ลูกค้าหลายท่านอาจเคยสงสัย หรือรู้สึกไม่พอใจเมื่อทนายความผู้ทำคำรับรอง หรือ Notary Public ปฏิเสธที่จะรับรองเอกสารให้ ทั้งๆ ที่ได้เตรียมเอกสารมาพร้อมแล้ว การปฏิเสธนี้ไม่ได้เกิดจากความไม่เต็มใจให้บริการ แต่เป็นผลมาจากการที่ Notary Public ต้องปฏิบัติตาม หลักจรรยาบรรณวิชาชีพและข้อกฎหมาย อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของเอกสารที่รับรอง และป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
ที่ NYC Plus เราเชื่อมั่นในความโปร่งใสและการให้ความรู้แก่ลูกค้า หน้านี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่ออธิบายถึง เหตุผลหลักๆ ที่ Notary Public อาจจำเป็นต้องปฏิเสธการให้บริการ พร้อมแนวทางการสื่อสารอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณเข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบอันสำคัญยิ่งของ Notary Public
ทำไมบางครั้งเราต้องปฏิเสธ? ความเข้าใจเบื้องหลังการทำงานของ Notary
Notary Public ไม่ใช่แค่ "ตรายาง" ที่ประทับรับรองเอกสารทุกฉบับที่นำมา แต่เป็น "เจ้าหน้าที่สาธารณะ" (Public Officer) ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐ (ผ่านสภาทนายความ) ให้ทำหน้าที่รับรองความถูกต้องของเอกสารและข้อเท็จจริงบางประการ การรับรองของ Notary มีผลผูกพันทางกฎหมายและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเอกสารนั้นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ดังนั้น Notary จึงมี หน้าที่ตามกฎหมายและจรรยาบรรณ (Legal and Ethical Duties) ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากสถานการณ์ใดสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้การรับรองนั้นไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจถูกนำไปใช้เพื่อการฉ้อโกง Notary จำเป็นต้องปฏิเสธ การให้บริการ เพื่อ:
- ปกป้องผู้ลงนาม: ป้องกันไม่ให้บุคคลลงนามในเอกสารโดยไม่เข้าใจ ไม่เต็มใจ หรือถูกหลอกลวง
- ปกป้องบุคคลที่สาม: ป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นที่ต้องเชื่อถือเอกสารที่ Notary รับรอง ได้รับความเสียหายจากการฉ้อโกง
- ปกป้องความสมบูรณ์ของระบบ Notary: รักษาระบบการรับรองเอกสารให้มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
- ปกป้องตัว Notary เอง: ป้องกันไม่ให้ Notary มีส่วนร่วมในการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยประมาทเลินเล่อ ซึ่งอาจนำไปสู่ความรับผิดทางแพ่งและอาญาได้
5 เหตุผลหลักที่ Notary Public อาจต้องปฏิเสธการให้บริการ
ต่อไปนี้คือเหตุผลสำคัญที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากลและข้อบังคับของสภาทนายความ ที่ทำให้ Notary Public ต้องปฏิเสธการรับรองเอกสาร:
เหตุผลที่ 1: ผู้ลงนามดูเหมือนไม่เต็มใจหรือถูกบังคับ (Lack of Willingness / Coercion)
หน้าที่ของ Notary: ต้องมั่นใจว่าผู้ลงนามกระทำการด้วยความสมัครใจ ปราศจากการข่มขู่ กดดัน หรืออิทธิพลครอบงำจากบุคคลอื่น (Duty to ensure willingness).
สัญญาณที่ต้องระวัง:
- ผู้ลงนามแสดงท่าทีลังเล ไม่สบายใจ หรือหวาดกลัว
- มีบุคคลอื่นคอยกำกับ ชี้นำ หรือตอบคำถามแทนผู้ลงนามตลอดเวลา
- ผู้ลงนามไม่สบตา หรือพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามเกี่ยวกับความสมัครใจ
- สถานการณ์แวดล้อมดูตึงเครียด หรือมีลักษณะเป็นการบังคับ
การดำเนินการของ Notary: หาก Notary สังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้ หรือไม่มั่นใจในความสมัครใจของผู้ลงนาม Notary มีสิทธิ์และหน้าที่ที่จะต้องปฏิเสธการรับรอง เพื่อปกป้องผู้ลงนาม
เหตุผลที่ 2: ผู้ลงนามดูเหมือนไม่เข้าใจเนื้อหาของเอกสาร (Lack of Awareness / Understanding)
หน้าที่ของ Notary: ต้องมั่นใจว่าผู้ลงนามรู้และเข้าใจว่าเอกสารที่กำลังจะลงนามนั้นคืออะไร มีผลผูกพันอย่างไร และตระหนักถึงผลที่ตามมาของการลงนาม (Duty to ensure awareness).
สัญญาณที่ต้องระวัง:
- ผู้ลงนามไม่สามารถอธิบายได้ว่าเอกสารนั้นเกี่ยวกับอะไร หรือมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
- ผู้ลงนามดูสับสน มึนงง หรือตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาเอกสารไม่ได้
- ผู้ลงนามอาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของยา แอลกอฮอล์ หรือมีภาวะทางสมองที่ทำให้ความสามารถในการตัดสินใจบกพร่อง (Lack of Mental Capacity)
- เอกสารเป็นภาษาที่ผู้ลงนามไม่เข้าใจ และไม่มีล่ามที่น่าเชื่อถือ
การดำเนินการของ Notary: หาก Notary ประเมินแล้วว่าผู้ลงนามไม่เข้าใจในสาระสำคัญของเอกสาร หรือไม่มีความสามารถในการตัดสินใจอย่างสมบูรณ์ ณ ขณะนั้น Notary ต้องปฏิเสธการรับรอง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ลงนามเสียประโยชน์โดยไม่รู้ตัว
เหตุผลที่ 3: ไม่สามารถยืนยันตัวตนของผู้ลงนามได้อย่างน่าเชื่อถือ (Failure to Identify Signer)
หน้าที่ของ Notary: ต้องตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ลงนามทุกคนอย่างเข้มงวด โดยใช้หลักฐานที่น่าเชื่อถือ (Duty to identify).
สถานการณ์ที่ทำให้ยืนยันตัวตนไม่ได้:
- ผู้ลงนามไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนฉบับจริงที่ออกโดยหน่วยงานราชการ และมีรูปถ่ายชัดเจน (เช่น บัตรประชาชน, หนังสือเดินทาง)
- เอกสารยืนยันตัวตนหมดอายุอย่างชัดเจน หรือมีสภาพชำรุดจนไม่สามารถระบุตัวตนได้
- รูปถ่ายในเอกสารไม่ตรงกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด
- ชื่อในเอกสารยืนยันตัวตน ไม่ตรงกับชื่อที่ระบุในเอกสารที่ต้องการลงนาม
- Notary ไม่รู้จักผู้ลงนามเป็นการส่วนตัว และไม่มีพยานที่น่าเชื่อถือมายืนยันตัวตน (กรณีไม่มีเอกสาร)
การดำเนินการของ Notary: หากไม่สามารถยืนยันตัวตนของผู้ลงนามได้อย่างปราศจากข้อสงสัย Notary ต้องปฏิเสธการรับรอง เพราะการรับรองลายมือชื่อของบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของชื่อตัวจริง ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง
เหตุผลที่ 4: เอกสารมีลักษณะที่น่าสงสัยว่าจะใช้เพื่อการฉ้อโกง (Suspected Fraudulent Transaction)
หน้าที่ของ Notary: ต้องไม่เข้าไปมีส่วนร่วมหรืออำนวยความสะดวกในการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือฉ้อโกง
ลักษณะที่น่าสงสัย:
- เนื้อหาของเอกสารดูไม่สมเหตุสมผล ขัดต่อกฎหมาย หรือมีเจตนาหลอกลวงอย่างชัดเจน
- มีช่องว่างในเอกสารที่สำคัญถูกเว้นไว้ หรือมีการแก้ไข ขูดลบ อย่างมีพิรุธ
- ผู้ลงนามดูรีบร้อนผิดปกติ หรือพยายามกดดันให้ Notary รับรองโดยเร็ว
- มีการเสนอค่าตอบแทนที่สูงเกินกว่าปกติให้กับ Notary
- Notary มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเอกสารนั้นจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด
การดำเนินการของ Notary: แม้ว่า Notary จะไม่ใช่ผู้พิพากษาหรือตำรวจ แต่หากมีเหตุอันควรสงสัยอย่างยิ่งว่าธุรกรรมนั้นมีเจตนาฉ้อโกง Notary มีสิทธิ์ปฏิเสธที่จะรับรอง เพื่อหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในการกระทำผิด
เหตุผลที่ 5: มีผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest)
หน้าที่ของ Notary: ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติ และไม่มีส่วนได้เสียในเอกสารที่ตนรับรอง
สถานการณ์ที่ถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน:
- Notary เป็นคู่สัญญา หรือเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากเอกสารนั้น
- เอกสารนั้นเกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินที่ Notary มีส่วนได้เสีย (เช่น เป็นหุ้นส่วน, ได้รับค่านายหน้า)
- ผู้ลงนามเป็นคู่สมรส บุตร บิดามารดา หรือญาติสนิทของ Notary (บางกรณีอาจอนุโลมได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความเป็นกลางสูงสุด)
- Notary มีความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือทางธุรกิจที่อาจทำให้เกิดความลำเอียงในการปฏิบัติหน้าที่
การดำเนินการของ Notary: หาก Notary พบว่าตนเองมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเอกสารหรือผู้ลงนาม จะต้องปฏิเสธการรับรอง และแนะนำให้ลูกค้าไปใช้บริการ Notary ท่านอื่นแทน เพื่อรักษาความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือ
การสื่อสารเมื่อต้องปฏิเสธ: ความสุภาพและความเป็นมืออาชีพ
แม้ว่าการปฏิเสธจะเป็นสิ่งที่จำเป็นในบางครั้ง แต่ที่ NYC Plus เรายึดมั่นในการสื่อสารกับลูกค้าด้วยความสุภาพและเป็นมืออาชีพเสมอ:
- อธิบายเหตุผลอย่างชัดเจน: เราจะชี้แจงเหตุผลทางกฎหมายหรือจรรยาบรรณที่ทำให้ไม่สามารถรับรองเอกสารได้ โดยอ้างอิงถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของ Notary
- หลีกเลี่ยงการตัดสิน: เราจะไม่กล่าวหาหรือตัดสินลูกค้า แต่จะเน้นไปที่ข้อเท็จจริงและข้อกำหนดที่ไม่สามารถปฏิบัติได้
- เสนอทางออก (ถ้าเป็นไปได้): หากปัญหาเกิดจากเอกสารไม่ครบถ้วน หรือความไม่เข้าใจ เราอาจแนะนำแนวทางแก้ไข เช่น การหาเอกสารเพิ่มเติม การใช้ล่าม หรือการปรึกษาทนายความด้านเนื้อหาสัญญา
- แนะนำ Notary ท่านอื่น: ในกรณีที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เรายินดีแนะนำ Notary ท่านอื่นที่สามารถให้บริการแทนได้
- บันทึกเหตุการณ์ (Notary Journal): Notary จะบันทึกเหตุการณ์การปฏิเสธและเหตุผลไว้ในสมุดบันทึก (Notary Journal) ตามระเบียบปฏิบัติ
การปฏิเสธคือการปกป้องความสมบูรณ์ของระบบและความปลอดภัยของทุกฝ่าย
การที่ Notary Public ปฏิบัติตามหลักการและปฏิเสธการรับรองในกรณีที่ไม่เหมาะสม ไม่ใช่การสร้างอุปสรรค แต่คือ การทำหน้าที่ปกป้อง ความน่าเชื่อถือของเอกสาร ปกป้องสิทธิ์ของผู้ลงนามและบุคคลที่เกี่ยวข้อง และรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการทางกฎหมาย
เราขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เข้าใจในบทบาทและความรับผิดชอบอันสำคัญนี้ และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการ Notary Public ด้วยมาตรฐานสูงสุด ยึดมั่นในหลักการเพื่อความถูกต้องและยุติธรรมเสมอ
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการ Notarization หรือเหตุผลในการปฏิเสธบริการ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา หรืออ่านเพิ่มเติมในหน้า "จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ" (โปรดทราบ: ลิงก์นี้เป็นตัวอย่าง)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการปฏิเสธบริการของ Notary
โดยทั่วไป หาก Notary ปฏิเสธการรับรองก่อนที่จะมีการลงนามหรือประทับตราใดๆ จะยังไม่มีการคิดค่าบริการรับรอง อย่างไรก็ตาม หากมีการให้คำปรึกษา ตรวจสอบเอกสาร หรือใช้เวลาในการประเมินสถานการณ์ไปแล้ว อาจมีค่าบริการในส่วนนั้นตามความเหมาะสม โปรดสอบถาม Notary โดยตรง
Notary ควรใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ การปฏิเสธไม่ควรเกิดจากความรู้สึกส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีเหตุผลอันสมควรที่อิงตามหลักกฎหมาย จรรยาบรรณ หรือข้อเท็จจริงที่ปรากฏ เช่น สัญญาณบ่งชี้ถึงการถูกบังคับ หรือความไม่เข้าใจของผู้ลงนาม
อายุเพียงอย่างเดียวไม่ใช่เหตุผลในการปฏิเสธครับ ตราบใดที่ Notary ประเมินแล้วว่าผู้สูงอายุท่านนั้นยังคงมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน (Mental Capacity) เข้าใจเนื้อหาเอกสาร และลงนามด้วยความสมัครใจ Notary ก็สามารถรับรองให้ได้ตามปกติ
ตามหลักการแล้ว Notary ควรใช้เอกสารยืนยันตัวตนที่ยังไม่หมดอายุเท่านั้น การใช้เอกสารหมดอายุมีความเสี่ยงและอาจไม่เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะหากต้องนำเอกสารไปใช้ในต่างประเทศ ควรดำเนินการต่ออายุเอกสารให้เรียบร้อยก่อน
Notary อาจจะลองถามคำถามง่ายๆ เกี่ยวกับเอกสาร เช่น "เอกสารนี้เกี่ยวกับอะไรคะ/ครับ?" "คุณเข้าใจไหมว่าถ้าลงนามไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?" หรือ "มีใครบังคับให้คุณมาลงนามหรือไม่?" หากคำตอบยังคลุมเครือหรือไม่ชัดเจน Notary อาจต้องปฏิเสธไปก่อน
ไม่ใช่ครับ การถามคำถามเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ Notary ในการประเมินความเข้าใจและความสมัครใจของผู้ลงนาม ไม่ใช่การละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและจรรยาบรรณเพื่อปกป้องทุกฝ่าย
หากเหตุผลในการปฏิเสธเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง (เช่น ผู้ลงนามไม่เข้าใจจริงๆ หรือเอกสารน่าสงสัย) Notary ท่านอื่นที่ปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณเดียวกันก็น่าจะปฏิเสธเช่นกัน การพยายามหา Notary ที่ "ยอม" รับรอง อาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายที่ร้ายแรงกว่าเดิม
Notary Public ในประเทศไทยคือทนายความที่ได้รับใบอนุญาต หากคุณเชื่อว่า Notary ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเมิดมรรยาททนายความ คุณสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่ สภาทนายความแห่งประเทศไทย
Notary ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง "ทางเนื้อหา" ของสัญญา หรือให้คำแนะนำทางกฎหมายเกี่ยวกับข้อตกลงนั้นๆ แต่ Notary ควรอ่านผ่านๆ หรือสอบถามเพื่อให้แน่ใจว่าทราบประเภทของเอกสาร และไม่มีลักษณะที่น่าสงสัยว่าจะผิดกฎหมายหรือฉ้อโกง
โดยทั่วไป Notary ไม่ควรรับรองเอกสารที่มีช่องว่างในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ (เช่น จำนวนเงิน, ชื่อบุคคล, วันที่สำคัญ) ที่ยังไม่ได้กรอก เพราะอาจถูกนำไปเติมข้อความที่ไม่ถูกต้องในภายหลัง ควรกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนนำมาให้ Notary รับรอง
แม้กฎหมายไทยอาจไม่ได้ห้ามเด็ดขาด แต่ตามหลักปฏิบัติสากลและเพื่อความเป็นกลางสูงสุด Notary ควรหลีกเลี่ยงการรับรองเอกสารที่ตนเองหรือญาติสนิท (คู่สมรส, บุตร, บิดามารดา) เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง เพื่อป้องกันข้อครหาเรื่องความเป็นกลาง
Notary มีหน้าที่รับรองลายมือชื่อที่ถูกลงนาม "ต่อหน้า" ตนเองเท่านั้น หากเป็นการนำเอกสารที่ลงนามมาแล้วมายื่นให้รับรอง Notary จะต้องให้ผู้ลงนามลงนามซ้ำต่อหน้า หรือให้ยืนยันลายมือชื่อนั้นต่อหน้า หาก Notary สงสัยว่าลายเซ็นที่ลงต่อหน้าอาจไม่ใช่ลายเซ็นปกติของผู้ลงนาม หรือผู้ลงนามดูเหมือนถูกบังคับให้เซ็น ก็สามารถปฏิเสธได้
จำเป็นต้องมีวิธีการสื่อสารที่ Notary มั่นใจได้ว่าผู้ลงนามเข้าใจเนื้อหาและแสดงความสมัครใจ อาจใช้การเขียนสื่อสาร, ภาษามือ (โดยมีล่ามภาษามือที่น่าเชื่อถือ), หรือวิธีการสื่อสารอื่นๆ ที่เหมาะสมกับความสามารถของผู้ลงนาม Notary ต้องใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในแต่ละกรณี
ไม่ได้ครับ การแต่งกายไม่ใช่เหตุผลทางกฎหมายหรือจรรยาบรรณในการปฏิเสธบริการ Notary ต้องให้บริการแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยพิจารณาจากประเด็นเรื่องตัวตน ความเข้าใจ ความสมัครใจ และความถูกต้องของเอกสารเป็นหลัก
หาก Notary ปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น Notary อาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง (ชดใช้ค่าเสียหาย) และอาจถูกลงโทษทางวินัยจากสภาทนายความ รวมถึงอาจมีความผิดทางอาญาหากมีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิด นี่คือเหตุผลที่ Notary ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด
Notary ไม่สามารถรับรองเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการบางประเภทโดยตรงได้ (เช่น สูติบัตร, ทะเบียนบ้านฉบับจริง) แต่สามารถรับรอง "สำเนา" ของเอกสารเหล่านั้นว่าเป็นสำเนาถูกต้อง (Certified True Copy) ได้ หรือรับรองคำแปลของเอกสารเหล่านั้น
อันดับแรก ควรสอบถามเหตุผลจาก Notary อย่างสุภาพเพื่อทำความเข้าใจ หากยังไม่เห็นด้วยและเชื่อว่า Notary ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คุณสามารถปรึกษาทนายความท่านอื่น หรือยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความได้
ตามระเบียบแล้ว Notary ควรทำบันทึก (Notary Journal) เกี่ยวกับการรับรองแต่ละครั้ง ซึ่งระบุรายละเอียด เช่น วันที่, ชื่อผู้ลงนาม, ประเภทเอกสาร, วิธีการยืนยันตัวตน แต่โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องเก็บ "สำเนา" ของเอกสารทั้งหมดไว้ เว้นแต่เป็นข้อตกลงกับลูกค้า หรือเพื่อเป็นหลักฐานในกรณีพิเศษ
โดยทั่วไป Notary ไม่จำเป็นต้องออกเอกสารยืนยันการปฏิเสธเป็นลายลักษณ์อักษร แต่จะแจ้งเหตุผลด้วยวาจา และบันทึกไว้ใน Notary Journal ของตนเอง หากคุณต้องการหลักฐาน อาจลองสอบถาม Notary ว่าสามารถออกเป็นบันทึกสั้นๆ ได้หรือไม่ แต่ไม่ใช่ข้อบังคับ
ไม่ส่งผลเสียครับ การปฏิเสธของ Notary เป็นเรื่องของการปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ใช่การบันทึกประวัติที่ไม่ดีของลูกค้า ไม่มีการส่งข้อมูลการปฏิเสธไปยังหน่วยงานกลางใดๆ ที่จะกระทบต่อเครดิตหรือธุรกรรมอื่นๆ ของคุณ
เรายึดมั่นในหลักการเพื่อความถูกต้องสูงสุด
ทีม Notary Public ของ NYC Plus ทุกคนได้รับการอบรมและกำกับดูแลให้ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักกฎหมายและจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด การปฏิเสธบริการในบางครั้งจึงเป็นส่วนหนึ่งของการรักษามาตรฐานและความน่าเชื่อถือที่เรายึดถือ
หากคุณมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับเอกสารของคุณ โปรดติดต่อเรา
บริการครอบคลุม 50 เขตในกรุงเทพฯ และ 77 จังหวัดทั่วไทย
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด NYC Plus มีเครือข่ายพร้อมให้บริการ เรามีสาขาหลักและ Partner ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่สะดวกและรวดเร็ว