คู่มือจัดเก็บเอกสาร (Document Retention) สำหรับองค์กร | NYC - สถาบันภาษาเอ็นวายซีพลัส NYC+ LANGUAGE SCHOOL TEL: 081-5620444, 083-2494999 LINE: @NYCLI

คู่มือจัดเก็บเอกสาร (Document Retention) สำหรับองค์กร | NYC

คู่มือ นโยบายการจัดเก็บเอกสาร (Document Retention Guide)

รับรองเอกสาร Notary แล้ว ควรเก็บไว้นานแค่ไหน? คู่มือสำหรับองค์กร, ฝ่าย Compliance, และธุรกิจ เพื่อการตรวจสอบและปฏิบัติตามกฎหมาย

ทำไมการมี "นโยบายจัดเก็บเอกสาร" จึงสำคัญกว่าที่คิด

สำหรับองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศ บริษัทมหาชน หรือบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวด กระบวนการมักจะจบลงที่ "การได้รับเอกสารที่รับรอง Notary Public" และ "ส่งไปใช้งาน"

แต่คำถามที่สำคัญที่สุดคือ: "แล้วเอกสารต้นฉบับที่รับรองแล้ว... ควรเก็บไว้นานแค่ไหน?"

การไม่มี "นโยบายการจัดเก็บเอกสาร" (Document Retention Policy) ที่ชัดเจน ถือเป็นความเสี่ยงทางกฎหมายและการเงินที่ใหญ่หลวง การจัดเก็บเอกสารไม่ใช่แค่การหาที่วางในตู้เก็บของ แต่เป็นกระบวนการเชิงกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อ:

เพื่อการดำเนินคดี (Litigation): เอกสารที่รับรองโดย Notary (เช่น สัญญา, POA, Affidavit) คือ "หลักฐานชั้นหนึ่ง" ในศาล หากเกิดข้อพิพาททางธุรกิจ การไม่มีต้นฉบับอาจทำให้คุณแพ้คดี แม้ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกก็ตาม
เพื่อการตรวจสอบ (Audits): บริษัทแม่ในต่างประเทศ, ผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditor), หรือหน่วยงานกำกับดูแล (เช่น ก.ล.ต., สรรพากร) สามารถขอตรวจสอบเอกสารสำคัญย้อนหลังได้ตลอดเวลา
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance): กฎหมายหลายฉบับ (เช่น กฎหมายต่อต้านการทุจริต FCPA/UK Bribery Act, กฎหมายภาษี) "บังคับ" ให้องค์กรต้องจัดเก็บหลักฐานการดำเนินงานไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อการรักษาความลับ (Confidentiality): การมีนโยบายยังรวมถึง "การทำลาย" เอกสารที่หมดอายุความแล้วอย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหล (ซึ่งเกี่ยวข้องกับ PDPA)

หน้านี้คือคู่มือจาก NYC Plus ที่จะช่วยให้ฝ่าย Compliance, ฝ่ายกฎหมาย, และผู้บริหาร สามารถวางแผนการจัดเก็บเอกสารสำคัญที่ผ่านการรับรอง Notary Public ได้อย่างถูกต้องตามหลักสากล

นโยบายของเรา: "Notary Journal" vs "สำเนาเอกสาร"

เราเก็บอะไรไว้บ้าง? และเราไม่เก็บอะไร? เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง

ความลับของลูกค้าคือสิ่งสูงสุด: เรา "ไม่เก็บ" สำเนาเอกสารของคุณ

เพื่อปกป้องความลับทางธุรกิจ, การเงิน, และข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน NYC Plus มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะ "ไม่" ทำสำเนาหรือจัดเก็บไฟล์ดิจิทัลของเอกสารสำคัญที่ท่านนำมารับรอง เช่น สัญญาก่อนสมรส, สัญญาธุรกิจ, หรือ Affidavit of Conflict of Interest ไว้ที่สำนักงานของเราโดยเด็ดขาด

เมื่อกระบวนการรับรองเสร็จสิ้น ท่านจะได้รับเอกสารต้นฉบับทั้งหมดคืนไป ความรับผิดชอบในการจัดเก็บเอกสารนั้นจึงเป็นของท่าน 100%

สิ่งที่เรา "ต้องเก็บ" ตามกฎหมาย: สมุดทะเบียนทนาย (Notary Journal)

ตามข้อบังคับของสภาทนายความ ทนายความ Notary Public ทุกคน "ถูกบังคับ" ให้ต้องจัดทำและเก็บรักษา "สมุดทะเบียนการรับรองลายมือชื่อและเอกสาร" (Notary Journal) ไว้

สมุดนี้ "ไม่ใช่" สำเนาเอกสารของคุณ แต่เป็น "บันทึก" (Logbook) ที่ระบุว่า:

วันที่: วันที่ทำการรับรอง
ชื่อผู้ลงนาม: บุคคลที่มาปรากฏตัวต่อหน้าเรา
เอกสารยืนยันตัวตน: เลขที่พาสปอร์ต หรือ บัตรประชาชน ที่เราใช้ตรวจสอบ
ประเภทเอกสาร: เช่น "Affidavit of Income" หรือ "Power of Attorney"
การกระทำ: เช่น "รับรองลายมือชื่อ" หรือ "ให้คำสาบาน"

นโยบายการจัดเก็บ Notary Journal: เราจัดเก็บบันทึกนี้ไว้ตามที่กฎหมายกำหนด (ขั้นต่ำ 10 ปี) เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าการรับรองของเราได้เกิดขึ้นจริง หากมีการตรวจสอบจากกรมการกงสุลหรือศาลในอนาคต

คู่มือระยะเวลาจัดเก็บเอกสาร (Retention Guidelines)

"ควรเก็บเอกสารนานแค่ไหน?" คำตอบขึ้นอยู่กับประเภทของเอกสารและอายุความตามกฎหมาย

นี่คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) ที่องค์กรระดับสากลใช้เป็นมาตรฐานในการกำหนดนโยบายการจัดเก็บเอกสารสำคัญ (โปรดทราบ: นี่เป็นคำแนะนำทั่วไป บริษัทของคุณควรปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อกำหนดนโยบายที่เหมาะกับอุตสาหกรรมของคุณโดยเฉพาะ)

Infographic: เส้นทางอายุของเอกสาร (Document Journey)

✍️

1. สร้างและรับรอง

(Year 0) เอกสารถูกสร้าง, ลงนาม, และรับรอง Notary

□

2. ใช้งาน (Active)

(Year 1-5) ใช้งานบ่อย, ใช้ในการดำเนินงาน, อ้างอิง

□️

3. จัดเก็บ (Archive)

(Year 5-10+) หมดอายุสัญญา/ใช้งาน แต่ยังต้องเก็บตามกฎหมาย/อายุความ

□

4. ตรวจสอบ (Audit)

(Year 11+) สิ้นสุดอายุความทางกฎหมาย เตรียมการทำลาย

□

5. ทำลาย (Destroy)

(Year 11+) ทำลายอย่างปลอดภัยและมีบันทึกการทำลาย

ตารางสรุปแนวทางการจัดเก็บเอกสารสำคัญ

ประเภทเอกสาร	ระยะเวลาจัดเก็บที่แนะนำ	เหตุผลทางกฎหมาย/ธุรกิจ
สัญญาทางธุรกิจ (Contracts) (เช่น สัญญาซื้อขาย, สัญญาจ้าง, NDA)	ตลอดอายุสัญญา + 10 ปี	อายุความฟ้องร้องคดีแพ่งทั่วไป (10 ปี) นับจากสิ้นสุดสัญญาหรือผิดนัด
เอกสารโครงสร้างองค์กร (เช่น รายงานประชุม, ข้อบังคับ, ทะเบียนผู้ถือหุ้น)	ถาวร (ตลอดอายุบริษัท)	เป็นเอกสาร "ตัวตน" ของบริษัท ใช้ในการตรวจสอบย้อนหลัง (Due Diligence) หรือ M&A
เอกสารภาษีและบัญชี (เช่น ใบกำกับภาษี, งบการเงิน)	ขั้นต่ำ 5-10 ปี	ตามข้อกำหนดของประมวลรัษฎากร (สรรพากรมีอำนาจตรวจสอบย้อนหลัง)
เอกสารการจ้างงาน (เช่น สัญญาจ้าง, ประกันสังคม)	ตลอดอายุงาน + 10 ปี	อายุความคดีแรงงาน (2 ปี) และคดีประกันสังคม (10 ปี)
เอกสาร Compliance (เช่น FCPA) (เช่น Affidavit, รายงานการตรวจสอบ)	ขั้นต่ำ 5-10 ปี (หรือถาวร)	ใช้เป็นหลักฐานการป้องกัน (Legal Defense) หากถูกหน่วยงานต่างประเทศ (เช่น SEC) ตรวจสอบ
เอกสารการแพทย์ (สำหรับ รพ.)	ขั้นต่ำ 10 ปี (หรือนานกว่า)	กฎหมายเฉพาะด้านสถานพยาบาล และอายุความคดีละเมิดทางการแพทย์

จากตารางจะเห็นได้ว่า การเก็บเอกสาร "ตลอดอายุสัญญา" นั้นไม่เพียงพอ เพราะข้อพิพาททางกฎหมายมักเกิดขึ้น "หลังจาก" สัญญาจบสิ้นแล้ว การเก็บเอกสาร Notary ต้นฉบับไว้จนพ้น "อายุความ" (Statute of Limitations) จึงเป็นกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุด

การจัดเก็บเอกสารฉบับจริง (Physical) vs. สำเนาดิจิทัล (Digital)

โลกกำลังมุ่งสู่ Digital แต่สำหรับเอกสาร Notary "ต้นฉบับ" ยังคงเป็นราชา

□️ 1. การจัดเก็บฉบับจริง (Physical Original)

ความสำคัญ: "เอกสารหลักฐานชิ้นเดียว"

สำหรับเอกสารที่รับรอง Notary Public (โดยเฉพาะการรับรองลายมือชื่อและคำสาบาน) เอกสาร "ต้นฉบับ" ที่มีลายเซ็นหมึกจริง (Wet Ink) และตราประทับนูน/หมึก (Embossed/Ink Seal) ถือเป็นเอกสารทางกฎหมายฉบับจริงเพียงฉบับเดียว

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:

การป้องกันอัคคีภัย: จัดเก็บในตู้เซฟนิรภัยกันไฟ (Fireproof Safe) หรือห้องมั่นคง
การควบคุมการเข้าถึง: จำกัดผู้มีสิทธิ์เข้าถึงเอกสาร (เช่น ฝ่ายกฎหมาย, CFO) และต้องมี Logbook การเบิก-คืน
การควบคุมสภาพแวดล้อม: เก็บในที่แห้ง ไม่โดนแดด ไม่ชื้น เพื่อป้องกันหมึกซีดจางหรือกระดาษเปื่อยยุ่ย

ข้อควรระวัง: การสูญหาย

หากเอกสาร Notary "ต้นฉบับ" หาย ถือเป็นการสูญเสียหลักฐานทันที คุณไม่สามารถใช้สำเนาที่ถ่ายเอกสารไว้แทนได้ และต้องเริ่มกระบวนการร่างและรับรอง Notary ใหม่ทั้งหมด

□️ 2. การจัดเก็บสำเนาดิจิทัล (Digital Scan)

ความสำคัญ: "เพื่อการเข้าถึงและสำรองข้อมูล"

การสแกนเอกสาร Notary ที่รับรองเสร็จแล้วเก็บไว้ใน Server หรือ Cloud เป็นแนวทางที่ "ควรทำ" อย่างยิ่ง แต่ต้องเข้าใจว่ามันคือ "สำเนาเพื่อการอ้างอิง" (Reference Copy) ไม่ใช่ "ตัวจริง" ทางกฎหมาย

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:

การรักษาความปลอดภัย: จัดเก็บบน Server ที่มีการเข้ารหัส (Encrypted) หรือ Cloud Storage ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง (เช่น ISO 27001)
การควบคุมการเข้าถึง: ใช้ระบบ Permission กำหนดสิทธิ์ว่าใครสามารถเปิดดู, แก้ไข, หรือลบไฟล์ได้
การสำรองข้อมูล (Backup): ต้องมีการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ (เช่น Off-site backup) เพื่อป้องกันไฟล์เสียหายหรือถูก Ransomware โจมตี

PDPA และ Privacy

การจัดเก็บเอกสาร (ทั้ง Physical และ Digital) ที่มีข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น พาสปอร์ต, สัญญา) ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อย่างเคร่งครัด

กระบวนการทำลายเอกสาร (Secure Document Destruction)

นโยบายการจัดเก็บเอกสารที่ดี ไม่ได้จบแค่ "การเก็บ" แต่จบที่ "การทำลาย" เมื่อเอกสารนั้นหมดอายุความและไม่จำเป็นต้องเก็บอีกต่อไป การทิ้งสัญญาสำคัญลงถังขยะปกติ ถือเป็นความเสี่ยงร้ายแรงต่อความลับของบริษัท

ทำไมการทำลายอย่างปลอดภัยจึงสำคัญ?

ป้องกันข้อมูลรั่วไหล: ป้องกันไม่ให้คู่แข่งหรือผู้ไม่หวังดีเข้าถึงสัญญาเก่า, ข้อมูลการเงิน, หรือความลับทางการค้า
ปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA: กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ "ลบหรือทำลาย" ข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อหมดความจำเป็นในการประมวลผล
ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ: ลดต้นทุนในการจัดเก็บเอกสาร Physical ที่ไม่จำเป็นแล้ว

แนวทางการทำลายเอกสารที่ถูกต้อง

กำหนดนโยบาย: ระบุในนโยบายของบริษัทว่าเอกสารประเภทใดจะถูกทำลายเมื่อใด (เช่น สัญญา + 10 ปี)
อนุมัติการทำลาย: ต้องมีผู้รับผิดชอบ (เช่น ฝ่ายกฎหมาย) "อนุมัติ" การทำลาย ก่อนส่งเอกสารไปทำลายจริง
เลือกวิธีการทำลายที่ปลอดภัย:
- การทำลายภายใน: ต้องใช้เครื่องทำลายเอกสารแบบตัดละเอียด (Cross-Cut Shredder) ไม่ใช่แบบตัดเส้น (Strip-Cut)
- จ้างบริการภายนอก: ใช้บริการบริษัทรับทำลายเอกสารมืออาชีพ (Secure Destruction Service) ที่มีกระบวนการรัดกุม
บันทึกการทำลาย (สำคัญที่สุด): ต้องจัดทำ "Certificate of Destruction" (ใบรับรองการทำลาย) ที่ระบุว่าเอกสารใด ถูกทำลายเมื่อใด โดยใคร เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมาย PDPA แล้ว

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับนโยบายการจัดเก็บเอกสาร

สรุป: สัญญาทางธุรกิจที่รับรอง Notary แล้ว ควรเก็บไว้นานแค่ไหน?

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดคือ 'ตลอดอายุสัญญา + 10 ปี' (Life of Contract + 10 Years) เหตุผลคือ อายุความทั่วไปสำหรับการฟ้องร้องทางแพ่งในประเทศไทยคือ 10 ปี (นับจากวันที่เกิดข้อพิพาทหรือสิ้นสุดสัญญา) การเก็บเอกสารต้นฉบับที่รับรอง Notary ไว้ 10 ปีหลังสัญญาจบ จะช่วยให้คุณมีหลักฐานที่สมบูรณ์ที่สุดหากถูกฟ้องร้องย้อนหลัง

Notary Public เก็บ 'สำเนา' เอกสารของเราไว้หรือไม่?

ไม่ครับ นี่คือข้อสำคัญด้านการรักษาความลับ: Notary Public ที่ได้รับอนุญาต (เช่น NYC Plus) จะ 'ไม่' เก็บสำเนาเอกสารสำคัญของท่าน (เช่น สัญญา, POA, หรือ Affidavit) ไว้ที่สำนักงาน เพื่อปกป้องความลับทางธุรกิจและการเงินของคุณ

แต่สิ่งที่เรา 'ต้อง' จัดเก็บตามกฎหมายคือ 'Notary Journal' (สมุดทะเบียนทนาย) ซึ่งเป็นบันทึกว่า 'ใคร' (ชื่อ, เลขพาสปอร์ต) มารับรอง 'เอกสารอะไร' (เช่น POA) ใน 'วันไหน' และ 'ลงนามต่อหน้า' เราจริง สมุดบันทึกนี้ใช้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน 'การรับรอง' ของเรา แต่ 'ไม่มี' เนื้อหาในเอกสารของคุณครับ

เอกสารบริษัท เช่น รายงานการประชุม (Minutes) ควรเก็บนานเท่าไหร่?

เอกสารที่เกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรควรเก็บไว้ 'ถาวร' (Permanent) ตลอดอายุการดำเนินงานของบริษัท เอกสารเหล่านี้เปรียบเสมือน 'สูติบัตร' ของบริษัท และจำเป็นต้องใช้เสมอในการตรวจสอบย้อนหลัง (Due Diligence), การควบรวมกิจการ (M&A), หรือการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึง:

รายงานการประชุมคณะกรรมการ (Board Minutes)
รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น (Shareholder Minutes)
ทะเบียนผู้ถือหุ้น (Share Register)
ข้อบังคับบริษัท (Articles of Association)

เอกสารภาษีที่รับรอง Notary (ถ้ามี) ต้องเก็บนานแค่ไหน?

ตามประมวลรัษฎากรของไทย (Revenue Code) โดยทั่วไปกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องเก็บรักษาบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีไว้เป็นเวลา 5 ปีนับแต่วันปิดบัญชี อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติและเพื่อความปลอดภัยสูงสุด แนะนำให้เก็บไว้ 10 ปี เพื่อให้ครอบคลุมอายุความในกรณีที่อาจมีข้อพิพาททางภาษี

ถ้าเอกสาร Notary "ต้นฉบับ" หาย ต้องทำอย่างไร?

นี่คือปัญหาใหญ่ครับ หากเอกสารต้นฉบับ (Wet Ink) สูญหาย คุณ "ไม่สามารถ" ใช้สำเนาที่ถ่ายเอกสารหรือสแกนไว้มาอ้างอิงทางกฎหมายได้ในกรณีส่วนใหญ่

ทางแก้คือ: ต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด

ร่างเอกสารนั้นขึ้นมาใหม่
คู่สัญญาทุกฝ่ายต้องมาลงนามต่อหน้า Notary Public อีกครั้ง
Notary จะทำการรับรองใหม่ (New Notarization)
หากจำเป็น ต้องนำเอกสารฉบับใหม่นี้ไปผ่านกระบวนการ Legalization ที่กรมการกงสุลและสถานทูตอีกครั้ง

นี่คือเหตุผลว่าทำไมการจัดเก็บ "ต้นฉบับ" ในตู้เซฟกันไฟจึงสำคัญมาก

ปรึกษาเราเพื่อวางแผนการจัดการเอกสาร

การรับรองเอกสารเป็นเพียงขั้นตอนแรก การจัดการและจัดเก็บอย่างถูกต้องคือหลักประกันขององค์กร

□ LINE: @NYCLI (ปรึกษาฟรี) □ โทรสายด่วน: 081-562-0444

ที่ตั้งสำนักงานและสาขาทั่วประเทศไทย

เรามีเครือข่ายให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ สนับสนุนธุรกิจของคุณในทุกพื้นที่

□ สำนักงานใหญ่ (กรุงเทพฯ ลาดพร้าว)

61 ซอยลาดพร้าว 95 (ปรางค์ทิพย์), คลองเจ้าคุณสิงห์, วังทองหลาง, กรุงเทพฯ 10310
เวลาทำการ: จ-ศ 09:00-18:00

□ สาขาขอนแก่น

95 โครงการเดอะวอลล์ ถ.รื่นรมย์, ต.ในเมือง, อ.เมือง, จ.ขอนแก่น 40000

□ สาขาอุดรธานี

31/43 ถ.ศรีชมชื่น, ต.หมากแข้ง, อ.เมือง, จ.อุดรธานี 41000

ศูนย์ประสานงาน 50 เขตในกรุงเทพมหานคร

คลองเตย • คลองสาน • คลองสามวา • คันนายาว • จตุจักร • จอมทอง • ดอนเมือง • ดินแดง • ดุสิต • ตลิ่งชัน • ทวีวัฒนา • ทุ่งครุ • ธนบุรี • บางกอกน้อย • บางกอกใหญ่ • บางกะปิ • บางขุนเทียน • บางเขน • บางคอแหลม • บางแค • บางซื่อ • บางนา • บางบอน • บางพลัด • บางรัก • บึงกุ่ม • ปทุมวัน • ประเวศ • ป้อมปราบฯ • พญาไท • พระโขนง • พระนคร • ภาษีเจริญ • มีนบุรี • ยานนาวา • ราชเทวี • ราษฎร์บูรณะ • ลาดกระบัง • ลาดพร้าว • วังทองหลาง (สนง.ใหญ่) • วัฒนา • สวนหลวง • สะพานสูง • สัมพันธวงศ์ • สาทร • สายไหม • หนองแขม • หนองจอก • หลักสี่ • ห้วยขวาง

ศูนย์ประสานงานทั่วประเทศไทย

ภาคกลาง: กาญจนบุรี • ชัยนาท • นครนายก • นครปฐม • นนทบุรี • ปทุมธานี • ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) • อยุธยา • เพชรบุรี • ราชบุรี • ลพบุรี • สมุทรปราการ • สมุทรสงคราม • สมุทรสาคร • สระบุรี • สิงห์บุรี • สุพรรณบุรี • อ่างทอง | ภาคตะวันออก: จันทบุรี • ฉะเชิงเทรา • ชลบุรี (พัทยา) • ตราด • ปราจีนบุรี • ระยอง • สระแก้ว | ภาคเหนือ: ตาก (แม่สอด) • เชียงราย • เชียงใหม่ • น่าน • พะเยา • พิจิตร • พิษณุโลก • เพชรบูรณ์ • แพร่ • แม่ฮ่องสอน • นครสวรรค์ • ลำปาง • ลำพูน • สุโขทัย • อุตรดิตถ์ • อุทัยธานี | ภาคอีสาน: ชัยภูมิ • นครพนม • นครราชสีมา (โคราช) • บึงกาฬ • บุรีรัมย์ • มหาสารคาม • มุกดาหาร • ยโสธร • ร้อยเอ็ด • เลย • ศรีสะเกษ • สกลนคร • สุรินทร์ • หนองคาย • หนองบัวลำภู • อำนาจเจริญ • อุดรธานี • อุบลราชธานี | ภาคใต้: กระบี่ • ชุมพร • ตรัง • นครศรีธรรมราช • นราธิวาส • ปัตตานี • พังงา • พัทลุง • ภูเก็ต • ยะลา • ระนอง • สงขลา (หาดใหญ่) • สตูล • สุราษฎร์ธานี