คำตอบสั้นๆ: "ใช่" ในหลายกรณีครับ เอกสารสำคัญบางประเภท (เช่น พินัยกรรม, สัญญาก่อนสมรส) กฎหมายกำหนดให้ต้องมี "พยาน" (Witness) ลงนามด้วย ซึ่ง Notary Public (ทนายความรับรองลายมือชื่อ) ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นพยานในเอกสารฉบับเดียวกับที่ตนรับรองได้ ลูกค้าจึงจำเป็นต้องเตรียมพยานมาเอง
หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดที่ NYC Plus ได้รับจากลูกค้าคือ "ฉันต้องหาพยานไปด้วยไหม?" หรือ "ฉันนึกว่า Notary คือพยานให้ในตัวอยู่แล้ว?"
นี่คือความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุด และอาจส่งผลร้ายแรงทำให้เอกสารสำคัญของคุณ (โดยเฉพาะพินัยกรรม) กลายเป็นโมฆะได้ ความจริงคือ บทบาทของ "Notary" และบทบาทของ "พยาน" (Witness) นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และทำหน้าที่คนละอย่างกันตามกฎหมาย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรองเอกสารมากว่า 15 ปี เราขอนำเสนอคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ เพื่อไขข้อข้องใจทั้งหมดว่า Notary กับ พยาน ต่างกันอย่างไร, เมื่อไหร่ที่คุณต้องใช้พยาน, และคุณสมบัติของพยานที่ดีคืออะไร เพื่อให้คุณสามารถ "วางแผนล่วงหน้าเพื่อความราบรื่นในวันนัดหมาย" ได้อย่างถูกต้อง
บทบาทของพยาน (Witness) vs. บทบาทของ Notary Public
เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมคุณอาจต้องใช้คนถึง 3 คน (คุณ, พยาน, และ Notary) ในการเซ็นเอกสาร 1 ฉบับ เราต้องเข้าใจหน้าที่ทางกฎหมายของแต่ละฝ่ายก่อน
1. บทบาทของ Notary Public (ทนายความรับรองลายมือชื่อ)
Notary Public (ในบริบทของไทย คือ ทนายความที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร) คือ "เจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับการแต่งตั้ง" (Appointed Public Officer) ที่ทำหน้าที่เป็น "พยานที่เป็นกลางของรัฐ" (Impartial State Witness)
หน้าที่หลักของ Notary ไม่ใช่ การรับรองว่าเนื้อหาในเอกสาร "เป็นความจริง" แต่เป็นการรับรองกระบวนการลงนาม โดยมีหน้าที่หลัก 4 ประการ:
- ยืนยันตัวตน (Verify Identity): ตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตน (พาสปอร์ต, บัตรประชาชน) ฉบับจริง เพื่อรับรองว่า "คุณคือคุณจริงๆ"
- ประเมินสติสัมปชัญญะ (Assess Capacity): ประเมิน ณ ขณะลงนามว่า ผู้ลงนามมีสติครบถ้วน (Sound Mind) และเข้าใจว่ากำลังลงนามในเอกสารอะไร
- ยืนยันความสมัครใจ (Ensure Voluntariness): ตรวจสอบว่าผู้ลงนามไม่ได้ถูกข่มขู่, บังคับ, หรือถูกหลอกลวงให้ลงนาม
- เป็นผู้ให้คำสัตย์ปฏิญาณ (Administer Oath): ในกรณีของเอกสารประเภท Jurat หรือ Affidavit, Notary จะเป็นผู้ให้ผู้ลงนามกล่าวคำสาบานตนว่าข้อความในเอกสารเป็นความจริง
ดังนั้น Notary คือพยานที่รับรอง "ตัวตนของผู้ลงนาม" และ "การกระทำในการลงนาม" ครับ
2. บทบาทของ "พยาน" (Witness)
"พยาน" (หรือ subscribing witness) คือ "บุคคลทั่วไป" (Private Individual) ที่กฎหมายของเอกสารนั้นๆ (เช่น กฎหมายพินัยกรรม) "บังคับ" ให้ต้องมี เพื่อเป็นพยานในการลงนาม
หน้าที่หลักของพยาน คือการ "รับรองเหตุการณ์" (Attest to the Event) โดยพยานจะลงนามเพื่อยืนยันว่า:
- "ข้าพเจ้า (พยาน) ได้เห็นผู้ลงนาม (เช่น ผู้ทำพินัยกรรม) ลงนามในเอกสารนี้ด้วยตาของตนเอง"
- "ข้าพเจ้า (พยาน) เชื่อว่าผู้ลงนามมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนในขณะที่ลงนาม"
- "ข้าพเจ้า (พยาน) ลงนามในฐานะพยานต่อหน้าผู้ลงนาม" (และในบางกรณี ต้องลงนามต่อหน้าพยานคนอื่นๆ ด้วย)
ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุด: Notary ยืนยัน "ตัวตน" ตามหลักฐานราชการ แต่ พยาน ยืนยัน "เหตุการณ์" ที่เกิดขึ้นตรงหน้าทั้งหมด เอกสารหลายฉบับจึงต้องการ "ทั้งสองอย่าง" เพื่อให้สมบูรณ์
สถานการณ์ที่มักต้องมีพยาน (นอกเหนือจาก Notary)
ไม่ใช่ทุกเอกสารที่ต้องมีพยาน เอกสารส่วนใหญ่ เช่น หนังสือมอบอำนาจทั่วไปในไทย หรือ Affidavit ทั่วไป มักต้องการแค่ Notary ก็เพียงพอ แต่เอกสารที่มีความสำคัญสูง, มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการโต้แย้ง, หรือเกี่ยวข้องกับการสละสิทธิ์ที่สำคัญ กฎหมายมักกำหนดให้ต้องมีพยานเพิ่มเติม
1. พินัยกรรม (Last Will and Testament)
นี่คือเอกสารที่ "จำเป็น" ต้องมีพยานมากที่สุด เหตุผลเพราะ พินัยกรรมจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อ "ผู้ทำพินัยกรรมเสียชีวิตไปแล้ว" และไม่สามารถกลับมายืนยันได้ว่า "ฉันได้เซ็นเอกสารนี้จริง"
ดังนั้น กฎหมายในเขตอำนาจศาลส่วนใหญ่ (เช่น รัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, แคนาดา) จึงกำหนดให้การทำพินัยกรรมต้องมี "พยาน 2 คน" (ในบางที่อาจจะ 3 คน) ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย มาลงนามในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมลงนาม
พยานเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะหากพินัยกรรมถูกท้าทายในศาล (Will Contest) พยานเหล่านี้คือบุคคลที่ศาลจะเรียกมาให้การว่า "ในวันที่เซ็นนั้น ผู้ทำพินัยกรรมมีสติดีจริงหรือไม่? เขาถูกใครบังคับหรือไม่?"
ความเสี่ยง: หากพินัยกรรมของคุณมีพยานไม่ครบตามกฎหมาย หรือพยานไม่มีคุณสมบัติ (เช่น มีส่วนได้เสีย) ศาลจะตัดสินให้พินัยกรรมทั้งฉบับเป็น "โมฆะ" (Invalid) ทันที!
2. สัญญาก่อนสมรส (Pre-nuptial / Post-nuptial Agreements)
สัญญาก่อนสมรส (Prenup) คือสัญญาที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งอาจ "สละสิทธิ์" ในทรัพย์สินบางอย่าง ทำให้เป็นสัญญาที่ละเอียดอ่อนและมักถูกท้าทายในศาลหย่าร้างในภายหลัง โดยอ้างว่า "ถูกบังคับให้เซ็น", "ไม่เข้าใจสิ่งที่เซ็น", หรือ "ไม่ได้รับคำแนะนำทางกฎหมายที่เพียงพอ"
แม้ว่ากฎหมายบางแห่งอาจไม่ "บังคับ" ให้ต้องมีพยาน แต่การมีพยาน 1-2 คน (ที่ไม่มีส่วนได้เสีย) ลงนามในสัญญา พร้อมกับการรับรอง Notary ถือเป็น "แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด" (Best Practice) ที่ทนายความแนะนำอย่างยิ่ง มันช่วยเพิ่มน้ำหนักให้สัญญาว่า ทั้งสองฝ่ายลงนามด้วยความสมัครใจและมีสติครบถ้วนจริง
3. หนังสือมอบอำนาจบางประเภท (โดยเฉพาะ Durable และ Medical POA)
ดังที่เราได้อธิบายใน คู่มือ POA ฉบับสมบูรณ์ ของเรา หนังสือมอบอำนาจบางประเภท (โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนชีวิต) กฎหมายปลายทางมักกำหนดให้มีพยาน
- Durable POA (ด้านการเงิน): บางรัฐ เช่น ฟลอริดา (Florida) บังคับว่า Durable POA ต้องลงนามต่อหน้าพยาน 2 คน และ Notary อีก 1 คน
- Medical POA (ด้านสุขภาพ) / Living Will: เอกสารเหล่านี้มักต้องการพยาน 2 คนเสมอ เพื่อยืนยันว่าผู้ลงนามมีเจตจำนงที่ชัดเจนในการตัดสินใจเรื่องชีวิตของตนเอง และไม่ได้ถูกครอบครัวบังคับ
คุณสมบัติของพยานที่ดี (และข้อห้ามที่สำคัญที่สุด)
การเลือกพยานเป็นสิ่งสำคัญมาก หากเลือกพยานผิด เอกสารของคุณอาจถูกปฏิเสธได้ คุณสมบัติของพยานที่ดี มีดังนี้:
ข้อห้ามอันดับ 1: ต้อง "ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย" (A Disinterested Witness)
นี่คือกฎเหล็กที่สำคัญที่สุด พยานต้องเป็น "บุคคลที่เป็นกลาง" (Neutral Third Party) ที่ "ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ" จากเอกสารฉบับนั้น ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
พยานที่ "มีส่วนได้ส่วนเสีย" (Interested Witness) คือใครบ้าง?
- ผู้รับผลประโยชน์ในเอกสาร: เช่น ลูกชายที่ได้รับมรดกในพินัยกรรม "ห้าม" เป็นพยานในพินัยกรรมนั้นเด็ดขาด
- คู่สมรสของผู้รับผลประโยชน์: เช่น ภรรยาของลูกชายที่ได้รับมรดก ก็ "ไม่ควร" เป็นพยาน
- คู่สัญญาอีกฝ่าย: เช่น ในสัญญาก่อนสมรส คู่หมั้นของคุณ "ห้าม" เป็นพยานในลายเซ็นของคุณ (ตามหัวข้อ 5)
- เจ้าหนี้: หากเอกสารนั้นเกี่ยวข้องกับการชำระหนี้
- ผู้รับมอบอำนาจ (Agent): บุคคลที่คุณมอบอำนาจให้ในเอกสาร POA ก็ไม่ควรเป็นพยาน
ความเสี่ยง: หากใช้พยานที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ศาลอาจตัดสินให้ "ของขวัญ" หรือ "ข้อตกลง" ที่เป็นประโยชน์ต่อพยานนั้นเป็นโมฆะ หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด (เช่น พินัยกรรม) ศาลอาจตัดสินให้เอกสารทั้งฉบับเป็นโมฆะไปเลย
คุณสมบัติพื้นฐานอื่นๆ ของพยาน
- บรรลุนิติภาวะ: ต้องมีอายุ 18 ปี หรือ 20 ปีขึ้นไป (แล้วแต่กฎหมาย)
- มีสติสัมปชัญญะ (Sound Mind): พยานต้องเข้าใจว่าตนเองกำลังทำอะไร กำลังลงนามในฐานะพยานในเอกสารอะไร (เช่น ไม่ใช่ผู้ที่กำลังมึนเมา หรือมีภาวะทางจิต)
- ไม่ใช่ Notary ผู้รับรองเอกสาร: ดังที่จะกล่าวต่อไป...
- (แนะนำ) ควรเป็นผู้ที่น่าจะยังมีชีวิตอยู่และติดต่อได้: ในกรณีของพินัยกรรม หากเกิดการโต้แย้งในอีก 20 ปีข้างหน้า ศาลอาจต้องการเรียกพยานมาให้การ
นโยบายของ NYC Plus: การจัดหาพยาน และข้อห้ามของ Notary
นี่คือคำถามเชิงปฏิบัติที่ลูกค้าควรรู้เพื่อวางแผนในวันนัดหมาย
1. Notary สามารถเป็นพยานในเอกสารฉบับเดียวกันได้หรือไม่?
คำตอบ: "ไม่ได้" อย่างเด็ดขาด (No)
นี่คือข้อห้ามสากลและเป็นจรรยาบรรณวิชาชีพ Notary Public ทำหน้าที่เป็น "เจ้าหน้าที่รัฐ" ในการรับรองลายมือชื่อ พยาน ทำหน้าที่เป็น "บุคคลทั่วไป" ในการรับรองเหตุการณ์ บุคคลเดียวไม่สามารถสวมหมวกสองใบในเอกสารเดียวกันได้
หาก Notary ลงนามเป็นทั้ง Notary และ พยาน จะเกิด "ผลประโยชน์ทับซ้อน" (Conflict of Interest) และทำให้การรับรอง Notary นั้น "ไร้ผล" ทันที เอกสารจะถูกปฏิเสธ 100%
2. ลูกค้าต้องหาพยานมาเองหรือไม่? (นโยบายสำนักงาน)
คำตอบ: "ใช่" (Yes) นี่คือนโยบายหลักของเรา
เพื่อรักษาความเป็นกลางสูงสุด และเพื่อปกป้องความสมบูรณ์ของเอกสารของคุณเอง เราแนะนำอย่างยิ่งให้ลูกค้าเป็นผู้จัดหาพยานที่น่าเชื่อถือมาเอง พยานที่ดีที่สุดคือคนที่ไม่ใช่ครอบครัว แต่รู้จักคุณและไม่มีส่วนได้เสีย เช่น:
- เพื่อนบ้าน
- เพื่อนร่วมงาน
- เพื่อนสนิท (ที่ไม่ได้อยู่ในพินัยกรรม)
การที่คุณนำพยานมาเองยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่เอกสารถูกท้าทายในศาล พยานเหล่านี้สามารถให้การได้ว่าพวกเขารู้จักคุณและยืนยันว่าคุณมีสติดีในขณะลงนาม
3. ถ้าหาพยานมาเองไม่ได้จริงๆ พนักงานในสำนักงาน NYC Plus เป็นพยานให้ได้หรือไม่?
เราเข้าใจว่าในบางสถานการณ์ (เช่น ลูกค้าเดินทางมาคนเดียว หรือเป็นเรื่องลับมาก) การหาพยานเป็นเรื่องยาก
นโยบายของเรา: ในกรณีที่จำเป็นและฉุกเฉิน และคุณไม่สามารถหาใครได้จริงๆ NYC Plus สามารถจัดหา "พยานพนักงาน" (Staff Witness) ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางกฎหมายกับคุณ เพื่อลงนามเป็นพยานส่วนตัวให้ได้ (อาจมีค่าบริการเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับบริการนี้)
ข้อควรพิจารณา: แม้ว่าการใช้พยานพนักงาน (Staff Witness) จะ "ถูกต้องตามกฎหมาย" แต่ในเอกสารที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง "พินัยกรรม" การใช้พยานที่เป็น "คนแปลกหน้า" (เช่น พนักงานของเรา) อาจถูกท้าทายในศาลได้ง่ายกว่าพยานที่ "รู้จัก" คุณเป็นการส่วนตัว (เช่น เพื่อนบ้าน) เพราะพยานในอุดมคติควรรู้จักคุณและสามารถให้การต่อศาลได้ว่า "ฉันรู้จักนาย ก. มา 5 ปี และในวันที่เซ็นพินัยกรรม เขามีสติดี ไม่ได้ถูกใครบังคับ" ซึ่งพนักงานของเราไม่สามารถให้การในส่วนนี้ได้
ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดคือหาพยานมาเอง แต่หากจำเป็น เรามีบริการนี้รองรับ โดยคุณต้องยอมรับความเสี่ยง (ถ้ามี) ในอนาคต
จำนวนพยานที่ต้องการ และความสำคัญของประเทศปลายทาง
"ฉันต้องใช้พยาน 1 คน หรือ 2 คน?"
คำตอบสำหรับคำถามนี้ ไม่ได้อยู่ในกฎหมายไทย แต่อยู่ใน "กฎหมายของประเทศหรือรัฐปลายทาง" ที่จะนำเอกสารนี้ไปใช้
- พินัยกรรม (Wills): เกือบทุกรัฐในสหรัฐฯ และประเทศในยุโรป กำหนดให้ใช้พยาน 2 คน
- สัญญาก่อนสมรส (Pre-nups): มักใช้ 1-2 คน เพื่อเพิ่มน้ำหนัก
- สัญญาอสังหาริมทรัพย์ (Deeds): บางรัฐ เช่น ฟลอริดา, จอร์เจีย, คอนเนตทิคัต กำหนดให้มีพยาน 2 คน
ความรับผิดชอบของลูกค้า: จึงเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าที่จะต้อง "ตรวจสอบ" กับทนายความหรือหน่วยงานในประเทศปลายทางว่า เอกสารของคุณมีข้อกำหนดเรื่องพยานหรือไม่ และต้องใช้กี่คน
เราสามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นได้: จากประสบการณ์ 15 ปีของเรา เราพอจะทราบข้อกำหนดทั่วไปของหลายๆ ประเทศ (เช่น เอกสารสำหรับฟลอริดามักต้องใช้พยาน 2 คน) และเราสามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่คุณได้ แต่คำแนะนำนั้นไม่สามารถแทนที่คำปรึกษาจากทนายความในประเทศปลายทางได้
วางแผนล่วงหน้าเพื่อความราบรื่นในวันนัดหมาย
เพื่อให้การนัดหมายของคุณที่ NYC Plus เป็นไปอย่างราบรื่นและเสร็จสิ้นในครั้งเดียว โปรดปฏิบัติดังนี้:
- ตรวจสอบเอกสารของคุณ: อ่านเอกสารอย่างละเอียด (โดยเฉพาะหน้าสุดท้าย) ว่ามีช่องสำหรับ "Witness" (พยาน) หรือไม่? ถ้ามี มีกี่ช่อง?
- ตรวจสอบกฎหมายปลายทาง: สอบถามทนายความของคุณในต่างประเทศว่าเอกสารนี้ต้องใช้พยานหรือไม่ และพยานต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
- จัดหาพยานของคุณ: หากต้องใช้พยาน โปรดนัดแนะพยานของคุณ (ที่ไม่มีส่วนได้เสีย) ให้มาในวันและเวลาเดียวกับคุณ
- พยานต้องนำตัวจริงมาด้วย: พยานทุกคนต้องนำ "พาสปอร์ต" หรือ "บัตรประชาชน" ตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุมาด้วย Notary ต้องบันทึกข้อมูลของพยานลงในสมุดทะเบียน (Notary Journal) เช่นกัน
- แจ้งเราล่วงหน้า: หากคุณต้องการใช้บริการ "พยานพนักงาน" (Staff Witness) จากเรา โปรดแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วันทำการ เพื่อที่เราจะได้จัดเตรียมบุคลากรไว้ให้คุณ
การวางแผนเรื่องพยานล่วงหน้า จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ทำให้เอกสารสำคัญของคุณเสร็จสมบูรณ์ ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ถูกปฏิเสธในภายหลัง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพยาน (FAQ)
คำถามที่ 1: Notary กับ พยาน (Witness) ต่างกันอย่างไร?
นี่คือความแตกต่างที่สำคัญที่สุด:
1. Notary Public (ในไทยคือทนายความรับรองลายมือชื่อ) เป็น 'เจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้ง' (Official Officer) มีหน้าที่ทางกฎหมายในการ 'ยืนยันตัวตน' ของผู้ลงนาม, ประเมิน 'สติสัมปชัญญะ', และรับรองว่าผู้ลงนาม 'ลงนามด้วยความสมัครใจ' Notary เป็นพยานต่อ 'การลงนาม' นั้น
2. พยาน (Witness) เป็น 'บุคคลทั่วไป' (Private Individual) ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีในเอกสารบางประเภท (เช่น พินัยกรรม) พยานมีหน้าที่ 'รับรองเหตุการณ์' (Attest to the event) เช่น 'ข้าพเจ้าเห็นนาย ก. ลงนามในพินัยกรรมนี้จริง และเขามีสติดี' โดยทั่วไปพยานไม่จำเป็นต้องเป็นทนายความ
คำถามที่ 2: พยานที่ 'ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย' (Disinterested Witness) หมายความว่าอะไร?
พยานที่ 'ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย' (Disinterested หรือ Impartial) คือบุคคลที่ 'ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ' จากเอกสารฉบับนั้นๆ ไม่ว่าทางการเงินหรือทางตรงก็ตาม ตัวอย่างเช่น: หากคุณทำพินัยกรรมยกมรดกให้ลูกชาย ลูกชายของคุณ 'ไม่สามารถ' เป็นพยานในพินัยกรรมได้ เพราะเขามีส่วนได้ส่วนเสีย (เป็น Interested Witness) หากคุณทำสัญญาก่อนสมรส คู่สมรสของคุณ 'ไม่สามารถ' เป็นพยานได้ การใช้พยานที่มีส่วนได้ส่วนเสียอาจทำให้เอกสารทั้งฉบับ (หรือเฉพาะส่วนนั้น) ถูกตัดสินให้เป็นโมฆะได้
คำถามที่ 3: Notary หรือพนักงานในสำนักงาน สามารถเป็นพยานให้ได้หรือไม่?
ขึ้นอยู่กับนโยบายและข้อกฎหมาย:
1. Notary Public 'ไม่สามารถ' เป็นทั้ง Notary และ พยาน ในเอกสารฉบับเดียวกันได้ เพราะถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) อย่างชัดเจน
2. พนักงานในสำนักงาน (Staff Witness) 'สามารถ' เป็นพยานได้ในทางเทคนิค (ตราบใดที่พวกเขาไม่มีส่วนได้เสีย) NYC Plus มีบริการพยานพนักงานในกรณีจำเป็น แต่เรา 'ไม่แนะนำ' หากเป็นไปได้ โดยเฉพาะเอกสารสำคัญอย่างพินัยกรรม เพราะพยานที่ดีที่สุดคือคนที่ 'รู้จัก' ผู้ลงนามและสามารถให้การในศาลได้ว่าผู้ลงนามมีสติดีจริง (เช่น เพื่อนบ้าน, เพื่อนร่วมงาน) ซึ่งพนักงานของเราไม่สามารถให้การในส่วนนี้ได้
คำถามที่ 4: พินัยกรรม (Will) ต้องใช้พยานกี่คน?
จำนวนพยานขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศหรือรัฐที่จะนำพินัยกรรมไปใช้บังคับ เช่น กฎหมายในรัฐส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกา (เช่น แคลิฟอร์เนีย, นิวยอร์ก) และในอังกฤษ กำหนดให้ต้องมีพยานอย่างน้อย '2 คน' ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งพยานทั้งสองคนต้องเห็นผู้ทำพินัยกรรมลงนาม และต้องลงนามเป็นพยานต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรมและต่อหน้าพยานอีกคนหนึ่ง
คำถามที่ 5: ถ้าฉันหาพยานมาเองไม่ได้ NYC Plus ช่วยได้หรือไม่?
นโยบายหลักของเราคือแนะนำให้ลูกค้าจัดหาพยานที่น่าเชื่อถือและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียมาเอง (เช่น เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนบ้าน) อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จำเป็นหรือฉุกเฉิน และคุณไม่สามารถหาใครได้จริงๆ NYC Plus สามารถจัดหา 'พยานพนักงาน' (Staff Witness) เพื่อลงนามในฐานะพยานส่วนตัวให้ได้ โดยจะมีค่าบริการเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับบริการนี้ โปรดแจ้งความประสงค์นี้กับเราล่วงหน้าเมื่อทำการนัดหมายครับ
วางแผนล่วงหน้าเพื่อความราบรื่น
อย่าให้เอกสารสำคัญของคุณเป็นโมฆะเพราะข้อผิดพลาดเรื่องพยาน
ติดต่อ NYC Plus วันนี้ เพื่อปรึกษาข้อกำหนดในเอกสารของคุณก่อนทำการนัดหมาย
Call Center: 081-5620444, 083-2494999
Email: [email protected] | Line ID: @NYCLI
นัดหมายรับรองเอกสาร