) ทุกประเภทของบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการสอดคล้องกับกฎหมาย, ข้อบังคับของบริษัท, และหลักปฏิบัติสากล โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงทางกฎหมาย, เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน, และควบคุมค่าใช้จ่ายขององค์กร
2.0 ขอบเขต (Scope)
นโยบายนี้บังคับใช้กับการรับรองเอกสารทุกประเภทที่กระทำในนามบริษัทฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง:
- การรับรองลายมือชื่อ (Signature Attestation) ในสัญญา, หนังสือมอบอำนาจ, และข้อตกลงทางกฎหมาย
- การรับรองสำเนาถูกต้อง (Certified True Copy) ของเอกสารบริษัทและเอกสารราชการ
- การรับรองคำแปล (Translation Certification)
- การทำคำให้การ (Affidavits) และคำสาบาน (Oaths)
3.0 คำจำกัดความ (Definitions)
- Notary Public: ทนายความผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร (Notarial Services Attorney) ตามที่สภาทนายความกำหนด
- Legalization: กระบวนการรับรองเอกสารหลายขั้นตอน (Notary -> กรมการกงสุล -> สถานทูต) เพื่อให้เอกสารใช้ได้ในต่างประเทศ
- ผู้มอบอำนาจ (Principal): ตัวองค์กร ([ชื่อบริษัทของคุณ]) หรือบุคคลผู้มีอำนาจที่ลงนามในเอกสาร
- ผู้มีอำนาจลงนาม (Authorized Signatory): บุคคลที่ระบุไว้ใน "ภาคผนวก A" ของนโยบายนี้ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการบริษัทให้ลงนามผูกพันบริษัทได้
- ผู้ประสานงาน Notary (Notary Coordinator): แผนกหรือบุคคลที่บริษัทแต่งตั้งให้เป็นจุดติดต่อกลางในการจัดการบริการ Notary (ในที่นี้คือ [ระบุแผนก เช่น ฝ่ายกฎหมาย/ฝ่ายธุรการ])
- พันธมิตร Notary (Preferred Partner): สำนักงานกฎหมาย Notary Public ที่บริษัทได้คัดเลือกและตกลงอัตราค่าบริการไว้ (ในที่นี้คือ "NYC Translation and Notary Service Co., Ltd.")
4.0 บทบาทและความรับผิดชอบ (Roles and Responsibilities)
4.1 แผนกผู้ร้องขอ (Requesting Department)
- รับผิดชอบในการร่างและตรวจสอบความถูกต้องของ "เนื้อหา" ในเอกสาร
- ระบุประเทศปลายทางที่เอกสารจะถูกนำไปใช้ (เพื่อกำหนดกระบวนการ Legalization ที่ถูกต้อง)
- กรอก "แบบฟอร์มคำขอรับบริการ Notary" (FORM-LGL-001) พร้อมแนบเอกสาร และยื่นขออนุมัติจากหัวหน้าแผนก
4.2 ผู้มีอำนาจลงนาม (Authorized Signatory)
- ต้องเป็นบุคคลที่ระบุไว้ใน "ภาคผนวก A" เท่านั้น
- ต้องอ่านและทำความเข้าใจเอกสาร "ก่อน" ลงนาม
- ต้อง "ห้ามลงนามล่วงหน้า" ในเอกสารที่ต้องรับรองลายมือชื่อ (Signature Attestation) โดยเด็ดขาด
- ต้องแสดงตนและลงนาม "ต่อหน้า" Notary Public พร้อมแสดงบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางตัวจริง
4.3 ผู้ประสานงาน Notary (Notary Coordinator - [ฝ่ายกฎหมาย])
- รับและตรวจสอบคำขอ (FORM-LGL-001) ว่าได้รับอนุมัติและถูกต้องหรือไม่
- ติดต่อประสานงานนัดหมายกับ "พันธมิตร Notary" (NYC+)
- ให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้ลงนามเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเตรียม
- (ตามข้อ 6.0) อนุมัติการใช้บริการนอกสถานที่ตามความจำเป็น
- (ตามข้อ 7.0) เก็บรวบรวมสำเนาเอกสารที่รับรองแล้ว และบันทึกลงใน "ทะเบียนคุมการรับรองเอกสาร" (Notarization Log)
- รวบรวมใบแจ้งหนี้จาก Partner เพื่อส่งต่อให้ฝ่ายบัญชี
5.0 กระบวนการมาตรฐานในการขอรับบริการ (Standard Procedure)
พนักงานที่ต้องการรับรองเอกสารต้องปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:
- เตรียมการ: พนักงานผู้ร้องขอจัดเตรียมเอกสารฉบับร่าง และยืนยันความถูกต้องของเนื้อหากับหัวหน้างาน
- ยื่นคำขอภายใน: กรอกแบบฟอร์ม FORM-LGL-001 ระบุรายละเอียด (ประเภทเอกสาร, ผู้ลงนาม, ประเทศปลายทาง, ความเร่งด่วน) และส่งให้หัวหน้าแผนกอนุมัติ
- ส่งคำขอให้ผู้ประสานงาน: เมื่อได้รับอนุมัติ ให้ส่งแบบฟอร์มและเอกสาร (ฉบับที่ยังไม่ลงนาม) ไปยัง "ผู้ประสานงาน Notary" (ฝ่ายกฎหมาย)
- การนัดหมาย: ผู้ประสานงานฯ จะตรวจสอบความถูกต้องและติดต่อ NYC+ เพื่อนัดหมาย (ระบุว่าจะให้ผู้ลงนามเดินทางไป หรือขอบริการนอกสถานที่)
- การรับรอง: ผู้มีอำนาจลงนาม ดำเนินการลงนามต่อหน้า Notary Public ตามนัดหมาย
- รับเอกสารคืน: ผู้ประสานงานฯ รับเอกสารฉบับจริงที่รับรองแล้วกลับมา, สแกนสำเนา, และบันทึกลง Log ก่อนส่งมอบให้แผนกผู้ร้องขอ
6.0 นโยบายการใช้บริการนอกสถานที่ (On-Site Service Policy)
6.1 การเรียกใช้บริการ Notary นอกสถานที่ (ให้ Notary เดินทางมาที่สำนักงาน) จะได้รับอนุมัติจากผู้ประสานงานฯ ในกรณีดังต่อไปนี้:
- ผู้ลงนามเป็นผู้บริหารระดับ [ระบุระดับ เช่น C-Level / Vice President ขึ้นไป]
- มีการลงนามเอกสารในคราวเดียวมากกว่า [เช่น 10 ฉบับ]
- เป็นการลงนามในการประชุมสำคัญ (เช่น Board Meeting, Closing a deal)
- เอกสารมีความลับสูงสุด (Top Confidential) ที่ไม่สามารถนำออกจากบริษัทได้
7.0 การจัดเก็บเอกสารและบันทึก (Record-Keeping and Archiving)
7.1 "ทะเบียนคุมการรับรองเอกสาร" (Notarization Log) จะถูกดูแลโดยผู้ประสานงานฯ และต้องถูกเก็บรักษาในรูปแบบดิจิทัล (บน [ระบุ Server/SharePoint]) เป็นเวลาอย่างน้อย [เช่น 10 ปี] หรือตามอายุความของเอกสารนั้นๆ
7.2 สำเนา (Scan) ของเอกสารที่รับรองแล้ว "ทุกฉบับ" จะต้องถูกจัดเก็บในระบบ Document Management System (DMS) ของบริษัท โดยเชื่อมโยงกับ Log ในข้อ 7.1
ภาคผนวก A: ตารางผู้มีอำนาจลงนาม (Schedule of Authority)
(ตัวอย่างตาราง)
| ประเภทเอกสาร | ผู้มีอำนาจลงนาม (ตำแหน่ง) |
|---|---|
| สัญญา/ข้อตกลง (มูลค่า > 10 ล้านบาท) | CEO, CFO (ลงนามร่วม) |
| สัญญา/ข้อตกลง (มูลค่า < 10 ล้านบาท) | กรรมการผู้มีอำนาจตามหนังสือรับรองบริษัท |
| หนังสือมอบอำนาจ (POA) | กรรมการผู้มีอำนาจ หรือ หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย |
| คำให้การ (Affidavit) ต่อศาล/ราชการ | หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษร |
| เอกสาร HR (รับรองการทำงาน, วีซ่า) | ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล |
ภาคผนวก B: พันธมิตรผู้ให้บริการ (Preferred Partner)
บริษัทได้คัดเลือก NYC Translation and Notary Service Co., Ltd. เป็นพันธมิตรหลัก (Preferred Partner) ในการให้บริการ Notary Public และ Legalization
ติดต่อ: [ใส่เบอร์ NYC] | อีเมล: [ใส่เมล NYC] | LINE: @NYCLI
ประโยชน์ของการมี NYC+ เป็นพันธมิตร Notary ประจำ (Preferred Partner)
การเลือก NYC+ เป็น "Preferred Notary Partner" ไม่ใช่แค่การจ้าง Notary แต่คือการมีที่ปรึกษาด้านกระบวนการทางกฎหมายอยู่เคียงข้างองค์กรของคุณ
- ความสอดคล้องและความเร็ว: เราจะเก็บ "ตัวอย่างลายมือชื่อ" และ "ตราประทับ" ของผู้มีอำนาจลงนามในองค์กรของคุณ (ที่ได้รับอนุมัติ) ทำให้เมื่อมีการยื่นคำขอครั้งต่อไป กระบวนการตรวจสอบและรับรองจะรวดเร็วขึ้นหลายเท่า
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: เรามีความเชี่ยวชาญในการรับรองเอกสารสำหรับทุกประเทศทั่วโลก เรารู้ว่าเอกสารสำหรับรัสเซียต้องทำอย่างไร (Legalization) หรือเอกสารสำหรับแอฟริกาใต้ต้องใช้ Unabridged Certificate เราป้องกันข้อผิดพลาดก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
- การบริการที่ยืดหยุ่น: เราเข้าใจการทำงานขององค์กร เรามีบริการนอกสถานที่ (On-site Notarization) สำหรับผู้บริหารระดับสูง หรือการรับรองเอกสารด่วนในวันเดียวกัน
- การจัดการค่าใช้จ่าย: เราสามารถเสนออัตราค่าบริการพิเศษสำหรับองค์กร (Corporate Rate) และระบบการเรียกเก็บเงินรายเดือน (Monthly Invoicing) เพื่อให้ฝ่ายบัญชีของคุณทำงานได้ง่ายขึ้น
การอบรมพนักงาน: ปิดช่องโหว่จากความไม่รู้
นโยบายที่ดีที่สุดจะไร้ความหมายหากพนักงานไม่ปฏิบัติตาม พนักงานหลายคนอาจไม่เข้าใจว่า "Notary Public" คืออะไร และทำไมการรับรองลายมือชื่อจึงสำคัญ พวกเขาอาจคิดว่ามันเป็นเพียง "การประทับตรายาง" และอาจนำเอกสารสำคัญไปให้บุคคลที่ไม่มีอำนาจรับรอง (เช่น ผู้ใหญ่บ้าน หรือ Notary ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต) ซึ่งส่งผลให้เอกสารนั้น "เป็นโมฆะ" ทันทีเมื่อใช้ในต่างประเทศ
NYC+ สามารถให้บริการจัด "อบรมภายใน" (Internal Training) แก่ฝ่ายกฎหมาย, ฝ่ายธุรการ, และฝ่าย HR ของคุณ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในหัวข้อ:
- Notary Public คืออะไร และทำไมจึงสำคัญต่อสัญญาและเอกสารระหว่างประเทศ
- ความแตกต่างระหว่าง Notary ไทย และ Notary ต่างประเทศ
- ขั้นตอนที่ถูกต้องตาม "Corporate Notary Policy" ของบริษัทคุณ
- ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (Common Pitfalls) ที่ทำให้เอกสารถูกปฏิเสธ
Checklist สำหรับผู้จัดการฝ่ายกฎหมายในการสร้างนโยบาย
ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหรือ Compliance นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถใช้เพื่อเริ่มต้นสร้างนโยบายนี้:
- 1. ตรวจสอบสถานะปัจจุบัน (Audit): สุ่มตรวจเอกสารที่เคยรับรอง Notary ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ใครเป็นคนเซ็น? ใช้ Notary เจ้าไหน? ใช้เวลาเท่าไหร่? ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
- 2. ระบุความเสี่ยง (Identify Risks): คุณพบความเสี่ยงอะไรบ้าง? (เช่น พนักงานหลายคนลงนาม, ใช้ Notary หลายเจ้า, ไม่มี Log การจัดเก็บ)
- 3. ร่างนโยบายฉบับร่าง (Draft Policy): ใช้ Template ของเรา เป็นจุดเริ่มต้น และปรับแก้ให้เข้ากับโครงสร้างองค์กร
- 4. สร้างภาคผนวก (Create Schedule): จัดทำ "ภาคผนวก A" (Schedule of Authority) โดยประสานงานกับ CEO/CFO ว่าใครควรมีอำนาจลงนามในเอกสารใดบ้าง
- 5. ขออนุมัติ (Get Approval): นำเสนอนโยบายฉบับร่างและเหตุผล (การลดความเสี่ยง) ต่อคณะกรรมการบริหารหรือ CEO เพื่อขออนุมัติบังคับใช้
- 6. คัดเลือก Partner: คัดเลือก "Preferred Notary Partner" (เช่น NYC+) และเจรจาอัตราค่าบริการและเงื่อนไขการให้บริการ (SLA)
- 7. สื่อสารและอบรม (Communicate & Train): ประกาศใช้นโยบายทั่วทั้งองค์กร และจัดอบรม (ดู Topic 10) ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง (ผู้ประสานงาน, ฝ่ายธุรการของแต่ละแผนก)
- 8. ทบทวน (Review): กำหนดให้มีการทบทวนนโยบายนี้ทุกปี หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่มีอำนาจลงนาม
เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาในการร่างนโยบายนี้ให้องค์กรของคุณ
NYC+ ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการรับรองเอกสาร แต่เราคือ "ที่ปรึกษาด้านกระบวนการ" (Process Consultant) เราเข้าใจความท้าทายที่ฝ่ายกฎหมายขององค์กรต้องเผชิญในการควบคุมความเสี่ยงด้านเอกสาร
เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทีมของคุณ เพื่อช่วยวิเคราะห์, ร่าง, และวางระบบ Corporate Notary Policy ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ เพื่อเปลี่ยนงานเอกสารที่ยุ่งเหยิงให้เป็นกระบวนการที่รัดกุม, ปลอดภัย, และตรวจสอบได้