1. ภาพรวมข้อกำหนดเอกสารสำหรับวีซ่าเชงเก้นและวีซ่าแห่งชาติเยอรมนี Overview: Schengen Visa vs. German National Visa Requirements
การทำความเข้าใจความแตกต่างของวีซ่าแต่ละประเภทคือกุญแจสำคัญในการเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง
การเดินทางเข้าสู่ทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศเยอรมนี มีวีซ่าหลักอยู่ 2 ประเภทซึ่งมีข้อกำหนดด้านเอกสารที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง:
- วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa - Type C): สำหรับการพำนักระยะสั้น ไม่เกิน 90 วัน (เช่น ท่องเที่ยว, เยี่ยมเยียน, ธุรกิจระยะสั้น) โดยทั่วไปแล้วเอกสารสำหรับวีซ่าเชงเก้น เช่น Bank Statement, หนังสือรับรองการทำงาน ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการรับรองนิติกรณ์ที่ซับซ้อน แต่ต้องมีคำแปลภาษาอังกฤษหรือเยอรมันแนบไปด้วยเสมอ
- วีซ่าแห่งชาติเยอรมนี (German National Visa - Type D): สำหรับการพำนักระยะยาว เกิน 90 วัน (เช่น เรียนต่อ, ทำงาน, ย้ายถิ่นฐาน, สมรส) วีซ่าประเภทนี้มีข้อกำหนดด้านเอกสารที่เข้มงวดและซับซ้อนอย่างยิ่ง เอกสารราชการไทยแทบทุกชนิดจะต้องผ่านกระบวนการรับรองคำแปลและรับรองนิติกรณ์เอกสาร (Legalization) เต็มรูปแบบที่สถานทูตเยอรมนี
There are two main visa types for Germany, each with distinct document requirements. The Schengen Visa (Type C) for short stays up to 90 days generally requires only certified translations. In contrast, the German National Visa (Type D) for long-term stays (study, work, family reunion) has extremely strict and complex requirements, demanding a full legalization process at the German Embassy for almost all official Thai documents.
2. การรับรองเอกสารเพื่อขอวีซ่านักเรียนและวีซ่าทำงานในเยอรมนี Document Certification for German Study & Work Visas
การขอวีซ่าแห่งชาติ (National Visa) เพื่อไปเรียนหรือทำงานในเยอรมนี คุณจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญที่ต้องผ่านกระบวนการรับรองเต็มรูปแบบ ได้แก่:
- วุฒิการศึกษา: ใบปริญญาบัตรและใบรับรองผลการเรียน (Transcript) ต้องนำไปแปลและรับรองนิติกรณ์ที่สถานทูตฯ เพื่อใช้ประกอบการสมัครเรียนและเทียบวุฒิ
- เอกสารส่วนตัว: สูติบัตร, ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล, ทะเบียนบ้าน, ใบสำคัญการสมรส ฯลฯ ที่จำเป็นต้องใช้ยืนยันตัวตนหรือความสัมพันธ์
- หนังสือรับรองประสบการณ์ทำงาน: สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าทำงานหรือ Blue Card
เอกสารเหล่านี้ต้องผ่านขั้นตอนที่เข้มงวดตามที่ระบุไว้ในหัวข้อที่ 7 ของหน้านี้
3. การรับรองคำแปลโดยนักแปลที่สถานทูตยอมรับ Translation by an Embassy-Recognized Translator
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและเป็นเอกลักษณ์ของกระบวนการสำหรับประเทศเยอรมนี
ข้อควรระวังสูงสุด: สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำกรุงเทพฯ กำหนดอย่างชัดเจนว่า การแปลเอกสารราชการไทยที่จะนำมายื่นขอรับรองนิติกรณ์ (Legalization) ที่สถานทูตฯ จะต้องจัดทำโดยนักแปลที่อยู่ในรายชื่อที่สถานทูตฯ ให้การรับรองเท่านั้น (List of recognised translators)
หากท่านใช้บริการแปลจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อดังกล่าว สถานทูตฯ จะปฏิเสธการรับรองเอกสารของท่านทันที ทำให้ท่านต้องเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใหม่ทั้งหมด NYC+ ทำงานร่วมกับนักแปลที่ได้รับการยอมรับจากสถานทูตเยอรมนี ท่านจึงมั่นใจได้ว่าคำแปลของเราจะผ่านการตรวจสอบอย่างแน่นอน
4. หนังสือเชิญ (Verpflichtungserklärung) Formal Obligation Letter (Verpflichtungserklärung)
Verpflichtungserklärung หรือ Formal Obligation Letter คือเอกสารสำคัญสำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าโดยมีผู้เชิญ (Sponsor) ในเยอรมนีเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ใครเป็นผู้ทำ: ผู้เชิญที่อาศัยอยู่ในเยอรมนีจะต้องเป็นผู้ไปยื่นเรื่องขอเอกสารนี้ด้วยตนเองที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (Ausländerbehörde) ในเมืองที่ตนอาศัยอยู่
- ขั้นตอนในไทย: ผู้เชิญจะส่งเอกสารฉบับจริงมาให้ผู้สมัครที่ประเทศไทย ผู้สมัครจะต้องนำเอกสาร ฉบับจริง นี้ไปยื่นพร้อมกับคำร้องขอวีซ่า เอกสารนี้ไม่จำเป็นต้องนำมารับรองใดๆ เพิ่มเติมในประเทศไทย
5. การรับรองเอกสารสำหรับการจดทะเบียนสมรส หรือคู่ชีวิต (Lebenspartnerschaft) Documents for Marriage or Civil Partnership
สำหรับผู้ที่ต้องการนำเอกสารจากประเทศไทยไปใช้เพื่อจดทะเบียนสมรสหรือจดทะเบียนคู่ชีวิตในเยอรมนี ท่านจะต้องเตรียมเอกสารส่วนตัวทั้งหมดให้ผ่านกระบวนการรับรองนิติกรณ์เต็มรูปแบบ (ตามหัวข้อที่ 7) ซึ่งได้แก่:
- หนังสือรับรองความเป็นโสด (ต้องขอจากที่ว่าการอำเภอและมีอายุไม่เกิน 6 เดือน)
- สูติบัตร
- ทะเบียนบ้าน
- หนังสือเดินทาง
- ในกรณีเคยสมรสมาก่อน: ใบสำคัญการหย่า หรือ มรณบัตรของคู่สมรสเดิม
6. การรับรองใบปริญญาเพื่อเทียบวุฒิ Notarizing Degrees for Recognition
ผู้ที่ต้องการไปทำงานในเยอรมนี โดยเฉพาะผู้ที่สมัคร EU Blue Card หรืออาชีพที่ต้องใช้ใบอนุญาต (regulated professions) จำเป็นต้องนำวุฒิการศึกษาจากประเทศไทยไปเทียบกับระบบการศึกษาของเยอรมนีผ่านหน่วยงานต่างๆ เช่น ZAB (Zentralstelle für ausländisches Bildungswesen)
ในกระบวนการนี้ ท่านจะต้องยื่นสำเนาใบปริญญาบัตรและใบรับรองผลการเรียนที่ผ่านการรับรองนิติกรณ์จากสถานทูตเยอรมนีแล้ว ซึ่งหมายความว่าเอกสารต้องผ่านกระบวนการเต็มรูปแบบตามขั้นตอนที่ 7
7. ลำดับขั้นตอนที่เข้มงวดสำหรับเอกสารเยอรมนี The Strict Legalisation Procedure for Germany
นี่คือลำดับขั้นตอนที่ถูกต้องและจำเป็นสำหรับเอกสารราชการไทยที่จะนำไปใช้ในเยอรมนี
-
ขั้นตอนที่ 1: การรับรองเบื้องต้นโดย Notary Public (ถ้าจำเป็น)
สำหรับเอกสารบางประเภทที่ไม่ใช่เอกสารราชการ เช่น หนังสือมอบอำนาจ หรือหนังสือยินยอมส่วนตัว ต้องเริ่มต้นด้วยการรับรองลายมือชื่อโดย Notary Public ของไทย
-
ขั้นตอนที่ 2: แปลโดยนักแปลที่สถานทูตฯ รับรอง
นำเอกสารราชการไทย (หรือเอกสารที่ผ่าน Notary Public แล้ว) ไปแปลเป็นภาษาเยอรมันโดยนักแปลที่อยู่ในรายชื่อของสถานทูตเยอรมนีเท่านั้น
-
ขั้นตอนที่ 3: รับรองนิติกรณ์ที่กรมการกงสุล
นำเอกสารต้นฉบับภาษาไทย พร้อมคำแปลที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 ไปยื่นขอรับรองนิติกรณ์ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งวัฒนะ
-
ขั้นตอนที่ 4: รับรองนิติกรณ์ที่สถานทูตเยอรมนี (Legalization)
นำเอกสารทั้งหมดที่ผ่านการรับรองจากกรมการกงสุลแล้ว ไปยื่นขอรับรองนิติกรณ์เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่แผนกกฎหมายและกงสุลของสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว เอกสารของท่านจึงจะสมบูรณ์และใช้ในเยอรมนีได้
8. Checklist วีซ่านักเรียนเยอรมนี Student Visa Checklist
- หนังสือเดินทาง
- จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย (Zulassungsbescheid)
- หลักฐานการเงิน (เช่น บัญชี Blocked Account)
- วุฒิการศึกษาที่ผ่านการรับรองเต็มรูปแบบ
- ประกันสุขภาพ (Health Insurance)
9. ค่าบริการสำหรับเอกสารเยอรมนี Service Fees
เนื่องจากกระบวนการที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เราให้บริการแบบครบวงจร (One-Stop Service) ตั้งแต่การแปล, Notary, ยื่นกงสุล, จนถึงยื่นสถานทูตฯ
กรุณาติดต่อเพื่อขอใบเสนอราคา
10. คำถามที่พบบ่อย FAQ
ถาม: ใช้เวลาดำเนินการทั้งหมดนานเท่าไหร่?
ตอบ: กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่แปลจนถึงได้รับรองจากสถานทูตเยอรมนี อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ ควรเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน
11. ลิงก์ที่เป็นประโยชน์ Helpful Links
12. การรับรองเอกสารสำหรับ Blue Card EU Blue Card Documents
EU Blue Card คือใบอนุญาตทำงานสำหรับผู้มีทักษะสูง เอกสารสำคัญที่สุดคือ ใบปริญญาที่เทียบเท่ากับของเยอรมนี และ สัญญาจ้างงาน ที่มีเงินเดือนถึงเกณฑ์ที่กำหนด เอกสารวุฒิการศึกษาต้องผ่านกระบวนการรับรองเต็มรูปแบบ
13. ความแตกต่างในกลุ่มเชงเก้น Schengen Area Differences
แม้จะใช้ Schengen Visa ร่วมกัน แต่ข้อกำหนดด้านเอกสารสำหรับวีซ่าแห่งชาติ (National Visa) ของแต่ละประเทศในกลุ่มเชงเก้น (เช่น ฝรั่งเศส, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์) จะแตกต่างกันไป บางประเทศอาจไม่เข้มงวดเท่าเยอรมนี โปรดปรึกษาเราสำหรับข้อกำหนดของประเทศที่ท่านจะเดินทางไป
14. ปรึกษาเราเรื่องเอกสารสำหรับประเทศเยอรมนี Consult Us for Your German Document Needs
กระบวนการรับรองเอกสารสำหรับเยอรมนีมีความซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก อย่าเสี่ยงให้เอกสารของคุณถูกปฏิเสธ ให้ผู้เชี่ยวชาญของเราดูแลทุกขั้นตอนให้คุณ
ติดต่อเราวันนี้เพื่อเริ่มต้นอย่างถูกต้อง!