พบข้อผิดพลาด? นี่คือสิ่งที่ควรทำทันที (Answer-First)

หากคุณเพิ่งพบข้อผิดพลาดในเอกสารที่ผ่านการรับรอง Notary Public ไปแล้ว เช่น สะกดชื่อผิด, ใส่วันที่ผิด, หรือพิมพ์ตัวเลขตกหล่น คำตอบที่ถูกต้องมีเพียง 2 ทางเลือกเท่านั้น:

  1. จัดทำเอกสารฉบับใหม่ที่ถูกต้องทั้งหมด แล้วนำมารับรอง Notary ใหม่อีกครั้ง (ดีที่สุดสำหรับข้อผิดพลาดร้ายแรง)
  2. จัดทำ "คำให้การชี้แจงแก้ไข" (Affidavit of Correction) โดยผู้ลงนามเดิมต้องมาสาบานตนและลงนามต่อหน้า Notary เพื่อยืนยันการแก้ไข (สำหรับข้อผิดพลาดเล็กน้อย)

สิ่งที่คุณ "ห้ามทำเด็ดขาด" คือการขีดฆ่า, ใช้น้ำยาลบคำผิด, หรือแก้ไขใดๆ บนเอกสารฉบับเดิมด้วยตัวเอง

การตรวจพบข้อผิดพลาดบนเอกสารสำคัญหลังจากที่ผ่านการรับรองโดย Notary Public (ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร) ไปแล้ว ถือเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney), สัญญาทางธุรกิจ, เอกสารรับรองบุตร, หรือเอกสารแสดงสถานะโสดเพื่อใช้ในต่างประเทศ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้เอกสารนั้นถูกปฏิเสธการใช้งานโดยหน่วยงานปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นสถานทูต, กรมการกงสุล, หรือคู่ค้าในต่างประเทศ

บทความนี้จัดทำโดยทีมทนายความ Notary Public จาก NYC Translation and Notary Service ผู้มีประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการจัดการเอกสารกว่า 10,000 ฉบับต่อปี เราจะอธิบายอย่างละเอียดถึงขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายในการแก้ไขสถานการณ์นี้ เหตุผลทางกฎหมายว่าทำไมคุณถึงไม่สามารถแก้ไขเองได้ และแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

กฎเหล็ก: ห้ามขีดฆ่า, ลบ, หรือแก้ไขเอกสารที่รับรองแล้วด้วยตัวเองเด็ดขาด!

คำเตือน: การแก้ไขเอกสารเองจะทำให้ "เป็นโมฆะ" ทันที

การกระทำใดๆ ก็ตามที่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาบนเอกสาร "หลังจาก" ที่ Notary Public ได้ลงนามและประทับตราไปแล้ว ถือเป็นการ "ปลอมแปลง" หรือ "แก้ไขเปลี่ยนแปลง" (Tampering) เอกสาร ซึ่งจะทำให้การรับรองของ Notary Public สิ้นผลไปทันที และเอกสารฉบับนั้นจะกลายเป็นโมฆะ (Void) ในทางกฎหมายทันที

หลายคนอาจคิดว่า "ก็แค่สะกดผิดนิดหน่อย" หรือ "เดี๋ยวใช้น้ำยาลบคำผิดแล้วพิมพ์ใหม่" หรือ "แค่ขีดฆ่าแล้วเซ็นชื่อกำกับ" การกระทำเหล่านี้คือความผิดพลาดร้ายแรงที่จะทำลายเอกสารทั้งฉบับ เหตุผลหลักคือ:

1. ทำลายความสมบูรณ์ของเอกสาร (Document Integrity)

หัวใจของการรับรอง Notary Public คือการยืนยันว่าเอกสารฉบับนั้นมีความสมบูรณ์ ณ เวลาที่ผู้ลงนามมาปรากฏตัวต่อหน้า Notary หากมีการแก้ไขเกิดขึ้น "ภายหลัง" ก็จะเกิดคำถามทันทีว่า ส่วนที่แก้ไขนั้นใครเป็นคนแก้? แก้เมื่อไหร่? และผู้ลงนามรับทราบถึงการแก้ไขนั้นหรือไม่? Notary ไม่สามารถรับรองการแก้ไขที่เกิดขึ้นโดยที่ตนไม่เห็นได้

2. หน้าที่ของ Notary คือการยืนยันตัวตน ไม่ใช่เนื้อหา

Notary Public มีหน้าที่หลักในการ "ยืนยันตัวตนของผู้ลงนาม" (Verify Signer's Identity) และ "ยืนยันว่าผู้ลงนามได้ลงนามโดยสมัครใจ" (Voluntary Signature) ณ วันที่และเวลาที่ระบุไว้ในคำรับรอง Notary ไม่ได้มีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องของ "เนื้อหา" (Content) ในเอกสาร (เว้นแต่จะเป็นการรับรองคำแปล)

ดังนั้น เมื่อ Notary รับรองเอกสารไปแล้ว ถือว่าภารกิจของพวกเขาเสร็จสิ้นสมบูรณ์สำหรับเอกสาร "เวอร์ชันนั้น" หากเนื้อหามีการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องถือเป็นเอกสารฉบับใหม่ที่ต้องรับรองใหม่

3. การปฏิเสธจากหน่วยงานปลายทาง (Embassies & Consulates)

เอกสารที่รับรอง Notary ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในต่างประเทศ หรือยื่นต่อสถานทูตและกรมการกงสุล (เพื่อทำ Legalization หรือ Apostille) หน่วยงานเหล่านี้มีมาตรฐานการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก หากเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการขีดฆ่า, การใช้น้ำยาลบคำผิด, หรือการแก้ไขใดๆ ที่ไม่เป็นไปตามแบบแผน เอกสารนั้นจะถูกปฏิเสธทันที ทำให้คุณเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด

สิ่งที่ "ห้ามทำ" โดยเด็ดขาด

  • ห้ามใช้น้ำยาลบคำผิด (White-out) แล้วพิมพ์ทับ
  • ห้ามขีดฆ่า (Cross-out) คำที่ผิด แล้วเขียนคำที่ถูกไว้ด้านบนหรือด้านข้าง
  • ห้ามเซ็นชื่อกำกับการขีดฆ่า (ถึงแม้จะเป็นผู้ลงนามคนเดิมก็ตาม)
  • ห้ามพยายามลอกตราประทับ Notary หรือลายเซ็นเพื่อไปแปะหน้าใหม่
  • ห้ามพิมพ์หน้าที่มีข้อผิดพลาดใหม่แล้วนำมาสอดไส้แทนหน้าเดิมในชุดเอกสาร

วิธีที่ถูกต้อง: 2 ทางเลือกในการแก้ไขเอกสาร Notary ที่ผิดพลาด

เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าห้ามแก้ไขเอกสารเดิม ตอนนี้เรามาดู 2 วิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายในการจัดการกับปัญหานี้ การเลือกวิธีใดขึ้นอยู่กับ "ความร้ายแรง" ของข้อผิดพลาด

ทางเลือกที่ 1 (ดีที่สุด): จัดทำเอกสารฉบับใหม่ที่ถูกต้องทั้งหมด (New Document)

(แนะนำสำหรับข้อผิดพลาดร้ายแรง: ผิดชื่อ, ผิดจำนวนเงิน, ผิดวัตถุประสงค์)


นี่คือวิธีที่สะอาดที่สุด, ถูกต้องที่สุด, และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากข้อผิดพลาดนั้นเป็น "ข้อผิดพลาดในสาระสำคัญ" (Material Error) เช่น:

  • สะกดชื่อ หรือ นามสกุลผิด (จนอาจหมายถึงคนละคน)
  • ตัวเลขจำนวนเงิน, จำนวนหุ้น, หรือตัวเลขสำคัญผิดพลาด
  • วันที่ในเนื้อหาของสัญญาผิด (เช่น วันที่เริ่มสัญญา)
  • ขอบเขตของการมอบอำนาจผิดพลาด (เช่น มอบอำนาจให้ขาย แต่พิมพ์เป็นให้เช่า)
  • เลขที่โฉนด, เลขที่หนังสือเดินทาง, หรือเลขบัตรประชาชนผิด

ขั้นตอนการดำเนินการ

  1. หยุดใช้เอกสารเดิม: แจ้งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบว่าเอกสารฉบับเดิมมีข้อผิดพลาดและห้ามนำไปใช้งาน
  2. ร่างเอกสารใหม่: จัดทำเอกสารฉบับใหม่ทั้งหมด โดยแก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาดให้ถูกต้อง 100%
  3. ตรวจสอบซ้ำ: ตรวจสอบเอกสารฉบับใหม่อย่างละเอียดถี่ถ้วน (ดู Checklist ในส่วนท้าย)
  4. นัดหมาย Notary: นัดหมายทนายความ Notary Public (จะเป็นคนเดิมหรือคนใหม่ก็ได้)
  5. ลงนามและรับรองใหม่: ผู้ลงนาม "คนเดิม" จะต้องมาปรากฏตัวต่อหน้า Notary Public อีกครั้ง พร้อมบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง เพื่อลงนามในเอกสารฉบับใหม่นี้
  6. ชำระค่าบริการ: การดำเนินการนี้ถือเป็นการ "รับรองเอกสารครั้งใหม่" จึงมีค่าบริการรับรอง Notary Public ตามปกติ (ที่ NYC+ ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท)

ข้อดี: ได้เอกสารที่ถูกต้องสมบูรณ์ 100% ไม่มีข้อโต้แย้งในอนาคต เป็นที่ยอมรับของทุกหน่วยงาน

ข้อเสีย: เสียเวลาในการเตรียมเอกสารใหม่ และมีค่าใช้จ่ายในการรับรองใหม่

ทางเลือกที่ 2 (สำหรับข้อผิดพลาดเล็กน้อย): จัดทำ "คำให้การชี้แจงแก้ไข" (Affidavit of Correction)

(สำหรับข้อผิดพลาดเล็กน้อย: พิมพ์ผิด, สะกดผิดเล็กน้อย, วันที่คลาดเคลื่อนเล็กน้อย)


หากข้อผิดพลาดนั้นเป็น "ข้อผิดพลาดเล็กน้อย" (Minor Error หรือ Scrivener's Error) ที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญของเอกสาร เช่น:

  • สะกดชื่อผิดเล็กน้อย (เช่น "จิรพันธ์" พิมพ์เป็น "จิรพันธุ์" แต่ข้อมูลอื่นถูกต้องทั้งหมด)
  • พิมพ์ที่อยู่ผิดเล็กน้อย (เช่น พิมพ์ "ซอย 10" เป็น "ซอย 19" แต่บ้านเลขที่และถนนถูก)
  • พิมพ์วันที่ผิดเล็กน้อย (เช่น วันที่ในเนื้อหาเอกสารควรเป็น 23 ตุลาคม แต่พิมพ์เป็น 24 ตุลาคม)

ในกรณีนี้ คุณสามารถจัดทำเอกสารอีก 1 ฉบับ เรียกว่า "Affidavit of Correction" (คำให้การชี้แจงแก้ไข) หรือ "Affidavit of Clarification" (คำให้การชี้แจงให้กระจ่าง)

Affidavit of Correction คืออะไร?

มันคือเอกสารที่ผู้ลงนามคนเดิม (Signer) ทำขึ้นเพื่อ "สาบานตน" ต่อหน้า Notary Public ว่า เอกสารฉบับเดิม (ระบุรายละเอียด) ที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่... มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในส่วนใด (ระบุ) และข้อความที่ถูกต้องแท้จริงคืออะไร (ระบุ) โดยเอกสารนี้จะต้องถูกรับรอง Notary Public และนำไปเย็บติด "แนบไปพร้อมกับ" เอกสารฉบับเดิมที่มีข้อผิดพลาด

ขั้นตอนการดำเนินการ

  1. ร่าง Affidavit: ผู้ลงนาม (หรือทนายความ) ร่างคำให้การชี้แจงแก้ไข โดยระบุ
    • รายละเอียดของเอกสารฉบับเดิม (ชื่อเอกสาร, วันที่รับรอง, ชื่อผู้ลงนาม)
    • ระบุข้อความที่ผิดพลาด (เช่น "WHEREAS, page 2, paragraph 3, incorrectly states 'Mr. Jirapan'...")
    • ระบุข้อความที่ถูกต้อง (e.g., "...NOW, THEREFORE, the correct spelling should be 'Mr. Jiraphan'...")
  2. นัดหมาย Notary: นัดหมายทนายความ Notary Public
  3. ลงนามและรับรอง Affidavit: ผู้ลงนาม "คนเดิม" จะต้องมาปรากฏตัวต่อหน้า Notary เพื่อลงนามใน "Affidavit of Correction" นี้ (ไม่ใช่เอกสารเดิม)
  4. ชำระค่าบริการ: การรับรอง Affidavit ถือเป็นการ "รับรองเอกสารครั้งใหม่" จึงมีค่าบริการ Notary Public ตามปกติ (เริ่มต้น 1,500 บาท)
  5. แนบเอกสาร: นำ Affidavit ที่รับรองแล้ว ไปเย็บติดกับเอกสารฉบับเดิมที่มีข้อผิดพลาด ต้องใช้คู่กันเสมอ ห้ามแยกจากกัน

ข้อดี: เร็วกว่าการทำเอกสารใหม่ทั้งหมด ไม่ต้องร่างเอกสารหลักใหม่ (โดยเฉพาะสัญญายาวๆ)

ข้อเสีย: เอกสารจะมี 2 ส่วน (ฉบับเดิม + ฉบับแก้ไข) อาจสร้างความสับสนเล็กน้อย และบางหน่วยงานปลายทางที่เข้มงวดมากๆ อาจยังคงต้องการเอกสารฉบับใหม่ที่ถูกต้อง 100% อยู่ดี

เจาะลึกตัวอย่างสถานการณ์: ข้อผิดพลาดแบบไหน แก้ไขอย่างไร?

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูสถานการณ์ที่พบบ่อยและแนวทางแก้ไขที่ NYC+ แนะนำ

สถานการณ์ที่ 1: "สะกดชื่อผิด" (Misspelled Name)

ปัญหา: หนังสือมอบอำนาจ พิมพ์ชื่อผู้รับมอบอำนาจ "นายสมชาย รักดี" เป็น "นายสมซาย รักดี"

การประเมิน: นี่คือข้อผิดพลาดที่ค่อนข้างร้ายแรง แม้จะดูเหมือนพิมพ์ผิดเล็กน้อย แต่ "สมชาย" กับ "สมซาย" อาจถูกตีความว่าเป็นคนละคน ทำให้ผู้รับมอบอำนาจไม่สามารถทำธุรกรรมแทนได้

วิธีแก้ไขที่แนะนำ: ทางเลือกที่ 1 (จัดทำเอกสารใหม่)

เหตุผล: การใช้ Affidavit of Correction อาจถูกปฏิเสธจากหน่วยงานปลายทาง (เช่น กรมที่ดิน หรือธนาคาร) ที่ต้องการความชัดเจน 100% ว่าผู้รับมอบอำนาจคือ "นายสมชาย รักดี" การทำเอกสารฉบับใหม่ที่ถูกต้องทั้งหมดเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

สถานการณ์ที่ 2: "ใส่วันที่ผิด" (Incorrect Date)

ปัญหา: ในสัญญาเช่าที่ลงนามและรับรอง Notary วันที่ 23 ตุลาคม 2024 แต่ในเนื้อหาสัญญาระบุว่า "สัญญาเช่านี้ให้มีผลเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2023" (ผิดปี)

การประเมิน: นี่คือข้อผิดพลาดในสาระสำคัญ (Material Error) เพราะกระทบต่ออายุสัญญาและวันเริ่มต้นที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย

วิธีแก้ไขที่แนะนำ: ทางเลือกที่ 1 (จัดทำเอกสารใหม่)

เหตุผล: หากใช้ Affidavit of Correction เพื่อเปลี่ยนวันที่ ย่อมแสดงว่าเจตนาเดิมขัดแย้งกับความเป็นจริง อาจนำไปสู่ข้อโต้แย้งทางกฎหมายในอนาคต ควรสร่างสัญญาทั้งหมดใหม่ให้ถูกต้อง และลงนามรับรองใหม่

สถานการณ์ที่ 3: "พิมพ์ผิดเล็กน้อย" (Typographical Error)

ปัญหา: เอกสารรับรองสถานะโสด (Single Status Affidavit) พิมพ์ที่อยู่ของผู้ลงนามว่า "61 ซอยลาดพร้าว 95... กรุงเทพมหานคร 10310" แต่ความจริงคือ "แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์" แต่พิมพ์ตกไป

การประเมิน: นี่คือข้อผิดพลาดเล็กน้อย (Minor Error) เนื่องจากสาระสำคัญของเอกสารคือการยืนยัน "สถานะโสด" และที่อยู่ส่วนอื่น (บ้านเลขที่, ซอย, ถนน, เขต, รหัสไปรษณีย์) ยังคงถูกต้องและสามารถระบุตัวตนได้

วิธีแก้ไขที่แนะนำ: ทางเลือกที่ 2 (จัดทำ Affidavit of Correction)

เหตุผล: การทำ Affidavit เพื่อ "ชี้แจงเพิ่มเติม" (Clarification) ว่าที่อยู่ที่ถูกต้องมีรายละเอียด... เพิ่มเติม จะเพียงพอต่อการใช้งานและประหยัดเวลากว่าการร่างเอกสารใหม่ทั้งหมด

สถานการณ์ที่ 4: "Notary Public เป็นผู้ทำข้อมูลผิดพลาดเอง"

ปัญหา: คุณลงนามเอกสารวันที่ 23 ตุลาคม แต่ Notary ประทับตราและลงวันที่ในคำรับรอง (Notarial Certificate) เป็นวันที่ 24 ตุลาคม

การประเมิน: นี่คือข้อผิดพลาดของ Notary เอง ซึ่งกระทบต่อความถูกต้องของการรับรอง

วิธีแก้ไขที่แนะนำ: ติดต่อ Notary คนเดิมทันที

เหตุผล: Notary จะต้องแก้ไขคำรับรองของตนเอง โดยทั่วไป Notary จะไม่ขีดฆ่าบนเอกสาร แต่จะ "ยกเลิก" การรับรองนั้น และ "ออกคำรับรองใหม่" (New Certificate) โดยลงวันที่ให้ถูกต้อง (อาจจะต้องทำในเอกสารฉบับใหม่ หรือแนบคำรับรองใหม่ไปกับเอกสารเดิม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและข้อบังคับ) โดย Notary ไม่ควรคิดค่าบริการเพิ่มเติมในกรณีนี้

ความสำคัญของการตรวจทานเอกสารอย่างละเอียด "ก่อน" การรับรอง

วิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด คือการ "ป้องกัน" ไม่ให้เกิดปัญหาตั้งแต่แรก จากประสบการณ์ 15 ปีของ NYC+ เราพบว่า 99% ของข้อผิดพลาดสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการตรวจทานอย่างรอบคอบ

Checklist ที่คุณต้องตรวจสอบ "ก่อน" ยื่นให้ Notary

ก่อนที่คุณจะเดินทางมาพบ Notary หรือแม้กระทั่งก่อนพิมพ์เอกสารฉบับจริง โปรดตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวคุณเองอย่างน้อย 3 รอบ:

  • การสะกดชื่อ-นามสกุล: ตรวจสอบทุกตัวอักษร ให้ตรงตามหน้าหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน (ID Card) ทุกประการ ทั้งชื่อผู้ลงนาม, ชื่อคู่สมรส, ชื่อบุตร, หรือชื่อคู่สัญญา
  • ตัวเลขทั้งหมด: ตรวจสอบ วัน/เดือน/ปีเกิด, วันที่ในสัญญา, จำนวนเงิน, บ้านเลขที่, รหัสไปรษณีย์, เลขที่หนังสือเดินทาง, เลขที่บัตรประชาชน, เลขที่โฉนดที่ดิน
  • ข้อมูลเฉพาะ: ตรวจสอบชื่อสถานที่, ชื่อบริษัท, ตำแหน่ง, เขต, แขวง, จังหวัด ให้ถูกต้องตามเอกสารอ้างอิง
  • ความสอดคล้อง: หากเอกสารมีหลายหน้า ตรวจสอบว่าชื่อที่อ้างอิงในหน้า 1 ตรงกับชื่อในหน้า 5 หรือไม่
  • การเว้นว่าง: ตรวจสอบว่าไม่มีช่องว่างที่ "ควรต้องเติม" แต่ถูกเว้นไว้ (เว้นแต่ช่องนั้นตั้งใจเว้นไว้ให้เติมภายหลัง)
  • ลำดับหน้า: ตรวจสอบว่าเอกสารมีเลขหน้าครบถ้วน และเรียงลำดับถูกต้อง

บทบาทของ Notary ในการตรวจสอบ

โปรดทราบว่า Notary Public ไม่ใช่ผู้พิสูจน์อักษร (Proofreader) พวกเขามีหน้าที่ยืนยันตัวตน ไม่ใช่ตรวจสอบเนื้อหา อย่างไรก็ตาม ที่ NYC+ ทนายความ Notary ของเราจะช่วย "สแกน" เอกสารเบื้องต้นให้คุณ และหากพบข้อผิดพลาดที่ชัดเจน (เช่น สะกดชื่อผู้ลงนามผิด ทั้งๆ ที่คุณยื่นบัตรประชาชนให้ดู) เราจะทักท้วงให้คุณแก้ไขก่อนรับรองเสมอ นี่คือบริการเสริมจากความเชี่ยวชาญของเราเพื่อป้องกันปัญหาให้คุณ

(แนะนำ) อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: Checklist เตรียมเอกสารก่อนมาพบ Notary Public

ค่าบริการสำหรับการรับรองใหม่ หรือการทำ Affidavit of Correction

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ การแก้ไขข้อผิดพลาด ถือเป็นการดำเนินการรับรอง Notary Public "ครั้งใหม่" ไม่ใช่การ "แก้ไข" งานเดิม

ไม่ว่าคุณจะเลือกทางเลือกที่ 1 (ทำเอกสารใหม่) หรือทางเลือกที่ 2 (ทำ Affidavit of Correction) ผู้ลงนามจะต้องมาปรากฏตัวต่อหน้า Notary และ Notary จะต้องปฏิบัติหน้าที่, ลงนาม, และประทับตราอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นธุรกรรมใหม่

  • ค่าบริการรับรองเอกสาร Notary Public (สำหรับเอกสารใหม่ หรือ Affidavit): ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท (ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเอกสาร)
  • ค่าบริการแปลเอกสาร (หาก Affidavit ต้องแปล): ภาษาไทย-อังกฤษ เริ่มต้น 500 บาท
  • ค่าบริการภาษาอื่นๆ: กรุณาส่งเอกสารเข้ามาสอบถามราคา

ข้อยกเว้น: หากข้อผิดพลาดเกิดจาก Notary Public ของเราเอง (เช่น ลงวันที่ในคำรับรองผิด) เราจะดำเนินการแก้ไขให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทำไมต้องเลือก NYC+ ให้ดูแลการแก้ไขเอกสาร Notary ของคุณ? (E-E-A-T)

การแก้ไขเอกสารที่ผิดพลาดมีความซับซ้อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจริง การเลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการแก้ไขนั้นถูกต้องและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

□‍⚖️

EXPERTISE (ความเชี่ยวชาญ)

เราไม่ใช่แค่ Notary แต่เราคือ "ทนายความ" ที่ได้รับใบอนุญาต Notary Public (Attorney-at-Law & Notary Public) เราเข้าใจผลกระทบทางกฎหมายของเอกสารแต่ละประเภทอย่างลึกซึ้ง

esperienza

EXPERIENCE (ประสบการณ์)

ประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการให้บริการองค์กรและลูกค้ารายย่อยกว่า 500+ บริษัท จัดการเอกสารกว่า 10,000+ ฉบับต่อปี เรา "เคยเห็น" ข้อผิดพลาดมาแล้วทุกรูปแบบ

AUTHORITY

AUTHORITATIVENESS (ความน่าเชื่อถือ)

เราได้รับการรับรองจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย และเอกสารที่รับรองโดยเราเป็นที่ยอมรับจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตทั่วโลก

TRUST (ความไว้วางใจ)

เครือข่าย 50 เขตในกรุงเทพฯ และ 77 จังหวัดทั่วไทย พร้อมรีวิวคะแนนสูงใน Google Business เราให้คำปรึกษาที่ตรงไปตรงมาและรวดเร็ว เพื่อแก้ปัญหาให้คุณทันที

ทีมทนายความ Notary Public และผู้ประสานงานของเรา

เรามีทีมงานทนายความ Notary Public ที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง พร้อมให้บริการคุณ

ทีมผู้ประสานงานมืออาชีพ

ทีมผู้ประสานงาน NYC+

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ไขเอกสาร (FAQ)

Q1: ฉันสามารถขีดฆ่าแล้วเซ็นชื่อกำกับเองได้หรือไม่?

ไม่ได้เด็ดขาด การขีดฆ่าและเซ็นชื่อกำกับเอง (แม้จะเป็นผู้ลงนามคนเดิม) จะทำให้เอกสารนั้นเป็นโมฆะทันที และจะถูกปฏิเสธจากกรมการกงสุลและสถานทูต เนื่องจากเป็นการแก้ไขเอกสารหลังจากที่ Notary ได้รับรองไปแล้ว ซึ่งทำลายความสมบูรณ์ของเอกสาร

Q2: Affidavit of Correction คืออะไร และใช้ได้ทุกกรณีหรือไม่?

Affidavit of Correction คือ 'คำให้การชี้แจงแก้ไข' เป็นเอกสารใหม่ที่ผู้ลงนามคนเดิมสาบานตนต่อหน้า Notary เพื่อชี้แจงว่าเอกสารเดิมมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย (เช่น พิมพ์ผิด) และข้อความที่ถูกต้องคืออะไร ใช้ได้เฉพาะกรณีข้อผิดพลาดเล็กน้อยเท่านั้น และต้องแนบไปกับเอกสารเดิมเสมอ หากเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรง (เช่น ผิดชื่อ, ผิดจำนวนเงิน) แนะนำให้ทำเอกสารฉบับใหม่

Q3: ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขเอกสารเท่าไหร่?

การแก้ไขเอกสารถือเป็นการดำเนินการรับรอง Notary 'ครั้งใหม่' ดังนั้นจึงมีค่าบริการตามปกติ ที่ NYC+ ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท ไม่ว่าจะสำหรับการรับรองเอกสารฉบับใหม่ หรือการรับรอง Affidavit of Correction

Q4: ต้องกลับไปหา Notary คนเดิมหรือไม่?

ไม่จำเป็น (เว้นแต่เป็นความผิดพลาดของ Notary เอง) คุณสามารถไปหา Notary Public ที่ได้รับอนุญาตคนใดก็ได้ เพื่อดำเนินการรับรองเอกสารฉบับใหม่ หรือรับรอง Affidavit of Correction แต่ผู้ที่ต้องมาลงนามคือ 'ผู้ลงนามคนเดิม' ที่ลงนามในเอกสารฉบับแรก

Q5: ถ้าเอกสารถูกนำไปรับรองที่กรมการกงสุลแล้ว จะแก้ไขอย่างไร?

นี่คือกรณีที่ซับซ้อนที่สุด หากเอกสารผ่านการรับรองจากกรมการกงสุลแล้ว การแก้ไขใดๆ หมายถึงคุณต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมด 100% คือ 1) จัดทำเอกสารฉบับใหม่ที่ถูกต้อง 2) นำไปรับรอง Notary Public ใหม่ 3) นำไปรับรองที่กรมการกงสุลใหม่อีกครั้ง และ 4) นำไปยื่นสถานทูตใหม่ (ถ้ามี) ไม่สามารถแก้ไขที่เอกสารเดิมได้เลย

Q6: จะป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดได้อย่างไร?

วิธีที่ดีที่สุดคือการตรวจทานอย่างละเอียด 'ก่อน' พิมพ์ฉบับจริงและ 'ก่อน' ยื่นให้ Notary ตรวจสอบการสะกดชื่อ-นามสกุล (เทียบกับ Passport), วันที่, ตัวเลข, ที่อยู่, และเลขที่เอกสารสำคัญทั้งหมด ให้เวลาตัวเองในการอ่านทวนอย่างน้อย 2-3 รอบ อ่าน Checklist ฉบับเต็มได้ที่นี่

ติดต่อเราทันทีหากคุณพบข้อผิดพลาด

อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดเล็กน้อยกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทีมทนายความ Notary Public ของ NYC+ พร้อมให้คำปรึกษาและหาทางแก้ไขที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลให้คุณ

สำนักงานใหญ่ (ลาดพร้าว 95):
61 ซอยลาดพร้าว 95, แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์, เขตวังทองหลาง, กรุงเทพมหานคร 10310
เปิดให้บริการ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09:00-18:00