1. ตราประทับบริษัท: คู่มือการใช้งานที่ถูกต้องสำหรับเอกสารระหว่างประเทศ

ตราประทับบริษัท (Corporate Seal หรือ Company Seal) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้แสดงเจตนาและยืนยันการกระทำในนามของนิติบุคคล แม้ในปัจจุบัน บทบาทและความจำเป็นทางกฎหมายของตราประทับอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ หรือเมื่อต้องนำเอกสารบริษัทมารับรองโดย Notary Public เพื่อนำไปใช้ในต่างประเทศ การใช้ตราประทับอย่างถูกต้องยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

เอกสารที่ไม่ประทับตรา หรือประทับตราผิดวิธี ผิดตำแหน่ง หรือโดยบุคคลที่ไม่มีอำนาจ อาจถูกปฏิเสธโดยหน่วยงานปลายทาง สร้างความล่าช้าและความเสียหายให้กับธุรกิจของคุณได้ คู่มือฉบับนี้จัดทำโดย NYC Translation and Notary Service (NYC+) เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจของเราเข้าใจถึงความสำคัญและวิธีการใช้ตราประทับบริษัทอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล

ปรับปรุงล่าสุด: 23 ตุลาคม 2025

2. ตราประทับบริษัทมีความสำคัญทางกฎหมายอย่างไรในประเทศไทยและต่างประเทศ?

ในประเทศไทย:

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) ของไทย การแสดงเจตนาของบริษัทจะสมบูรณ์ได้ต้องกระทำผ่าน "ผู้แทนของนิติบุคคล" (ซึ่งก็คือ กรรมการผู้มีอำนาจ) และต้องเป็นไปตาม "ขอบอำนาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์" ที่ระบุไว้ในข้อบังคับหรือหนังสือบริคณห์สนธิ

สำหรับ "ตราประทับ" กฎหมายไทยไม่ได้บังคับว่าทุกบริษัทต้องมีตราประทับ แต่หากบริษัทได้จดทะเบียน "ตราประทับสำคัญ" ไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และในหนังสือรับรองบริษัทระบุเงื่อนไขว่า "กรรมการ [ชื่อ...] ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท" การประทับตรานั้นก็จะกลายเป็นเงื่อนไขที่ "จำเป็น" ตามกฎหมายเพื่อให้การลงนามนั้นผูกพันบริษัทได้อย่างสมบูรณ์ หากกรรมการลงนามอย่างเดียวโดยไม่ประทับตรา (ทั้งที่เงื่อนไขกำหนดให้ประทับ) การกระทำนั้นอาจไม่ผูกพันบริษัท

ในต่างประเทศ:

ความสำคัญของตราประทับแตกต่างกันไปอย่างมาก:

  • กลุ่มประเทศ Civil Law (เช่น เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น): ตราประทับมักมีความสำคัญทางกฎหมายสูง และถูกใช้เป็นเครื่องยืนยันการกระทำของบริษัทอย่างเป็นทางการ
  • กลุ่มประเทศ Common Law (เช่น สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, แคนาดา): ในปัจจุบัน ความสำคัญทางกฎหมายของตราประทับลดน้อยลงมาก การลงนามโดยกรรมการผู้มีอำนาจถือว่าเพียงพอในกรณีส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตราประทับยังคงนิยมใช้ในเอกสารสำคัญบางประเภท (เช่น เอกสารเกี่ยวกับหุ้น, เอกสารที่ต้องรับรอง Notary) เพื่อเพิ่มความเป็นทางการและความน่าเชื่อถือ
  • ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย: หลายประเทศยังคงให้ความสำคัญกับตราประทับ (เช่น จีน, เกาหลีใต้)

ข้อสรุปสำคัญ: เนื่องจากเอกสารที่รับรองโดย Notary Public ในไทยมักจะถูกนำไปใช้ใน "ต่างประเทศ" ซึ่งเราไม่อาจทราบได้ว่าหน่วยงานปลายทางยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติหรือกฎหมายเกี่ยวกับตราประทับอย่างไร ดังนั้น แนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุดคือ หากบริษัทของคุณมีตราประทับที่จดทะเบียนไว้ และหนังสือรับรองระบุให้ใช้ตราประทับ คุณควรประทับตรานั้นอย่างถูกต้องเสมอเมื่อทำเอกสารเพื่อใช้ในต่างประเทศ

3. วิธีการประทับตราที่ถูกต้อง: รายละเอียดที่ไม่ควรมองข้าม

การประทับตราไม่ใช่แค่การปั๊มลงไปบนกระดาษ แต่มีหลักปฏิบัติเพื่อให้เอกสารมีความสมบูรณ์และเป็นที่ยอมรับ:

3.1 ตำแหน่งที่ควรประทับ (Placement)

ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ "ใกล้กับลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม" โดยทั่วไปนิยมประทับไว้ทางด้านขวา หรือด้านล่างของลายมือชื่อ

  • ห้ามประทับทับลายมือชื่อ: การประทับตราทับลายมือชื่ออาจทำให้อ่านลายมือชื่อหรือรายละเอียดบนตราประทับได้ยาก และอาจถูกมองว่าเป็นการพยายามปกปิดหรือแก้ไข ซึ่งอาจทำให้เอกสารถูกปฏิเสธได้
  • เว้นที่ว่างให้เพียงพอ: ก่อนลงนาม ควรแน่ใจว่ามีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับประทับตราโดยไม่ทับซ้อนกับข้อความหรือลายมือชื่ออื่น
  • ความสม่ำเสมอ: หากเอกสารมีหลายจุดที่ต้องลงนามและประทับตรา ควรพยายามประทับในตำแหน่งที่สอดคล้องกัน (เช่น ประทับทางขวาของลายเซ็นทุกจุด)

3.2 ความคมชัดของตราประทับ (Clarity)

ตราประทับต้องมีความ "คมชัด อ่านออกได้ง่าย" ทุกตัวอักษรและสัญลักษณ์

  • ตรวจสอบหมึก: ใช้หมึกที่มีคุณภาพและเติมหมึกให้เพียงพอ ตราประทับที่ซีดจางอาจถูกปฏิเสธ
  • แรงกดที่สม่ำเสมอ: กดตราประทับด้วยแรงที่พอเหมาะและสม่ำเสมอทั่วทั้งหน้าตรา เพื่อให้หมึกติดครบถ้วน
  • พื้นผิวรองรับ: ประทับบนพื้นผิวที่เรียบและแข็งแรง หลีกเลี่ยงการประทับบนพื้นที่นูนหรือมีรอยพับ
  • ทดลองประทับ: หากไม่แน่ใจ ควรทดลองประทับบนกระดาษเปล่าก่อนประทับบนเอกสารจริง

หากประทับพลาด ไม่ชัดเจน หรือเลอะเทอะ ไม่ควร พยายามประทับซ้ำทับรอยเดิม ควรพิจารณาทำเอกสารฉบับใหม่ หรือหากแก้ไขไม่ได้จริงๆ อาจต้องทำบันทึกแนบท้าย (Addendum) ชี้แจงและให้กรรมการลงนามรับรองใหม่ (ควรปรึกษา Notary Public)

3.3 ควรประทับตราก่อนหรือหลังการลงนาม? (Timing)

ลำดับที่ถูกต้องคือ "กรรมการลงลายมือชื่อก่อน แล้วจึงประทับตรา"

เหตุผลคือ ตราประทับเป็นการ "ยืนยัน" หรือ "รับรอง" การลงนามของกรรมการที่กระทำในนามบริษัท ดังนั้น การลงนามจึงต้องเกิดขึ้นก่อน แล้วตามด้วยการประทับตราเพื่อแสดงว่าการลงนามนั้นเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของบริษัทและผูกพันบริษัทตามเงื่อนไขที่จดทะเบียนไว้

เคล็ดลับจาก NYC+: เตรียมเอกสารให้พร้อม ตรวจสอบเงื่อนไขการลงนามและประทับตราในหนังสือรับรองบริษัทฉบับล่าสุด และนำตราประทับตัวจริงมาด้วยทุกครั้งเมื่อมารับรองเอกสารกับ Notary Public

4. ใครคือผู้มีอำนาจใช้ตราประทับของบริษัท?

ผู้มีอำนาจในการ "ใช้" และ "ประทับ" ตราสำคัญของบริษัท ไม่ใช่พนักงานคนใดก็ได้ แต่ต้องเป็น "กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท" ตามที่ระบุไว้ใน "หนังสือรับรองบริษัท" (Company Affidavit/Certificate of Incorporation) ฉบับล่าสุด (ที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่เกิน 3-6 เดือน)

ในหนังสือรับรอง หน้าที่ 2 หรือ 3 จะระบุ "ข้อจำกัดอำนาจกรรมการ" และ "รายชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้" ซึ่งต้องอ่านอย่างละเอียด ตัวอย่างเงื่อนไขที่พบบ่อย:

  • "นาย ก. ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท" => นาย ก. คนเดียวลงนามและประทับตราได้
  • "นาย ก. หรือ นาย ข. ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท" => นาย ก. หรือ นาย ข. คนใดคนหนึ่งลงนามและประทับตราได้
  • "นาย ก. และ นาย ข. ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท" => นาย ก. และ นาย ข. ต้องลงนามทั้งคู่ แล้วจึงประทับตรา (ตราเดียว)
  • "กรรมการสองในสามคนนี้ [นาย ก., นาย ข., นาย ค.] ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท" => กรรมการ 2 คน จาก 3 คนที่ระบุชื่อ ต้องลงนามร่วมกัน แล้วจึงประทับตรา

สำคัญมาก: การลงนามและประทับตราต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ "ทุกประการ" หากเงื่อนไขระบุให้กรรมการ 2 คนลงนามร่วมกัน แต่มีเพียงคนเดียวลงนามและประทับตรา เอกสารนั้นก็อาจไม่ผูกพันบริษัท และ Notary Public จะไม่สามารถรับรองเอกสารนั้นได้

5. จะทำอย่างไรหากข้อบังคับของบริษัทระบุว่า "ไม่ต้องมีตราประทับ"?

ในปัจจุบัน มีบริษัทจำนวนมากที่จดทะเบียนโดย "ไม่ใช้ตราประทับ" ซึ่งเป็นสิ่งที่กฎหมายไทยอนุญาต หากในหนังสือรับรองบริษัทระบุเงื่อนไขอำนาจกรรมการในลักษณะนี้:

  • "นาย ก. ลงลายมือชื่อผูกพันบริษัท" (ไม่มีการกล่าวถึงตราประทับ)
  • "นาย ก. และ นาย ข. ลงลายมือชื่อร่วมกันผูกพันบริษัท" (ไม่มีการกล่าวถึงตราประทับ)
  • หรือระบุชัดเจนว่า "ตราประทับ ไม่ใช้" หรือ "ไม่มีตราประทับ"

ในกรณีเหล่านี้ บริษัท ไม่จำเป็นต้องประทับตรา ในเอกสาร การลงลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจตามเงื่อนไขก็ถือว่าเพียงพอและผูกพันบริษัทได้ตามกฎหมาย

เมื่อนำเอกสารมารับรอง Notary Public:

  • กรรมการผู้มีอำนาจเพียงลงลายมือชื่อในเอกสารต่อหน้า Notary Public
  • ต้องนำหนังสือรับรองบริษัทฉบับล่าสุด มาแสดงต่อ Notary Public เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าบริษัทจดทะเบียนโดยไม่ใช้ตราประทับจริงๆ Notary Public จะบันทึกข้อเท็จจริงนี้ไว้ในการรับรอง

6. บทบาทของ Notary Public ในการตรวจสอบความถูกต้องของตราประทับ

เมื่อกรรมการบริษัทนำเอกสารมาลงนามและประทับตราต่อหน้า Notary Public เพื่อรับรองลายมือชื่อ Notary Public มีหน้าที่ต้องตรวจสอบความถูกต้องของการใช้ตราประทับ ดังนี้:

  1. ตรวจสอบหนังสือรับรองบริษัทฉบับล่าสุด: Notary จะขอดูหนังสือรับรองบริษัท (ต้องเป็นฉบับล่าสุด อายุไม่เกิน 3-6 เดือน) เพื่อตรวจสอบ
    • ชื่อบริษัทที่ถูกต้อง
    • รายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
    • เงื่อนไขการลงนามและประทับตรา (เช่น กรรมการกี่คนลงนาม? ต้องประทับตราหรือไม่?)
    • รูปภาพตราประทับที่จดทะเบียนไว้ (ถ้ามี)
  2. เปรียบเทียบตราประทับ: Notary จะเปรียบเทียบ "ตราประทับจริง" ที่นำมา กับ "รูปภาพตราประทับ" ในหนังสือรับรอง ว่าตรงกันหรือไม่ ทั้งรูปทรง, ข้อความ, และสัญลักษณ์ต่างๆ หากไม่ตรงกัน Notary จะไม่สามารถรับรองได้
  3. ตรวจสอบการลงนามและประทับตรา: Notary จะดูแลให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามและประทับตราต่อหน้าตนเอง และต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในหนังสือรับรองทุกประการ
  4. ตรวจสอบความคมชัด: Notary จะตรวจสอบว่าตราประทับบนเอกสารมีความคมชัด อ่านออกได้

การตรวจสอบอย่างละเอียดนี้ เป็นไปเพื่อปกป้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารที่ผ่านการรับรองโดย Notary Public นั้นมีความสมบูรณ์ ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ตัวอย่างเอกสารที่รับรองโดย Notary Public พร้อมตราประทับ
Notary Public จะตรวจสอบความถูกต้องของการลงนามและประทับตราเทียบกับหนังสือรับรองบริษัท

7. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ตราประทับ (FAQ)

คำถาม: ตราประทับบริษัท จำเป็นต้องมีภาษาอังกฤษหรือไม่?

คำตอบ: ตามกฎหมายไทย ไม่บังคับว่าตราประทับต้องมีภาษาอังกฤษ แต่ 'แนะนำอย่างยิ่ง' หากเอกสารนั้นจะนำไปใช้ในต่างประเทศ การมีชื่อบริษัทภาษาอังกฤษในตราประทับช่วยให้หน่วยงานต่างประเทศเข้าใจและตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสที่เอกสารจะถูกปฏิเสธ

คำถาม: ถ้าข้อบังคับบริษัทระบุว่า 'ไม่ต้องมีตราประทับ' ต้องทำอย่างไรเมื่อรับรอง Notary?

คำตอบ: หากหนังสือรับรองบริษัทระบุชัดเจนว่า 'ตราประทับ ไม่ใช้' หรือ 'ไม่มีตราประทับ' บริษัทก็ไม่จำเป็นต้องประทับตราในเอกสาร กรรมการผู้มีอำนาจสามารถลงลายมือชื่อได้เลย อย่างไรก็ตาม เมื่อนำเอกสารไปรับรอง Notary Public ควรนำหนังสือรับรองบริษัทฉบับล่าสุด (ไม่เกิน 3-6 เดือน) ไปแสดงต่อ Notary เพื่อยืนยันเงื่อนไขนี้ด้วย

คำถาม: ควรประทับตราทับลายเซ็น หรือข้างๆ ลายเซ็น?

คำตอบ: วิธีที่ถูกต้องและเป็นมาตรฐานสากลคือ ประทับตรา 'ใกล้' ลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจ ไม่ควรประทับทับลายมือชื่อ เพราะอาจทำให้อ่านลายมือชื่อหรือรายละเอียดบนตราประทับไม่ชัดเจน ควรเว้นที่ว่างข้างๆ หรือใต้ลายมือชื่อให้เพียงพอสำหรับการประทับตรา

คำถาม: ใครเป็นผู้มีอำนาจประทับตราบริษัท?

คำตอบ: ผู้มีอำนาจใช้และประทับตราบริษัทคือ 'กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท' ตามที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองบริษัทฉบับล่าสุด ต้องตรวจสอบเงื่อนไขให้ชัดเจน เช่น 'นาย ก ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท' หรือ 'นาย ก และ นาย ข ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท' การประทับตราโดยบุคคลอื่นที่ไม่ได้รับมอบอำนาจอาจทำให้เอกสารไม่สมบูรณ์

คำถาม: ถ้าทำตราประทับหาย หรือต้องการเปลี่ยนตราประทับ ต้องทำอย่างไร?

คำตอบ: หากตราประทับหาย ต้องแจ้งความและดำเนินการขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงตราประทับกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หากต้องการเปลี่ยนรูปแบบตราประทับ ก็ต้องไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ไม่สามารถทำตราใหม่มาใช้เองโดยไม่แจ้งจดทะเบียนได้ เพราะจะไม่ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ และ Notary Public จะไม่สามารถรับรองเอกสารที่ใช้ตราประทับใหม่นั้นได้

8. ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยง (Common Mistakes to Avoid)

เพื่อให้เอกสารบริษัทของคุณผ่านการรับรอง Notary อย่างราบรื่นและเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ โปรดหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้:

  • ใช้ตราประทับที่ไม่ตรงกับที่จดทะเบียน: ใช้ตราเก่าหลังจดทะเบียนเปลี่ยนตราใหม่ หรือใช้ตราที่ไม่เคยจดทะเบียน
  • ประทับตราไม่ชัดเจน: หมึกจาง, หมึกเลอะ, หรือประทับบนพื้นผิวไม่เรียบ ทำให้อ่านรายละเอียดไม่ได้
  • ประทับตราทับลายมือชื่อหรือข้อความสำคัญ: ทำให้เอกสารดูไม่เรียบร้อยและอาจถูกปฏิเสธ
  • ประทับตราผิดตำแหน่ง: ประทับห่างจากลายมือชื่อมากเกินไป หรือประทับในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม
  • ลงนามและประทับตราไม่ตรงตามเงื่อนไขในหนังสือรับรอง: เช่น ต้องลงนาม 2 คน แต่ลงคนเดียว, หรือต้องประทับตราแต่ไม่ได้ประทับ
  • ลืมนำหนังสือรับรองบริษัทฉบับล่าสุดมาแสดงต่อ Notary: ทำให้ Notary ไม่สามารถตรวจสอบอำนาจและตราประทับได้
  • ใช้ตราประทับสำหรับบริษัทที่ไม่ต้องใช้ตราประทับ: หากจดทะเบียนว่าไม่ใช้ตรา ก็ไม่ควรนำตราใดๆ มาประทับ เพราะจะสร้างความสับสน

ข้อควรระวังพิเศษ: ตรานูน (Embossing Seal)

ในบางประเทศ (โดยเฉพาะกลุ่ม Common Law) อาจมีการใช้ "ตรานูน" (Embossing Seal) ควบคู่ไปกับตราหมึก (Ink Seal) หรือใช้แทน อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย การจดทะเบียนตราประทับกับ DBD มักจะเป็นตราหมึกเท่านั้น หากเอกสารของคุณต้องใช้ตรานูนตามข้อกำหนดของต่างประเทศ ควรปรึกษา Notary Public ล่วงหน้า เนื่องจาก Notary ไทยอาจไม่สามารถรับรองความถูกต้องของ "ตรานูน" ที่ไม่ได้จดทะเบียนได้โดยตรง อาจต้องใช้วิธีรับรองในรูปแบบอื่นแทน

9. การออกแบบตราประทับที่ดีสำหรับเอกสารระหว่างประเทศ

แม้กฎหมายไทยไม่ได้บังคับ แต่หากบริษัทของคุณทำธุรกรรมกับต่างประเทศบ่อยครั้ง การออกแบบตราประทับให้รองรับการใช้งานระหว่างประเทศตั้งแต่ต้นจะช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก:

  • ใส่ชื่อบริษัทภาษาอังกฤษ: ควรมีชื่อบริษัทภาษาอังกฤษที่จดทะเบียนไว้ในตราประทับด้วย เพื่อให้ชาวต่างชาติอ่านและเข้าใจได้ง่าย
  • ความเรียบง่ายและชัดเจน: หลีกเลี่ยงลวดลายที่ซับซ้อนเกินไป เน้นตัวอักษรที่อ่านง่ายและชัดเจน
  • ขนาดที่เหมาะสม: ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป สามารถประทับในพื้นที่จำกัดบนเอกสารได้
  • คุณภาพของตัวตรา: เลือกใช้วัสดุที่ดีเพื่อให้ประทับได้คมชัดและทนทาน

การมีชื่อภาษาอังกฤษในตราประทับจะช่วยลดปัญหาและความล่าช้าเมื่อต้องนำเอกสารไปใช้ในต่างประเทศ หรือเมื่อต้องรับรองเอกสารกับ Notary Public ได้อย่างมาก

10. ลิงก์ไปยังหน้า "บริการสำหรับธุรกิจ"

NYC+ มีบริการ Notary Public ที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ ตั้งแต่การรับรองเอกสารสัญญา, หนังสือมอบอำนาจ, เอกสารจัดตั้งบริษัท, ไปจนถึงการรับรองงบการเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย

ดูบริการ Notary Public สำหรับธุรกิจ

11. เราช่วยให้เอกสารบริษัทของคุณสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด

การใช้ตราประทับบริษัทอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมบูรณ์และความน่าเชื่อถือของเอกสาร โดยเฉพาะในเวทีสากล ที่ NYC+ เราไม่ได้เพียงแค่รับรองลายมือชื่อ แต่เราใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้เอกสารของคุณถูกต้องตามหลักกฎหมายและมาตรฐานสากล

ทีม Notary Public ของเราพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ตราประทับที่ถูกต้อง และตรวจสอบเอกสารของคุณอย่างละเอียดก่อนดำเนินการรับรอง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าเอกสารสำคัญของบริษัทจะได้รับการยอมรับในทุกที่ที่นำไปใช้