ภาพรวมกรณีศึกษา: ความท้าทายของการรับรองเอกสารข้ามพรมแดน
การดำเนินธุรกิจในเวทีโลกมักมาพร้อมกับความท้าทายด้านเอกสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำให้เอกสารสำคัญฉบับเดียวเป็นที่ยอมรับทางกฎหมายในหลายประเทศพร้อมกัน แต่ละประเทศมีกฎระเบียบ ขั้นตอน และระยะเวลาในการรับรองเอกสาร (Legalization หรือ Apostille) ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การจัดการที่ไม่ดีพออาจนำไปสู่ความล่าช้า ต้นทุนที่บานปลาย และอาจถึงขั้นทำให้ข้อตกลงทางธุรกิจหยุดชะงักได้
กรณีศึกษานี้จะแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของ NYC Translation and Notary Service ในการฝ่าฟันความซับซ้อนของกระบวนการ Legalization เอกสารสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Agreement - JVA) สำหรับลูกค้าองค์กรรายใหญ่รายหนึ่ง ซึ่งต้องการให้เอกสารชุดเดียวกันนี้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายใน 3 ประเทศที่มีระบบการรับรองแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (USA), สาธารณรัฐประชาชนจีน (China), และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ทั้งหมดนี้ภายใต้กรอบเวลาที่จำกัดเพียง 1 เดือน
ปัญหาและความท้าทาย (The Challenge)
ลูกค้าของเราคือ บริษัท A ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในประเทศไทย กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture - JV) กับพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่สามแห่งพร้อมกัน พวกเขาต้องการให้เอกสารสำคัญหลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Agreement - JVA) และ หนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney - POA) ที่เกี่ยวข้อง สามารถนำไปใช้จดทะเบียนและดำเนินธุรกรรมในประเทศต่อไปนี้ได้:
- สหรัฐอเมริกา (USA): ต้องการเอกสารที่ผ่านการรับรองแบบ Apostille ตามอนุสัญญากรุงเฮก (Hague Convention) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของรัฐที่เกี่ยวข้อง
- สาธารณรัฐประชาชนจีน (China): ต้องการเอกสารที่ผ่านกระบวนการ Legalization เต็มรูปแบบ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวด ต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งมีขั้นตอนและข้อกำหนดด้านการแปลที่ซับซ้อน
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): ต้องการเอกสารที่ผ่านกระบวนการ Legalization เต็มรูปแบบ เช่นกัน ซึ่งไม่เพียงแต่เข้มงวด แต่ยังมีค่าธรรมเนียมที่สูงมาก และมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับรูปแบบเอกสารและการรับรอง
ความท้าทายหลักที่ บริษัท A เผชิญคือ:
- ความแตกต่างของกระบวนการ: ต้องจัดการ 3 กระบวนการที่แตกต่างกัน (Apostille 1 ประเทศ, Legalization เข้มงวด 2 ประเทศ) สำหรับเอกสารชุดเดียวกัน
- ข้อจำกัดด้านเวลา: มีกำหนดเส้นตายในการจดทะเบียนบริษัทร่วมทุนในทั้งสามประเทศภายใน 1 เดือน ซึ่งถือว่าท้าทายอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงระยะเวลาปกติของกระบวนการ Legalization แต่ละประเทศ โดยเฉพาะจีนและ UAE ที่อาจใช้เวลานาน
- ความซับซ้อนด้านภาษา: เอกสารบางส่วนเป็นภาษาไทย บางส่วนเป็นภาษาอังกฤษ และต้องมีการแปลเป็นภาษาจีนและอาหรับที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง
- การประสานงาน: ต้องประสานงานกับหลายหน่วยงานพร้อมกัน ทั้ง Notary Public, นักแปล, กรมการกงสุลไทย, และสถานทูตทั้ง 3 แห่ง
- ความเสี่ยงสูง: ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง อาจทำให้เอกสารถูกปฏิเสธและต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำหนดการจดทะเบียน JV อย่างร้ายแรง
บริษัท A ตระหนักดีว่าการดำเนินการด้วยตนเองมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่ทันตามกำหนด จึงได้มอบหมายภารกิจที่ท้าทายนี้ให้กับ NYC+ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญในการจัดการ Legalization เคสซับซ้อน
แผนการของเรา (The Plan)
เมื่อได้รับโจทย์ที่ท้าทายนี้ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน Legalization ของ NYC+ ได้ระดมสมองทันทีเพื่อวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงข้อจำกัดด้านเวลาและความแตกต่างของแต่ละประเทศเป็นสำคัญ แผนการดำเนินงานของเราประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังนี้:
1. การวิเคราะห์และสร้างแผนผังกระบวนการ (Process Mapping & Flowcharting):
- วิเคราะห์เอกสาร: ตรวจสอบเอกสาร JVA, POA และเอกสารประกอบอื่นๆ อย่างละเอียด เพื่อระบุประเภทการรับรองที่จำเป็นสำหรับแต่ละประเทศ
- สร้าง Flowchart แยกรายประเทศ: จัดทำแผนผังกระบวนการ (Conceptual Flowchart) ที่ชัดเจนสำหรับ USA (Apostille), China (Legalization), และ UAE (Legalization) โดยระบุขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ (Notary -> Translation (if needed) -> Thai MFA -> Embassy)
- ระบุ Critical Path: หาขั้นตอนที่เป็นคอขวด (Bottleneck) และมีระยะเวลารอนานที่สุด (โดยเฉพาะการรับรองที่สถานทูตจีนและ UAE) เพื่อให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
2. การจัดลำดับความสำคัญและการดำเนินการคู่ขนาน (Prioritization & Parallel Processing):
- Notarization เป็นลำดับแรก: กำหนดให้การรับรอง Notary Public สำหรับเอกสารต้นฉบับทั้งหมด (ทั้ง JVA, POA, และสำเนาเอกสารบริษัท) เป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด
- ดำเนินการคู่ขนาน: วางแผนให้กระบวนการหลังจาก Notary สามารถดำเนินไปพร้อมกันได้มากที่สุด เช่น:
- ส่งเอกสารส่วนหนึ่งไปแปล (สำหรับจีนและ UAE)
- ส่งเอกสารส่วนที่ไม่ต้องแปล (หรือแปลเสร็จแล้ว) ไปรับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทย (MFA) ทันที
- จัดลำดับสถานทูต: ประเมินระยะเวลาดำเนินการของแต่ละสถานทูต และวางแผนยื่นเอกสารให้กับสถานทูตที่ใช้เวลานานที่สุด (คาดว่าจะเป็นจีนและ UAE) ก่อน หรือพร้อมกันทันทีที่เอกสารผ่าน MFA
3. การจัดทำไทม์ไลน์และกำหนดผู้รับผิดชอบ (Timeline & Responsibility Assignment):
- สร้าง Detailed Timeline: กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับแต่ละขั้นตอนย่อย โดยเผื่อเวลาสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเล็กน้อย และมีเป้าหมายให้เสร็จสิ้นภายใน 25 วัน (เร็วกว่ากำหนด 5 วัน)
- มอบหมายงาน: กำหนดผู้รับผิดชอบหลัก (Project Coordinator) และทีมงานสนับสนุนสำหรับแต่ละส่วนงาน (Notary, Translation, MFA Submission, Embassy Submission & Follow-up) เพื่อให้การทำงานราบรื่นและติดตามความคืบหน้าได้ง่าย
4. การประสานงานเชิงรุก (Proactive Coordination):
- คัดเลือกนักแปล: ประสานงานกับทีมนักแปลผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายธุรกิจ (ทั้งจีนและอาหรับ) ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- เตรียมเอกสารสถานทูตล่วงหน้า: ศึกษาข้อกำหนดและแบบฟอร์มของสถานทูตทั้ง 3 แห่ง และเตรียมเอกสารประกอบการยื่นให้พร้อมทันทีที่เอกสารหลักผ่าน MFA
- บริการจัดส่งด่วน: เตรียมการใช้บริการจัดส่งเอกสารด่วน (Messenger/Courier) ที่เชื่อถือได้ สำหรับการรับส่งเอกสารระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อประหยัดเวลา
- การสื่อสารกับลูกค้า: กำหนดตารางการอัปเดตความคืบหน้าให้ลูกค้าทราบเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ
แผนการที่รัดกุมนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบงานที่ซับซ้อนนี้ได้ทันตามกำหนดเวลาอันจำกัด
ปฏิบัติการ: เดินหน้าตามแผน (The Execution)
ด้วยแผนงานที่ชัดเจน ทีมงาน NYC+ ได้ลงมือปฏิบัติการทันที โดยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน:
-
วันที่ 1-2: การรับรอง Notary Public
ดำเนินการ: ลูกค้า (บริษัท A) นำส่งเอกสาร JVA, POA, และเอกสารบริษัทต้นฉบับทั้งหมดมายังสำนักงาน NYC+ ทนายความ Notary Public ผู้เชี่ยวชาญของเราทำการตรวจสอบความถูกต้องและรับรองลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามทันที
ผลลัพธ์: เอกสารสำคัญทั้งหมดได้รับการรับรอง Notary Public อย่างถูกต้อง พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป
-
วันที่ 3-7: การแปลและรับรองที่กรมการกงสุลไทย (MFA)
ดำเนินการ (คู่ขนาน):
- การแปล: เอกสารที่ต้องใช้ในจีนและ UAE ถูกส่งไปยังทีมนักแปลผู้เชี่ยวชาญทันที โดยเร่งรัดการแปลและการรับรองคำแปล
- ยื่น MFA: เอกสารชุดสำหรับสหรัฐฯ (Apostille) และเอกสารชุดสำหรับจีน/UAE ที่แปลเสร็จแล้ว ถูกนำไปยื่นขอรับรองที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (MFA) ที่แจ้งวัฒนะ โดยทีมงานของเราดำเนินการยื่นแบบเร่งด่วน
ความท้าทายเล็กน้อย: การแปลเอกสารสัญญาทางกฎหมายที่ซับซ้อนเป็นภาษาจีนและอาหรับต้องใช้ความแม่นยำสูง แต่ด้วยเครือข่ายนักแปลมืออาชีพของเรา ทำให้งานแปลเสร็จทันตามกำหนด
ผลลัพธ์: เอกสารทุกชุดได้รับการรับรองจาก MFA ภายในวันที่ 7
-
วันที่ 8-20: การยื่นรับรองที่สถานทูต (Embassy Legalization & Apostille)
ดำเนินการ (คู่ขนาน):
- สหรัฐอเมริกา (Apostille): เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นสมาชิกอนุสัญญาเฮก เอกสารสำหรับสหรัฐฯ ที่ผ่าน MFA แล้ว ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการ Apostille สามารถนำไปใช้งานได้ทันที (เราดำเนินการตรวจสอบความสมบูรณ์และจัดส่งให้ลูกค้าส่วนนี้ก่อน)
- สถานทูตจีน: เอกสารสำหรับจีนที่ผ่าน MFA และแนบคำแปลที่รับรองแล้ว ถูกนำไปยื่นที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย พร้อมชำระค่าธรรมเนียม ทีมงานติดตามสถานะอย่างใกล้ชิดเนื่องจากกระบวนการของสถานทูตจีนมักใช้เวลาและมีระเบียบที่เข้มงวด
- สถานทูต UAE: เอกสารสำหรับ UAE ที่ผ่าน MFA และแนบคำแปลที่รับรองแล้ว (ต้องแปลเป็นทั้งอังกฤษและอาหรับตามข้อกำหนด) ถูกนำไปยื่นที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำประเทศไทย พร้อมชำระค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง ทีมงานติดตามสถานะและเตรียมเอกสารเพิ่มเติมหากมีการร้องขอ
การบริหารจัดการ: ทีมงานของเราต้องเดินทางไปยื่นและติดตามเอกสารที่สถานทูตทั้งสองแห่งเกือบทุกวัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาติดขัดและเอกสารได้รับการดำเนินการตามลำดับ
-
วันที่ 21-25: การติดตามและรับเอกสารคืน (Follow-up & Collection)
ดำเนินการ: ทีมงานประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนและ UAE อย่างต่อเนื่อง และได้รับแจ้งว่าเอกสารพร้อมรับคืน
- รับเอกสารคืน: ทีมงานเดินทางไปรับเอกสารที่ผ่านการรับรองจากสถานทูตทั้งสองแห่ง ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของตราประทับทั้งหมดทันที ณ สถานทูต
- จัดส่งให้ลูกค้า: จัดเตรียมเอกสารฉบับสมบูรณ์ทั้ง 3 ชุด (Apostille USA, Legalized China, Legalized UAE) และจัดส่งด่วนให้แก่ บริษัท A
ผลลัพธ์: เอกสารทั้งหมดส่งถึงมือลูกค้าภายในวันที่ 25
ผลลัพธ์: ความสำเร็จภายใต้แรงกดดัน (The Result)
ด้วยการวางแผนอย่างรัดกุม การดำเนินการอย่างเป็นระบบ และการประสานงานอย่างมืออาชีพ NYC Translation and Notary Service สามารถส่งมอบเอกสาร JVA และ POA ที่ผ่านการรับรองอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับทั้ง 3 ประเทศ ให้แก่ บริษัท A ได้สำเร็จภายในระยะเวลาเพียง 25 วัน ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเส้นตายถึง 5 วัน
ผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้น:
- จดทะเบียน JV ทันตามกำหนด: บริษัท A สามารถนำเอกสารที่รับรองแล้วไปใช้ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในสหรัฐอเมริกา จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ทันตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยไม่มีความล่าช้า
- หลีกเลี่ยงต้นทุนแฝง: การดำเนินการที่เสร็จทันเวลาช่วยหลีกเลี่ยงค่าปรับ หรือต้นทุนเสียโอกาสทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นหากการจดทะเบียนล่าช้า
- สร้างความประทับใจให้พันธมิตร: ความรวดเร็วและเป็นมืออาชีพในการจัดการเอกสารที่ซับซ้อน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของ บริษัท A
- ลดภาระของลูกค้า: บริษัท A สามารถมุ่งเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ ของการเปิดตัว JV โดยไม่ต้องกังวลกับกระบวนการ Legalization ที่ซับซ้อน
ความสำเร็จในกรณีศึกษานี้ตอกย้ำถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของ NYC+ ในการเป็น "One-Stop Service" ที่แท้จริง สำหรับการจัดการเอกสารทางกฎหมายระหว่างประเทศที่ท้าทายที่สุด
บทสรุป: ประสบการณ์และความใส่ใจคือหัวใจสำคัญ
กรณีศึกษาการรับรองเอกสารสัญญา JV สำหรับ 3 ประเทศนี้ แสดงให้เห็นว่าการจัดการกระบวนการ Legalization และ Apostille ที่ซับซ้อนและมีข้อจำกัดด้านเวลา ต้องอาศัยมากกว่าแค่ความรู้ในขั้นตอน แต่ต้องประกอบด้วย:
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกฎระเบียบ ข้อกำหนด และระยะเวลาดำเนินการที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศและสถานทูต
- การวางแผนเชิงกลยุทธ์: ความสามารถในการมองภาพรวม สร้างแผนผังกระบวนการ จัดลำดับความสำคัญ และบริหารจัดการทรัพยากร (เวลา, ทีมงาน, นักแปล) อย่างมีประสิทธิภาพ
- การประสานงานที่ยอดเยี่ยม: ทักษะในการติดต่อสื่อสารและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- ความใส่ใจในรายละเอียด: ความรอบคอบในการตรวจสอบเอกสารทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจทำให้กระบวนการล่าช้า
- เครือข่ายที่แข็งแกร่ง: การมีเครือข่ายนักแปลมืออาชีพและบริการจัดส่งที่เชื่อถือได้
ที่ NYC+ เราไม่ได้เป็นเพียงผู้รับดำเนินการยื่นเอกสาร แต่เราคือ ที่ปรึกษาและผู้จัดการโครงการ (Project Manager) ที่ช่วยดูแลกระบวนการ Legalization ที่ซับซ้อนทั้งหมดให้กับคุณตั้งแต่ต้นจนจบ เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของลูกค้า และพร้อมนำประสบการณ์นี้มาปรับใช้เพื่อช่วยเหลือธุรกิจของคุณในการก้าวข้ามความท้าทายด้านเอกสารในเวทีโลก
หากองค์กรของคุณกำลังเผชิญกับความท้าทายในการรับรองเอกสารสำหรับหลายประเทศ หรือมีกำหนดเวลาที่เร่งด่วน อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา
ทำไม NYC+ จึงเป็นคำตอบสำหรับเคส Legalization ที่ซับซ้อน?
จากกรณีศึกษาข้างต้น ตอกย้ำถึงเหตุผลที่องค์กรชั้นนำไว้วางใจให้ NYC+ จัดการงาน Legalization ที่สำคัญและท้าทาย:
Expertise (ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง)
เราไม่ใช่แค่ Notary หรือบริษัทแปลทั่วไป ทีมงานของเราคือผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจ "ระบบนิเวศ" ทั้งหมดของการรับรองเอกสารระหว่างประเทศ ตั้งแต่กฎหมาย Notary, ข้อกำหนดกงสุลไทย, ไปจนถึงระเบียบปฏิบัติเฉพาะของแต่ละสถานทูต (Apostille vs Legalization, ข้อกำหนดภาษา, ค่าธรรมเนียม)
Experience (ประสบการณ์ตรงกับเคสยาก)
กว่า 15 ปีที่เราได้สั่งสมประสบการณ์จากการจัดการเคส Legalization ที่หลากหลายและซับซ้อนมานับไม่ถ้วน เราคุ้นเคยกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและรู้วิธีแก้ไขเฉพาะหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถบริหารจัดการโครงการที่มีความเสี่ยงสูงและข้อจำกัดด้านเวลาได้
Authoritativeness (ได้รับการยอมรับ)
การรับรองโดยทนายความ Notary ของเราเป็นที่ยอมรับจากกรมการกงสุลและสถานทูตต่างๆ เรามีสถานะเป็นผู้ให้บริการทางกฎหมายที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ ทำให้เอกสารของคุณผ่านกระบวนการได้อย่างราบรื่น
Trustworthiness (ความไว้วางใจและการสื่อสาร)
เราให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่โปร่งใสและชัดเจนกับลูกค้า คุณจะได้รับทราบความคืบหน้าเป็นระยะ พร้อมการดูแลจัดการเอกสารที่เป็นความลับของคุณด้วยมาตรฐานสูงสุด ดังที่พิสูจน์แล้วจากความไว้วางใจของลูกค้าองค์กรและคะแนนรีวิวที่ยอดเยี่ยม
ต้องการปรึกษาเคส Legalization หรือ Apostille?
ไม่ว่าเอกสารของคุณจะต้องใช้ในประเทศเดียวหรือหลายประเทศ มีความซับซ้อนเพียงใด หรือมีเวลาจำกัดแค่ไหน ทีมงาน NYC+ พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการดำเนินการให้คุณฟรี!
ที่ตั้งสำนักงานสาขาหลัก
สำนักงานใหญ่ (กรุงเทพฯ)
61 ซอยลาดพร้าว 95 (ปรางค์ทิพย์), แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์, เขตวังทองหลาง, กรุงเทพมหานคร 10310 เวลาทำการ: จ-ศ 09:00-18:00 น.สาขาขอนแก่น
95 โครงการเดอะวอลล์ ถ.รื่นรมย์, ต.ในเมือง, อ.เมือง, จ.ขอนแก่น 40000 เวลาทำการ: จ-ศ 09:00-18:00 น.สาขาอุดรธานี
31/43 ถ.ศรีชมชื่น, ต.หมากแข้ง, อ.เมืองอุดรธานี, จ.อุดรธานี 41000 เวลาทำการ: จ-ศ 09:00-18:00 น.ค้นหาสาขาตัวแทน 50 เขตในกรุงเทพฯ และ 77 จังหวัดทั่วประเทศ
กรุงเทพมหานคร (50 เขต)
เขตคลองเตย: 1/1 อาคารเอ็มโพเรียม ทาวเวอร์
เขตคลองสาน: ชั้น G ไอคอนสยาม
เขตคลองสามวา: 99/9 บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุวินทวงศ์
เขตคันนายาว: ชั้น 2 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์
เขตจตุจักร: ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว
เขตจอมทอง: 333/1 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน
เขตดอนเมือง: 222/77 สนามบินดอนเมือง
เขตดินแดง: 111/22 อาคารฟอร์จูนทาวน์
เขตดุสิต: 99/9 อาคารศุภาลัย พรีมา ริวา
เขตตลิ่งชัน: 89 โครงการเดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์
เขตทวีวัฒนา: 188/88 หมู่บ้านกรีนวิลล์
เขตทุ่งครุ: 78/123 ถนนประชาอุทิศ
เขตธนบุรี: 99 โครงการเสริมศุข พลาซ่า
เขตบางกอกน้อย: ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
เขตบางกอกใหญ่: 112/5 ถนนอรุณอมรินทร์
เขตบางกะปิ: ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
เขตบางขุนเทียน: 160/3 ถนนพระรามที่ 2
เขตบางเขน: 33/44 ถนนพหลโยธิน
เขตบางคอแหลม: 2210/8 โครงการเทอร์มินอล 21 พระราม 3
เขตบางแค: ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางแค
เขตบางซื่อ: 108/1 โครงการเกตเวย์ แอท บางซื่อ
เขตบางนา: 428 อาคารบางนา ทาวเวอร์ A
เขตบางบอน: 25/25 ถนนเอกชัย
เขตบางพลัด: ชั้น 1 ตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี
เขตบางรัก: ชั้น 12 อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์
เขตบึงกุ่ม: 55/55 ถนนประเสริฐมนูกิจ
เขตปทุมวัน: ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
เขตประเวศ: ชั้น 2 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย: 447 ถนนหลวง
เขตพญาไท: ชั้น 10 อาคารพหลโยธินเพลส
เขตพระโขนง: 101 อาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค
เขตพระนคร: 155 ถนนจักรพงษ์
เขตภาษีเจริญ: ชั้น 3 ศูนย์การค้าซีคอน บางแค
เขตมีนบุรี: ชั้น 1 โลตัส มีนบุรี
เขตยานนาวา: 999/9 อาคารสำนักงานเซ็นทรัล พระราม 3
เขตราชเทวี: ชั้น 2 อาคารเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า
เขตราษฎร์บูรณะ: 444/1 ถนนราษฎร์บูรณะ
เขตลาดกระบัง: 98/9 โครงการโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง
เขตลาดพร้าว: 555 โครงการเดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา
เขตวังทองหลาง: 61 ซอยลาดพร้าว 95 (สำนักงานใหญ่)
เขตวัฒนา: 88/8 สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)
เขตสวนหลวง: 99/99 โครงการธัญญาพาร์ค
เขตสะพานสูง: 111/2 โครงการสัมมากรเพลส รามคำแหง 110
เขตสัมพันธวงศ์: 222 ถนนเยาวราช
เขตสาทร: ชั้น 15 อาคารสาทร สแควร์
เขตสายไหม: 9/99 ถนนสุขาภิบาล 5
เขตหนองแขม: 888/11 ถนนเพชรเกษม
เขตหนองจอก: ชั้น 1 บิ๊กซี หนองจอก
เขตหลักสี่: ชั้น 2 ไอที สแควร์ หลักสี่
เขตห้วยขวาง: ชั้น 22 อาคาร G Tower
ภาคกลาง
กาญจนบุรี: 87 ถ.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ
ชัยนาท: 222/55 ถ.วงษ์โต ต.ในเมือง
นครนายก: ชั้น 1 โลตัส นครนายก
นครปฐม: ชั้น 2 เซ็นทรัล นครปฐม
นนทบุรี: ชั้น 3 เซ็นทรัล เวสต์เกต
ปทุมธานี: ชั้น 2 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน): 31/768 ซ.หมู่บ้าน ทางรถไฟตะวันตก
พระนครศรีอยุธยา: ชั้น 1 เซ็นทรัล อยุธยา
เพชรบุรี: ชั้น 1 โรบินสัน เพชรบุรี
ราชบุรี: ชั้น 1 โรบินสัน ราชบุรี
ลพบุรี: 299/1-2 ถ.นเรศวร ต.ทะเลชุบศร
สมุทรปราการ: ชั้น 3 เมกาบางนา
สมุทรสงคราม: 125/11 ถ.ทางเข้าเมือง ต.แม่กลอง
สมุทรสาคร: ชั้น 1 เซ็นทรัล มหาชัย
สระบุรี: 111/1 ถ.พหลโยธิน ต.ปากเพรียว
สิงห์บุรี: 955/89 ถ.วิไลจิตต์ ต.บางพุทรา
สุพรรณบุรี: ชั้น 1 โรบินสัน สุพรรณบุรี
อ่างทอง: 23/1 ถ.อ่างทอง-สิงห์บุรี ต.ตลาดหลวง
ภาคตะวันออก
จันทบุรี: ชั้น G เซ็นทรัล จันทบุรี
ฉะเชิงเทรา: 88/1-2 ถ.ศรีโสธรตัดใหม่
ชลบุรี (พัทยา): 415/17 เฉลิมพระเกียรติ 18
ตราด: 99/9 ถ.สุขุมวิท ต.วังกระแจะ
ปราจีนบุรี: 63/1 ถ.ราษฎรดำริ ต.หน้าเมือง
ระยอง: 99 ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่
สระแก้ว: 44/14-15 ถ.สุวรรณศร ต.สระแก้ว
ภาคเหนือ
ตาก: ชั้น 1 โรบินสัน แม่สอด
เชียงราย: 70 หมู่ 5 ถ.เวียงชัย-บ้านเหล่า
เชียงใหม่: 140/74 M.2 หนองป่าครั่ง
น่าน: 11/1 ถ.มหายศ ต.ในเวียง
พะเยา: ชั้น 1 ท็อปส์ พลาซ่า พะเยา
พิจิตร: 39/70 ถ.สระหลวง ต.ในเมือง
พิษณุโลก: ชั้น 3 เซ็นทรัล พิษณุโลก
เพชรบูรณ์: 26/2 ถ.สระบุรี-หล่มสัก
แพร่: 18/1 ถ.ยันตรกิจโกศล ต.ในเวียง
แม่ฮ่องสอน: 89/1 ถ.ขุนลุมประพาส
นครสวรรค์: 299/300 หมู่4 ต.นครสวรรค์ตก
ลำปาง: 260/239 ถ.ฉัตรไชย ต.สบตุ๋ย
ลำพูน: ชั้น 1 แจ่มฟ้าช้อปปิ้งมอลล์
สุโขทัย: 1/11 ถ.จรดวิถีถ่อง ต.ธานี
อุตรดิตถ์: ชั้น 1 ฟรายเดย์ สรรพสินค้า
อุทัยธานี: 123/1 ถ.ศรีอุทัย ต.อุทัยใหม่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ: ชั้น 1 โรบินสัน ชัยภูมิ
นครพนม: 222/1 ถ.อภิบาลบัญชา
นครราชสีมา: ชั้น 4 เดอะมอลล์ โคราช
บึงกาฬ: 249/12 ถ.บึงกาฬ-พังโคน
บุรีรัมย์: ชั้น 2 โรบินสัน บุรีรัมย์
มหาสารคาม: ชั้น 1 เสริมไทยคอมเพล็กซ์
มุกดาหาร: ชั้น 1 โรบินสัน มุกดาหาร
ยโสธร: 99/44 ถ.แจ้งสนิท ต.ในเมือง
ร้อยเอ็ด: 2 ถ.สันติสุข ต.ในเมือง
เลย: 123 ถ.ร่วมใจ ต.กุดป่อง
ศรีสะเกษ: 88/11 ถ.ขุขันธ์ ต.เมืองใต้
สกลนคร: 1294/4 ถ.สุขเกษม
สุรินทร์: ชั้น 1 โรบินสัน สุรินทร์
หนองคาย: 161 หมู่ 1 ต.ปะโค
หนองบัวลำภู: 155/1 หมู่ 3 ถ.อุดร-เลย
อำนาจเจริญ: 199/88 ถ.ชยางกูร
อุบลราชธานี: ชั้น 3 เซ็นทรัล อุบลราชธานี
ภาคใต้
กระบี่: ชั้น G โวค ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์
ชุมพร: 188/5 ถ.ปรมินทรมรรคา
ตรัง: ชั้น 1 โรบินสัน ตรัง
นครศรีธรรมราช: 10 ถ.ราชดำเนิน 75
นราธิวาส: 45/12-13 ถ.ภูผาภักดี
ปัตตานี: 33/4 ถ.เจริญประดิษฐ์
พังงา: 88/2 ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง
พัทลุง: 112/15 ถ.ราเมศวร์
ภูเก็ต: 114/12 ถ.ปฎิพัทธ์ ต.ตลาดเหนือ
ยะลา: 14-16 ถ.สิโรรส ต.สะเตง
ระนอง: 333/3 ถ.เรืองราษฎร์
สงขลา (หาดใหญ่): นิพัทธ์ภักดี ต.หาดใหญ่
สตูล: 12/8 ถ.สตูลธานี ต.พิมาน
สุราษฎร์ธานี: ชั้น 2 เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี