บริการรับรองเอกสารทรัสต์ (Trust Document Notarization) คือกระบวนการทางกฎหมายที่ Notary Public ทำหน้าที่เป็นพยานและยืนยันความถูกต้องของการลงนามในเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งและบริหารจัดการทรัสต์ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้า High Net Worth Individuals (HNWI) ที่ต้องการวางแผนมรดกและปกป้องทรัพย์สินข้ามพรมแดน
ในยุคที่การลงทุนและการถือครองทรัพย์สินไร้พรมแดน (Borderless Assets) กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals - HNWI) การวางแผนมรดกและการส่งต่อความมั่งคั่งจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำพินัยกรรมอีกต่อไป "ทรัสต์" (Trust) โดยเฉพาะทรัสต์ในต่างประเทศ (Offshore Trust) ได้กลายเป็นเครื่องมือทางการเงินและกฎหมายที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในการบริหารจัดการ, ปกป้อง, และส่งต่อทรัพย์สินอย่างเป็นระบบและเป็นส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม การก่อตั้งทรัสต์ที่ซับซ้อนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเอกสารทางกฎหมายมากมายที่ต้องมีความถูกต้องสมบูรณ์สูงสุด และต้องได้รับการยอมรับในเขตอำนาจศาลหลายแห่งทั่วโลก นี่คือจุดที่บริการ Notary Public (โนตารี พับลิค) เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง
NYC Plus ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการให้บริการด้านกฎหมายและ Notary Public เรามีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการให้บริการรับรองเอกสารทรัสต์สำหรับลูกค้า HNWI เราเข้าใจถึงความซับซ้อน, ความจำเป็นในการรักษาความลับขั้นสูงสุด, และความแม่นยำที่ห้ามมีข้อผิดพลาด (Zero-Error Tolerance) ในการจัดการเอกสารเหล่านี้
การวางแผนมรดกข้ามพรมแดน: บริการ Notary สำหรับเอกสารทรัสต์
การวางแผนมรดกข้ามพรมแดน (Cross-Border Estate Planning) คือความท้าทายสูงสุดสำหรับ HNWIs ที่มีทรัพย์สินกระจายอยู่ในหลายประเทศ เช่น อสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน, บัญชีธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์, หุ้นในตลาดนิวยอร์ก และธุรกิจในสิงคโปร์ การใช้พินัยกรรมเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถจัดการทรัพย์สินเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากกฎหมายมรดกของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน (Conflict of Laws)
โครงสร้างทรัสต์ (Trust Structure) จึงถูกนำมาใช้เพื่อรวบรวมทรัพย์สินเหล่านี้ไว้ภายใต้การจัดการเดียว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ทรัสต์มีผลบังคับใช้ในทุกเขตอำนาจศาล เอกสารสำคัญในการก่อตั้งทรัสต์ (เช่น Trust Deed) ที่ลงนามในประเทศไทย จำเป็นต้องได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นของแท้และถูกต้อง
บทบาทของ Notary Public คือการทำหน้าที่เป็น "สะพานเชื่อมทางกฎหมาย" (Legal Bridge) การรับรองลายมือชื่อ (Signature Verification) หรือการรับรองเอกสาร (Document Certification) โดย Notary Public ของไทย จะทำให้เอกสารนั้นได้รับการยอมรับในกระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศ (มักจะต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูต หรือกระบวนการ Apostille ต่อไป) ซึ่ง NYC Plus มีความเชี่ยวชาญในกระบวนการเหล่านี้อย่างครบวงจร
ทรัสต์ (Trust) คืออะไร และแตกต่างจากพินัยกรรมอย่างไร?
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุดคือการสับสนระหว่าง "ทรัสต์" และ "พินัยกรรม" แม้ว่าทั้งสองจะเป็นเครื่องมือในการวางแผนมรดก แต่ก็มีหลักการทำงานและประโยชน์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ทรัสต์ (Trust) คืออะไร?
ทรัสต์ คือนิติสัมพันธ์ (Legal Relationship) ที่เกิดขึ้นจากสัญญา โดยมีบุคคล 3 ฝ่ายหลัก:
- ผู้ก่อตั้งทรัสต์ (Settlor หรือ Grantor): คือเจ้าของทรัพย์สินที่ต้องการโอนทรัพย์สินของตนเข้าไปในทรัสต์ และเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขต่างๆ
- ผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee): คือบุคคลหรือนิติบุคคล (เช่น บริษัททรัสตี) ที่ได้รับโอนทรัพย์สินจาก Settlor และมีหน้าที่บริหารจัดการทรัพย์สินนั้นตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาอย่างเคร่งครัด (Fiduciary Duty)
- ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary): คือบุคคลที่จะได้รับผลประโยชน์ (เช่น รายได้หรือตัวทรัพย์สิน) จากทรัสต์ ตามที่ Settlor กำหนดไว้
หัวใจสำคัญคือ ทันทีที่ Settlor โอนทรัพย์สินเข้าทรัสต์ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นจะเปลี่ยนไปอยู่ที่ Trustee (ในนามของทรัสต์) ทำให้ทรัพย์สินนั้น "แยก" ออกจากกองมรดกส่วนตัวของ Settlor ทันที
ความแตกต่างสำคัญระหว่างทรัสต์และพินัยกรรม (Trust vs. Will)
นี่คือตารางเปรียบเทียบที่ชัดเจนที่สุด เพื่อช่วยในการตัดสินใจวางแผนมรดก:
| คุณสมบัติ | พินัยกรรม (Last Will) | ทรัสต์ (Trust) |
|---|---|---|
| การเริ่มมีผล | มีผลเมื่อเจ้ามรดก (ผู้ทำพินัยกรรม) เสียชีวิตแล้วเท่านั้น | มีผลทันทีที่ก่อตั้งและโอนทรัพย์สินเข้าทรัสต์ (ในขณะที่ Settlor ยังมีชีวิตอยู่) |
| กระบวนการศาล (Probate) | จำเป็นต้องผ่านกระบวนการร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดกต่อศาล ซึ่งใช้เวลาและมีค่าใช้จ่าย | ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการศาล (Probate) Trustee สามารถจัดการและแบ่งปันทรัพย์สินได้ทันที |
| ความเป็นส่วนตัว | พินัยกรรมจะกลายเป็นเอกสารสาธารณะ (Public Record) เมื่อยื่นต่อศาล ทุกคนสามารถขอดูได้ | เป็นเอกสารส่วนตัว (Private Agreement) อย่างสมบูรณ์ ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ |
| การโต้แย้ง/คัดค้าน | สามารถถูกโต้แย้งหรือคัดค้านในศาลได้ง่ายกว่า (เช่น อ้างว่าผู้ทำไม่มีสติสัมปชัญญะ) | โต้แย้งได้ยากกว่ามาก เพราะมีการดำเนินการและบริหารจัดการมาแล้วในขณะที่ Settlor ยังมีชีวิตอยู่ |
| การจัดการขณะมีชีวิต | ไม่สามารถใช้จัดการทรัพย์สินได้ หากผู้ทำพินัยกรรมไร้ความสามารถ (Incapacitated) | สามารถกำหนดให้ Trustee เข้ามาดูแลทรัพย์สินแทนได้ทันที หาก Settlor ไร้ความสามารถ (เช่น ป่วยหนัก, อัลไซเมอร์) |
| การวางแผนภาษี | ประโยชน์ทางภาษีมีจำกัด | เป็นเครื่องมือวางแผนภาษีมรดก (Estate Tax Planning) ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะทรัสต์ประเภท Irrevocable Trust |
บทบาทของ Notary ในการรับรองลายมือชื่อของผู้ก่อตั้งทรัสต์ (Settlor/Grantor)
สัญญาก่อตั้งทรัสต์ (Trust Deed) ถือเป็นเอกสารที่สำคัญที่สุด เปรียบเสมือน "รัฐธรรมนูญ" ของทรัสต์นั้นๆ การลงนามของ Settlor ในเอกสารนี้คือจุดเริ่มต้นของนิติสัมพันธ์ทั้งหมด
บทบาทของ Notary Public ที่ NYC Plus ในกระบวนการนี้ คือ:
- การยืนยันตัวตน (Verify Identity): Notary ต้องตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตน (เช่น หนังสือเดินทาง, บัตรประชาชน) ของ Settlor อย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลที่มาลงนามคือบุคคลเดียวกับที่ระบุไว้ในสัญญา
- การยืนยันความสมัครใจ (Ensure Voluntariness): Notary ต้องประเมินและยืนยันว่า Settlor ลงนามในเอกสารด้วยความสมัครใจ ปราศจากการถูกข่มขู่ บังคับ หรือหลอกลวง (Free from Duress or Coercion)
- การยืนยันความสามารถ (Assess Competence): Notary ต้องประเมิน (ในระดับเบื้องต้น) ว่า Settlor มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน (Sound Mind) และเข้าใจถึงผลกระทบทางกฎหมายของเอกสารที่ตนกำลังจะลงนาม
- การเป็นพยานที่เป็นทางการ (Formal Witnessing): Notary จะเป็นพยานในขณะที่ Settlor ลงนาม และจะประทับตรา (Notarial Seal) พร้อมลงนามกำกับ เพื่อสร้างหลักฐานทางกฎหมายที่หนักแน่นว่าการลงนามนั้นเกิดขึ้นจริงและถูกต้องตามกระบวนการ
การรับรองลายมือชื่อนี้ ช่วยป้องกันการโต้แย้งในอนาคตว่าลายมือชื่อถูกปลอมแปลง หรือ Settlor ถูกบังคับให้ลงนาม ซึ่งเป็นความเสี่ยงร้ายแรงในการจัดการทรัพย์สินมูลค่าสูง
การรับรองสัญญาก่อตั้งทรัสต์ (Trust Deed / Trust Agreement)
นอกเหนือจากการรับรองลายมือชื่อของ Settlor แล้ว ในบางกรณี Notary Public ยังมีบทบาทในการรับรองตัว "สัญญาก่อตั้งทรัสต์" (Trust Deed หรือ Trust Agreement) ทั้งฉบับด้วย
กระบวนการนี้อาจรวมถึง:
- การรับรองสำเนาถูกต้อง (Certify True Copy): หากสถาบันการเงินในต่างประเทศหรือหน่วยงานราชการต้องการสำเนาของ Trust Deed ที่ได้รับการรับรอง Notary Public สามารถเปรียบเทียบสำเนากับต้นฉบับ และรับรองว่าสำเนานั้นถูกต้องตรงกันทุกประการ
- การทำคำสาบาน (Affidavits/Oaths): ในบางครั้ง Settlor หรือ Trustee อาจต้องทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร (Affidavit) เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงบางประการที่เกี่ยวข้องกับทรัสต์ (เช่น ยืนยันแหล่งที่มาของทรัพย์สิน) และลงนามในคำสาบานนั้นต่อหน้า Notary Public
การรับรองเอกสาร Trust Deed โดย Notary Public ทำให้เอกสารธรรมดาฉบับหนึ่ง กลายเป็นเอกสารที่ "มีผลบังคับใช้ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ" (Internationally Enforceable Document) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสถาบันการเงินระดับโลก (Global Banks) และหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ
การรับรองเอกสารแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee)
โครงสร้างทรัสต์ไม่ได้คงที่ตลอดไป Trustee อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดอายุของทรัสต์ เช่น Trustee คนเดิมเกษียณอายุ, เสียชีวิต, หรือ Settlor ต้องการแต่งตั้ง Trustee เพิ่มเติม (เช่น Co-Trustee หรือ Successor Trustee)
เอกสารที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า "Deed of Appointment and Retirement of Trustees" หรือ "Deed of Variation" ซึ่งเป็นเอกสารทางกฎหมายที่มีผลกระทบสูงมาก เพราะเป็นการเปลี่ยนผู้มีอำนาจควบคุมทรัพย์สินทั้งหมดในทรัสต์
สถาบันการเงินและหน่วยงานที่ดินทั่วโลก จะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงชื่อผู้มีอำนาจในบัญชีหรือโฉนด หากไม่มีเอกสารการเปลี่ยนแปลง Trustee ที่ "น่าเชื่อถือ" พอ การนำเอกสารนี้ไปให้ Notary Public รับรองลายมือชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้อง (เช่น Settlor หรือ Trustee ที่จะเกษียณ) จึงเป็นขั้นตอนบังคับ เพื่อยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นจริงและถูกต้องตามเจตนารมณ์ของทรัสต์
การรับรองเอกสารการโอนทรัพย์สินเข้าสู่ทรัสต์ (Funding the Trust)
ทรัสต์ที่ไม่มีทรัพย์สิน (Empty Trust) ก็ไม่มีประโยชน์อะไร กระบวนการที่สำคัญที่สุดหลังจากก่อตั้งทรัสต์คือ "การโอนทรัพย์สินเข้าสู่ทรัสต์" (Funding the Trust) ทรัพย์สินเหล่านี้อาจเป็นเงินสด, หุ้น, พันธบัตร, อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่งานศิลปะ
การโอนทรัพย์สินเหล่านี้ต้องใช้เอกสารทางกฎหมาย เช่น:
- หนังสือโอนกรรมสิทธิ์ (Deed of Transfer) สำหรับอสังหาริมทรัพย์
- แบบฟอร์มการโอนหุ้น (Stock Transfer Form) สำหรับหุ้นบริษัท
- หนังสือประกาศเจตนา (Declaration of Trust) สำหรับทรัพย์สินที่อาจโอนกรรมสิทธิ์ได้ยาก
การลงนามในเอกสารการโอนเหล่านี้ต่อหน้า Notary Public เป็นการสร้างหลักฐานที่ชัดเจนว่า Settlor ได้ "สละกรรมสิทธิ์" ในทรัพย์สินนั้นและโอนไปยัง Trustee อย่างสมบูรณ์แล้ว ช่วยป้องกันปัญหาการโต้แย้งจากทายาทในอนาคตว่าทรัพย์สินชิ้นนั้นๆ ยังคงเป็นของ Settlor และควรถูกรวมอยู่ในกองมรดก
การทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินและทนายความด้านการวางแผนมรดก
NYC Plus ขอย้ำว่าเราไม่ใช่ที่ปรึกษาด้านการลงทุนหรือผู้ร่างโครงสร้างทรัสต์ (Wealth Planner) แต่เราคือ "ผู้เชี่ยวชาญด้านการบังคับใช้เอกสารทางกฎหมาย" (Legal Enforcement Specialist)
เราทำงานในฐานะ "ทีม" ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญส่วนตัวของคุณ:
- ทนายความด้านการวางแผนมรดก (Estate Planning Lawyer): ทนายความของคุณจะเป็นผู้ออกแบบและร่างสัญญาก่อตั้งทรัสต์ (Trust Deed) ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ
- ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor / Wealth Manager): ที่ปรึกษาของคุณจะให้คำแนะนำว่าควรนำทรัพย์สินใดเข้าทรัสต์ และบริหารจัดการอย่างไร
- NYC Plus (Notary Public): เราจะทำหน้าที่รับรองเอกสารที่ร่างขึ้นมาทั้งหมด ให้มีความถูกต้องตามกฎหมาย (Legalization) เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการที่ยอดเยี่ยมของคุณ สามารถ "บังคับใช้ได้จริง" ในทุกเขตอำนาจศาลที่เกี่ยวข้อง
เรายินดีประสานงานโดยตรงกับทีมที่ปรึกษาของคุณ เพื่อให้กระบวนการรับรองเอกสารเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ความสำคัญสูงสุด: การรักษาความลับ (Confidentiality) และความแม่นยำสูงสุด
นี่คือหัวใจสำคัญของบริการสำหรับ HNWI และเป็นสิ่งที่ NYC Plus ยึดมั่นเป็นอันดับหนึ่ง
การรักษาความลับของโครงสร้างทรัสต์ (Trust Confidentiality)
เหตุผลหลักที่ HNWIs เลือกใช้ทรัสต์แทนพินัยกรรม คือ "ความเป็นส่วนตัว" (Privacy) สัญญาทรัสต์เป็นเอกสารส่วนตัว ไม่ต้องยื่นต่อศาลหรือหน่วยงานใดเพื่อขอให้มีผลบังคับ (ต่างจากพินัยกรรมที่ต้องผ่านกระบวนการศาล (Probate) และกลายเป็นเอกสารสาธารณะ)
เราเข้าใจประเด็นนี้อย่างลึกซึ้ง ทีมงานทนายความ Notary Public ของเราทุกคน ปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพทนายความอย่างเคร่งครัด (Attorney-Client Privilege) ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับโครงสร้างทรัสต์, รายชื่อผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiaries), และรายละเอียดทรัพย์สิน จะถูกเก็บเป็นความลับสูงสุด การมาใช้บริการกับเราจึงมีความปลอดภัยสูงกว่าการใช้บริการรับรองเอกสารทั่วไป
เราให้บริการด้วยความเป็นส่วนตัวและแม่นยำสูงสุด (Precision & Discretion)
สำหรับเอกสารทรัสต์ "ความผิดพลาดเล็กน้อย" (Minor Error) อาจนำไปสู่ "ความเสียหายร้ายแรง" (Catastrophic Failure) ได้ เช่น การสะกดชื่อผิด, การลงวันที่ไม่ถูกต้อง, หรือการประทับตราผิดตำแหน่ง อาจทำให้สถาบันการเงินในสวิตเซอร์แลนด์หรือสิงคโปร์ปฏิเสธเอกสารทั้งฉบับ
ที่ NYC Plus เรามีกระบวนการตรวจสอบ (Verification Process) ที่รัดกุม เราตรวจสอบทุกรายละเอียดก่อนการรับรอง เพื่อให้มั่นใจว่าเอกสารของคุณจะ "สมบูรณ์แบบ" (Flawless) และใช้งานได้ทันทีในครั้งแรกที่ยื่น
ค่าบริการสำหรับเอกสารการวางแผนมรดกที่ซับซ้อน
เราเชื่อมั่นในความโปร่งใสของค่าบริการ ในขณะที่บริการพื้นฐานของเรามีราคามาตรฐานที่ชัดเจน:
- ค่าบริการแปลเอกสาร ไทย-อังกฤษ เริ่มต้น 500 บาท (สำหรับภาษาอื่นๆ กรุณาส่งเอกสารเพื่อประเมินราคา)
- ค่าบริการรับรองเอกสาร Notary Public ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท (ต่อ 1 ตราประทับ/ลายเซ็น)
อย่างไรก็ตาม เอกสารทรัสต์ (Trust Documents) ถือเป็นงานที่มีความซับซ้อนทางกฎหมายสูง (Complex Legal Work) ค่าบริการสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ:
- ความซับซ้อนของเอกสาร: Trust Deed 50 หน้า ย่อมใช้เวลาตรวจสอบมากกว่า Affidavit 1 หน้า
- จำนวนผู้ลงนาม: หากมี Settlor และ Trustee หลายคนที่ต้องลงนาม
- บริการนอกสถานที่: เรามีบริการ On-site Notarization ไปยังบ้านหรือสำนักงานของคุณ เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด
- ข้อกำหนดของประเทศปลายทาง: ความจำเป็นในการแปลเอกสาร หรือการดำเนินการรับรองที่กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตเพิ่มเติม
เราแนะนำให้คุณนัดหมายเพื่อ "ปรึกษาเบื้องต้น" (Initial Consultation) หรือส่งร่างเอกสารมาให้เราประเมินก่อน เรายินดีให้ใบเสนอราคาที่ชัดเจนและสมเหตุสมผลสำหรับกรณีเฉพาะของคุณ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเอกสารทรัสต์ (FAQ)
ทรัสต์ (Trust) ที่ก่อตั้งในต่างประเทศ จำเป็นต้องให้ Notary Public ของไทยรับรองหรือไม่?
ในหลายกรณี 'ใช่' ครับ โดยเฉพาะเมื่อผู้ก่อตั้งทรัสต์ (Settlor) หรือผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) บางส่วนอาศัยอยู่ในประเทศไทย และจำเป็นต้องลงนามในเอกสารสำคัญ เช่น Trust Deed หรือเอกสารโอนทรัพย์สิน (Asset Transfer Deed) จากประเทศไทย
การรับรองลายมือชื่อโดย Notary Public ของไทย จะทำให้เอกสารนั้นมีผลผูกพันทางกฎหมาย และสามารถนำไปใช้ในกระบวนการทางกฎหมายในต่างประเทศได้ (ซึ่งมักจะต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตของประเทศนั้นๆ ต่อไป)
การรับรองเอกสารทรัสต์แตกต่างจากการรับรองเอกสารทั่วไปอย่างไร?
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญครับ การรับรองเอกสารทั่วไป เช่น รับรองสำเนาหนังสือเดินทาง อาจเป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมา แต่เอกสารทรัสต์ (Trust Documents) มีความซับซ้อนทางกฎหมายสูงมาก
Notary Public ไม่เพียงแต่ต้องยืนยันตัวตนของผู้ลงนาม (Settlor/Trustee) แต่ยังต้องมีความเข้าใจในหลักการของทรัสต์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ลงนามมีความสามารถครบถ้วน (Legal Capacity) และเข้าใจถึงผลผูกพันของเอกสารที่ตนกำลังลงนาม นอกจากนี้ เอกสารทรัสต์มักเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินมูลค่าสูงและโครงสร้างข้ามพรมแดน จึงต้องการความแม่นยำและการรักษาความลับในระดับสูงสุด
Settlor หรือ ผู้ก่อตั้งทรัสต์ จำเป็นต้องมาลงนามต่อหน้า Notary Public เสมอไปหรือไม่?
โดยหลักการแล้ว 'จำเป็นอย่างยิ่ง' ครับ หัวใจสำคัญของการ Notarization คือการที่ Notary Public ทำหน้าที่เป็น 'พยานบุคคลที่สามที่เป็นกลางทางกฎหมาย' (Impartial Legal Witness) เพื่อยืนยันว่าบุคคลที่ลงนามคือบุคคลเดียวกับที่ระบุในเอกสาร และได้ลงนามด้วยความสมัครใจ ปราศจากการข่มขู่
สำหรับเอกสารสำคัญอย่างสัญญาก่อตั้งทรัสต์ (Trust Deed) การลงนามต่อหน้า Notary จึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้เพื่อป้องกันการปลอมแปลงลายมือชื่อและการโต้แย้งทางกฎหมายในอนาคต เรามีบริการ Notary นอกสถานที่ (Mobile Notary) เพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณ
NYC Plus รักษาความลับของข้อมูลทรัสต์ (Confidentiality) ของเราได้อย่างไร?
เรายึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพทนายความและการรักษาความลับของลูกค้าเป็นสำคัญสูงสุด (Attorney-Client Privilege) ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับโครงสร้างทรัสต์, รายชื่อผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiaries), และรายละเอียดทรัพย์สิน จะถูกเก็บเป็นความลับสูงสุด
เรามีระบบการจัดเก็บเอกสารที่ปลอดภัย และทีมงานทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องลงนามในสัญญาปกป้องความลับ (NDA) การที่ทรัสต์เป็นเอกสารส่วนตัว (Private Document) และไม่จำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ HNWIs เลือกใช้ และเราเคารพในเจตนารมณ์นั้นอย่างเคร่งครัดครับ
ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง สำหรับการรับรองเอกสารทรัสต์?
โดยทั่วไป สิ่งที่คุณต้องเตรียมมาคือ:
- เอกสารยืนยันตัวตน (ฉบับจริง): หนังสือเดินทาง (Passport) หรือ บัตรประจำตัวประชาชน (สำหรับคนไทย) ของผู้ลงนามทุกคน (Settlor, Trustee)
- เอกสารทรัสต์ (ฉบับจริง): คือสัญญาก่อตั้งทรัสต์ (Trust Deed) หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง ที่คุณต้องการให้รับรอง (สำคัญ: ห้ามลงนามมาก่อนล่วงหน้า)
- เอกสารประกอบ (ถ้ามี): เช่น หนังสือรับรองบริษัท (หาก Trustee เป็นนิติบุคคล), รายละเอียดทรัพย์สินที่จะโอนเข้าทรัสต์
เราแนะนำให้โทรนัดหมายล่วงหน้า เพื่อให้ทีมทนายความของเราได้ตรวจสอบเอกสารและแนะนำขั้นตอนที่ถูกต้องก่อนครับ
บริการที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนมรดก
นอกจากการรับรองเอกสารทรัสต์แล้ว NYC Plus ยังให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนมรดกอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคุณ:
- บริการรับรองพินัยกรรม (Will Notarization): (ลิงก์ไปยังหน้า "เอกสารมรดกและพินัยกรรม") สำหรับการจัดการทรัพย์สินในประเทศที่ยอมรับพินัยกรรม
- บริการรับรองหนังสือมอบอำนาจ (Power of Attorney): สำหรับการแต่งตั้งตัวแทนจัดการทรัพย์สินขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่
- บริการแปลเอกสาร pháp lý (Legal Translation): แปลสัญญาทรัสต์, พินัยกรรม, และเอกสารกฎหมายอื่นๆ เป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก พร้อมรับรองคำแปล
- บริการรับรองเอกสารกงสุล (Legalization): ดำเนินการยื่นเอกสารที่รับรอง Notary แล้ว ต่อกระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตต่างๆ เพื่อให้ใช้ได้ในประเทศปลายทาง
ทำไมต้องเลือก NYC Plus สำหรับเอกสารทรัสต์ของคุณ?
การเลือก Notary Public สำหรับเอกสารมูลค่าสูง ไม่ใช่แค่การหาที่ "ประทับตรา" แต่คือการเลือก "พันธมิตรทางกฎหมาย" ที่คุณไว้วางใจได้ NYC Plus พร้อมมอบความเชี่ยวชาญ (Expertise), ประสบการณ์ (Experience), และความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) ที่คุณมองหา
ทีมทนายความ Notary Public ผู้มีใบอนุญาต (Our Licensed Attorneys)
งานของคุณจะได้รับการดูแลโดยทนายความผู้มีใบอนุญาตจากสภาทนายความ และได้รับอนุญาตให้เป็น Notary Public ที่มีความเข้าใจในกฎหมายอย่างแท้จริง
ทนายจิรพันธ์ NPT
ทนายจิรศักดิ์ NPT
ทนายวราวุธ NPT
ทนายวิวัฒน์ NPT
ทนายอนุตรีย์ NPT
ตัวอย่างเอกสารที่รับรองโดยทนาย Notary Public ของเรา
เรามีประสบการณ์ในการรับรองเอกสารสำคัญสำหรับใช้ในต่างประเทศมาแล้วหลายหมื่นฉบับ นี่คือตัวอย่างผลงานของเราที่แสดงถึงความแม่นยำและมาตรฐานสากล
ติดต่อเพื่อปรึกษาการรับรองเอกสารการจัดการทรัพย์สิน
ก้าวแรกสู่การวางแผนมรดกที่รัดกุมและปลอดภัย เริ่มต้นด้วยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ทีมงาน NYC Plus พร้อมให้คำปรึกษาเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Call Center: 081-5620444, 083-2494999
Email: [email protected] | Line ID: @NYCLI
นัดหมายออนไลน์